วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
สกู๊ปแนวหน้า : ฟังเสียงผู้ประกอบการ ‘เปิดผับตี4’ดี..แต่ต้องมีสมดุล

สกู๊ปแนวหน้า : ฟังเสียงผู้ประกอบการ ‘เปิดผับตี4’ดี..แต่ต้องมีสมดุล

วันอาทิตย์ ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566, 07.00 น.
Tag : สกู๊ปแนวหน้า
  •  

ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกในหลายแง่มุม หนึ่งในนั้นคือ “แสงสียามราตรี (Nightlife)” การสังสรรค์หลังพระอาทิตย์ตกดิน อาทิ รายงานข่าว 10 hottest party destinations in the world : Thesecities offer the best nightlife and musicfestivals เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 2566 โดยสถานีโทรทัศน์ CNBC TV18 ของอินเดีย ระบุว่า เมืองหลวงของไทยอย่างกรุงเทพฯ อยู่ในอันดับ 5 ของโลก เป็นรองเพียงเกาะไอบีซาของสเปน, เมืองริโอ เดอ จาเนโร ของบราซิล, กรุงเบอร์ลินของเยอรมนี และเมืองนิวออร์ลีนส์ สหรัฐอเมริกา

เช่นเดียวกับ ranker.com เว็บไซต์จัดอันดับเรื่องราวต่างๆ รอบโลก ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2552 ในหัวข้อ The Best Countries for Nightlife ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2566 ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 6 ของโลก เป็นรองเพียงสเปน กรีซ เนเธอร์แลนด์ เลบานอนและญี่ปุ่น หรือหากย้อนไปในช่วงที่สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ยังรุนแรง ในช่วงต้นปี 25563-ปลายปี 2564 ซึ่งมีการใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นเพื่อควบคุมโรค ก็มีรายงานในปี 2564 ว่า มูลค่าความเสียหายของการสั่งปิดสถานบันเทิงนั้นสูงถึงกว่า 1 แสนล้านบาท


ดังนั้นจึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า “แสงสียามราตรีคือหนึ่งในพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ” นำมาสู่ข้อเรียกร้อง “ขยายเวลาเปิดสถานบันเทิง” ซึ่งเคยมีข้อเสนอนี้มาตั้งแต่ปี 2562 สมัยที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยังมี พิพัฒน์ รัชกิจประการ เป็นเจ้ากระทรวง โดยย้ำว่า “ขยายเป็นบางพื้นที่เฉพาะย่านท่องเที่ยวไม่ใช่ทุกจังหวัดหรือทั้งจังหวัด” ท่ามกลาง “แรงต้านจากภาคประชาสังคม” ที่มองว่า “รัฐไม่ควรส่งเสริมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอบายมุขเพราะจะส่งผลกระทบต่อสังคมแบบได้ไม่คุ้มเสีย” ก่อนที่เรื่องจะเงียบไปหลายปีในช่วงโควิด-19 ระบาด

เมื่อสถานการณ์โรคร้ายคลี่คลายลงมาตรการควบคุมโรคถูกยกเลิก การใช้ชีวิตของคนทั่วไปกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ประเด็นขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 ก็ถูกนำกลับมาพูดถึงอีกครั้งทั้งฝ่ายหนุนและค้าน โดยรัฐบาลชุดปัจจุบันภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ได้เปิดเผยเมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2566 ว่า “กรุงเทพฯ-ชลบุรี-เชียงใหม่-ภูเก็ต” จะเป็น 4 จังหวัดนำร่อง

หลังทราบข่าวข้างต้น ผู้สื่อข่าวภูมิภาค ได้ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็น อาทิ ที่ จ.เชียงใหม่ วมินทร์ (สงวนนามสกุล) ผู้ประกอบการร้านอาหาร มองว่า “การขยายเวลาเปิดเพียงอย่างเดียวยังเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ” เพราะแม้จะเปิด-ปิดสถานบันเทิงได้ถึงตี 4 แต่ก็ยังมีกฎหมายเรื่องของการออกใบอนุญาต ซึ่งเป็นกฎหมายเก่าตั้งแต่ปี 2509 รวมถึงยังมีเรื่องอื่นๆ ที่ต้องแก้ไขไปพร้อมกัน

“การที่ออกกฎให้ปิดตี 4 ได้นั้น ถือว่าเป็นเรื่องดีในภาคธุรกิจและเศรษฐกิจ แต่อยากเสนอให้แก้เรื่องข้อกฎหมายหลักก่อน คือ การปิดสถานบันเทิงและงดจำหน่ายเครื่องดื่มในวันสำคัญ เหมือนกับประเทศญี่ปุ่นที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเค้าทำแบบนั้นได้เพราะเค้าเข้มงวดข้อกฎหมาย อย่างเมาแล้วขับ ขณะเดียวกันระบบขนส่งมวลชนจะต้องรองรับหลังเที่ยงคืนขึ้นไปด้วย เพราะต่างจังหวัดขนส่งน้อยและถ้าเรียกแท็กซี่ก็แพงหูฉี่” วมินทร์ กล่าว

เจ้าของร้านอาหารรายนี้ กล่าวต่อไปว่า การนำร่องพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวสำคัญของไทย เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจซึ่งไม่ใช่แค่สถานบันเทิง แต่ยังรวมถึงร้านอาหารอย่าง ร้านข้าวต้ม หรือแม้แต่ตลาดกลางคืนก็ได้รับประโยชน์ด้วย แต่ควรแก้กฎหมายเรื่อง ลุกขึ้นเต้น 3(4) ซึ่งก็ทำให้พนักงานได้รายได้ตามรายชั่วโมงเพิ่มขึ้น รวมถึงกฎหมายอื่นๆ ที่เก่าใช้มานาน เพราะหากไม่แก้ก็จะเป็นช่องโหว่ให้เกิดการทุจริตได้

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ควรหมั่นตรวจตราเรื่องยาเสพติด อาวุธ รวมถึงขนส่งที่เรียกเก็บนักท่องเที่ยว เพราะแท็กซี่หลายพื้นที่มักจะไม่กดมิเตอร์ แต่ใช้ราคาเหมาแทน ส่วนการเปิดให้แสดงความคิดเห็น ภาครัฐควรคัดกรองผู้ประกอบการเข้าไปนำเสนอความคิดเห็นด้วย เพราะต้องยอมรับว่า คนที่ไม่สนับสนุนส่วนใหญ่เค้าได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ อย่างเช่น ครอบครัวเกิดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ ดังนั้นควรชี้แจงให้ชัดเจน

“การเปิดปิดสถานบันเทิงก็เพื่อให้ภาคเศรษฐกิจขยายตัว แต่สุดท้ายก็อยู่ที่ผู้บังคับใช้กฎหมายที่จะทำให้กฎหมายเข้มงวดขึ้นและดูศักดิ์สิทธิ์ในสายตาประชาชน และประชาสัมพันธ์ให้นักเที่ยวนักดื่มหันมาใช้รถขนส่งมวลชนกันให้มากขึ้น ควรนำร่องจังหวัดที่นักท่องเที่ยวสูงๆ ก่อน และค่อยขยายไปยังจังหวัดต่างๆ และร้านค้าควรรองรับรถแท็กซี่เพื่อให้เข้ารับลูกค้าภายในร้านของคุณได้ด้วย ซึ่งจะลดอัตราการเมาแล้วขับได้” วมินทร์ ระบุ

ขณะที่ จ.ชลบุรี สถานที่ตั้งของเมืองท่องเที่ยวระดับโลกอย่าง “พัทยา” ซึ่ง นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา บุญอนันต์ พัฒนสิน ให้ความเห็นว่า การขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 ด้านหนึ่งเป็นนโยบายที่ดี สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวอย่างชัดเจน แต่อีกด้านก็ต้องมีการควบคุมสถานบันเทิงแต่ละประเภทให้ชัดเจน รวมถึงบางพื้นที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยประชาชนก็ต้องการพักผ่อน นโยบายควรชัดเจนเพื่อให้เกิดความสมดุลได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย

“ส่วนใหญ่สถานบันเทิงในเมืองพัทยา อยู่ในช่วงถนนวอล์กกิ้งสตรีท และถนนพัทยาใต้ ส่วนผับเปิดหรือผับโอเพ่น ควรจะมีการควบคุมเสียง ซึ่งในปัจจุบันก็อยู่ตามแหล่งที่พักอาศัย ถึงจะเปิดถึงตี 4 ได้ ก็ไม่อยากให้ไปกระทบกับคนอื่น และอยากให้มีนโยบายดูแลเกี่ยวกับเยาวชน เกี่ยวกับอาวุธปืน เกี่ยวกับยาเสพติด รวมทั้งเรื่องเสียงที่รบกวนผู้พักอาศัยบริเวณดังกล่าว หากสามารถควบคุมได้โซนนิ่งเล็กๆ อาจขยายเป็นโซนนิ่งใหญ่ๆได้ต่อไป”บุญอนันต์ กล่าว

นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา กล่าวต่อไปว่า ในเบื้องต้นผู้ประกอบการทั้ง 2 ฝั่ง คือฝั่งสถานบันเทิงกับฝั่งที่พัก อยู่ระหว่างรอความชัดเจนของนโยบายที่รัฐจะประกาศออกมา ซึ่งจากการที่กำหนดวันเริ่มขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 คือวันที่ 16 ธ.ค. 2566 ก็ยังไม่เห็นมาตรการควบคุมว่าจะมีอะไรบ้าง เช่น การเปิดผับถึงตี 4 ได้ จะต้องมีหลักเกณฑ์และขั้นตอนอย่างไร ในการที่จะสามารภเปิดได้โดยโปร่งใส่ เพราะจะดีกับทั้งผู้ประกอบการที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย รวมถึงผู้บังคับใช้กฎหมาย

“ตอนนี้ทางผู้ประกอบการ ที่ได้เปิดถึงตี 4 ทุกคนแฮปปี้แล้ว ส่วนฝั่งโรงแรมที่พักก็ติงมาเรื่องเสียงอย่าให้เสียงมารบกวนแขกที่มาพักในโรงแรม รวมทั้งการดูแลเรื่องความปลอดภัยเพราะบางครั้งอาจมีคนขาดสติจากคนเมา ซึ่งเรื่องดังกล่าวมีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากสามารถควบคุมได้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวและภาพลักษณ์ที่ดีของเมืองพัทยา” บุญอนันต์ ฝากทิ้งท้าย

นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี, ศุภรักษ์ จิรกิจญาดา

SCOOP@NAEWNA.COM

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘โครงสร้างประชากร’ ระเบิดเวลาสังคมไทย สกู๊ปแนวหน้า : ‘โครงสร้างประชากร’ ระเบิดเวลาสังคมไทย
  • สกู๊ปแนวหน้า : ลดความสูญเสียบนถนน เป้าที่ท้าทายของ‘ปราจีนบุรี’ สกู๊ปแนวหน้า : ลดความสูญเสียบนถนน เป้าที่ท้าทายของ‘ปราจีนบุรี’
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘เหลื่อมล้ำ’ด้านการศึกษา ปัจจัยมากกว่าระบบโรงเรียน สกู๊ปแนวหน้า : ‘เหลื่อมล้ำ’ด้านการศึกษา ปัจจัยมากกว่าระบบโรงเรียน
  • สกู๊ปแนวหน้า : ‘ลมแดด’ภัยหน้าร้อน ‘ไรเดอร์’อีกอาชีพเสี่ยง สกู๊ปแนวหน้า : ‘ลมแดด’ภัยหน้าร้อน ‘ไรเดอร์’อีกอาชีพเสี่ยง
  • สกู๊ปแนวหน้า : ปั้นครีเอเตอร์ไทยสู่ผู้ประกอบการ เสริมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน สกู๊ปแนวหน้า : ปั้นครีเอเตอร์ไทยสู่ผู้ประกอบการ เสริมเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
  • สกู๊ปแนวหน้า : เส้นทางสู่ความยั่งยืน  อุตสาหกรรมการบินของไทย สกู๊ปแนวหน้า : เส้นทางสู่ความยั่งยืน อุตสาหกรรมการบินของไทย
  •  

Breaking News

(คลิป) เมื่อกล้องวงจรปิด 'ชั้น14และบ้านจันทร์ส่องหล้า' เสียพร้อมกัน นอนบ้านไม่ได้นอนชั้น14 ด้วยหรือไม่

KNU ประกาศชัยชนะตีฐานทหารเมียนมาตรงข้ามช่องทางพุน้ำร้อนเมืองกาญจน์แตกกระเจิง

คดี‘ชั้น 14’พ้นพิษ! ‘บิ๊กต่าย’สั่งกองวินัยเตรียมสอบ‘หมอ รพ.ตำรวจ’

ได้โอกาสส่งออก! ‘อินโดนีเซีย’เผยปี’68คาดผลผลิตข้าวเหลือเกินบริโภคในปท.

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved