เปิดใจ‘ลุงสกายแลป’!ซิ่งช่วยเด็กถูกหญิงเมาหลอกขึ้นรถ-ตร.สอบโยงแก๊งลักเด็กหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณี น.ส.ภัทรภร อายุ 47 ปี ชาว จ.อุดรธานี มีสภาพเมาพูดจาไม่รู้เรื่อง หลอกให้เงินเด็กน้อยคนละ 250 บาท ให้พาไปหายายเบียบ คนในหมู่บ้านหนองผึ้ง หมู่ 3 ต.พันดอน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี แต่พอเด็กขึ้นรถมิตซูบิชิ wpander ซึ่งไปด้วยกันทั้งหมด 4 คน เป็นชาย 1 หญิง 3 คน หญิงรายนี้กลับพาขับหนีออกจากหมู่บ้าน มุ่งหน้าสู่ตัวจังหวัดอุดรธานี ตำรวจ สภ.กุมภวาปี สกัดจับกันวุ่น สุดท้ายมาเจอที่ร้านสะดวกซื้อ โดยสภาพของหญิงสาวเมาพูดจาไม่รู้เรื่อง และมีเรื่องที่น่าชื่นชมมีลุงท่านหนึ่งขับสามล้อสกายแลปตามเด็กมาจากบ้านหนองผึ้ง จนมาเจอที่ร้านสะดวกซื้อ และเป็นคนแรกที่ช่วยเด็กๆทั้ง 4 คนไว้ทัน ท่ามกลางความดีใจของผู้ปกครอง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหนองผึ้ง หมู่ 3 ต.พันดอน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี พบกับนายพัก เปี่ยมกระโทก อายุ 62 ปี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “ลุงเป๊ด” ซึ่งเป็นคนที่ขับรถสกายแลปเข้าไปช่วยเหลือเด็กๆได้เป็นคนแรก โดยมีบรรดาผู้ปกครองและเด็กๆทั้ง 4 คน เดินทางมาขอบคุณ
ลุงเป๊ด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 ก.พ.67 ประมาณ 16.00 น. ตนได้ยินเสียงผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสายว่าเด็กในหมู่บ้านหายทั้งหมด 4 คน มีคนเอาขึ้นรถสีดำไปด้วย ทั้ง 4 คนก็เป็นลูกหลานที่รู้จักในหมู่บ้าน ตนก็รีบสตาร์ทสามล้อสกายแลปช่วยออกตามหากับชาวบ้านคนอื่นๆทันที หลังขับสกายแลปออกจากบ้านตนตัดสินใจขับไปทาง อ.กุมภวาปี ตอนแรกไม่คิดจะเจอ พอไปถึงร้านสะดวกซื้อ เห็นเด็กทั้ง 4 คนในร้านสะดวกซื้อ จำได้ว่าเป็นเด็กในหมู่บ้าน พอเด็กเดินออกมา จึงบอกว่ามาหาตา มาขึ้นรถสามล้อ ขณะนั้นผู้หญิงคนดังกล่าวก็บอกว่าเป็นใครมายุ่งกับเด็ก เขาเดินปรี่มาหา ตนก็ผลักออกไป จากนั้นก็บอกเด็กๆว่ารีบขึ้นรถสามล้อเครื่องตา ห้ามลงมา ไม่นานผู้หญิงคนนี้เขาเดินไปที่รถจะขับรถหนี พอเขาเปิดประตูขึ้นไปนั่งที่คนขับ ตนก็รีบวิ่งไปปิดประตูทับขาเขาเอาไว้ บอกว่าอย่าเพิ่งไปไหน ไม่นานตำรวจและกู้ภัยก็มาช่วย
“ดีใจที่ได้ช่วยเหลือเด็กๆเอาไว้ เราห่วงจะมีรถอีกคันมารับเด็กๆไป หากหาไม่เจอ ไม่รู้เด็กๆจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร แม้จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายหากมีอาวุธ ตอนนั้นไม่คิดกลัว ยอมตายเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ทุกคน” ลุงเป๊ด กล่าว
ขณะที่น้องวันใหม่ อายุ 10 ขวบ หนึ่งในน้องที่ถูกหญิงหลอกพาขึ้นรถ กล่าวว่า ตนและเพื่อนรวม 5 คน เล่นอยู่ตรงสี่แยกในหมู่บ้าน ก็มีผู้หญิงเดินมาหา บอกว่ารู้จักบ้านยายเบียบไหม พาไปหน่อย ตนบอกว่ารู้จัก จากนั้นเขาบอกว่าพาไปหาหน่อยจะจ้าง ให้เงินมา 1,000 บาท ไปแบ่งกันคนละ 250 บาท พวกตนจึงอาสาพาไป และเขาบอกให้ขึ้นรถ ไป 4 คนก็พอ เพราะมีเงิน 1,000 บาท แต่พอขึ้นรถเขากลับขับรถออกถนนใหญ่ พวกเราตกใจ และร้องไห้ออกมาดังๆ ช่วงหนึ่งได้ยินเขาโทรคุยกับคนชื่อบอย บอกว่าได้เด็กมาแล้ว ให้เอาไปเปลี่ยนใส่รถตู้ และได้ยินเสียงผู้ชายบอกว่าเข้า จ.อุดรธานี มีด่านสกัด เขาก็เลยวนกลับมายัง อ.กุมภวาปี ตอนนั้นพวกเราตกใจยิ่งร้องไห้ออกมา ตนวางแผนบอกว่าอยากกินไอติม แวะร้านสะดวกซื้อให้หน่อย พอเขาไปจอด ตนก็วิ่งไปบอกพนักงานในร้าน บอกว่า “ช่วยพวกหนูหน่อย ถูกลักพาตัวมา” แล้วบอกเบอร์แม่ให้พี่พนักงานร้านสะดวกซื้อโทรหาว่าอยู่ตรงนี้ จนมีคนมาช่วย
“ไม่รู้ว่าเขาจะบ้าด้วยหรือเปล่า หรือเมา เขาว่าหนูเป็นลูกของเราที่ตายไปจากการทำแท้ง ส่วนเรื่องจริงพวกหนูไม่ได้อยากได้เงินที่เขาเอาให้ แต่อยากจะช่วยเขาไปหายายเบียบเท่านั้น อยากแสดงความมีน้ำใจช่วยเขา แต่ไม่คิดว่าเขาจะโกหกแบบนี้ ต่อไปพวกหนูจะไม่ไปกับคนแปลกหน้าอีกแล้ว” น้องวันใหม่ กล่าว
ด้านนางวีระ มั่นธง อายุ 46 ปี แม่ของน้องวันใหม่ เปิดเผยว่า หลังรู้ข่าวว่าลูกถูกลักพาตัว ตกใจมาก ร้องไห้และก็เป็นลมแล้วลมอีก ญาติๆก็ช่วยประคอง ได้ยินข่าวลือสารพัด บอกว่าลูกถูกจับเข้ารถตู้แล้ว เป็นแก๊งลักพาเด็ก สักพักได้ยินว่าเจอเด็กๆแล้ว ตอนนั้นก็เป็นลมอยู่รีบออกมาดูทันที เพื่อไปเห็นลูกและเพื่อนๆ อยู่ร้านสะดวกซื้อ ก็ดีใจได้เจอลูก ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้ลูกคืนแล้ว คิดว่าถูกแก๊งลักพาเด็กมาขโมยเด็กในหมู่บ้านแน่นอน ได้ยินว่าเขาจะเปลี่ยนขึ้นรถตู้ แต่ไปไม่ทันเพราะมีตำรวจสกัดเอาไว้ทุกทาง และทราบข่าวเขาเป็นเศรษฐีนีใน จ.อุดรธานี เป็นเจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่คนหนึ่ง มีโรงงานด้วย ดีใจที่ได้ลูกคืน โดยอาทิตย์หน้าจะทำพิธีสู่ขวัญให้เด็กๆทั้ง 4 คน
ส่วนความคืบหน้าเรื่องคดี วันที่ 7 ก.พ.67 ที่ สภ.กุมภวาปี ร.ต.อ.จักรกฤษณ์ ศรีกงพาน รอง สว.(สอบสวน) เจ้าของคดี กล่าวว่า ตำรวจได้สอบปากคำหญิงคนนี้ตอนแรกคุยไม่รู้เรื่อง ตอนนี้คุยรู้เรื่องแล้ว ทราบว่าอยากให้เด็กพาไปหายายเบียบ แต่จริงๆแล้วยายเบียบไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับแก๊งลักพาเด็กหรือไม่ ตำรวจจะได้สวบสวนเพิ่มเติม เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหา 2 ข้อหา คือ “เมาแล้วขับ” และ “พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดา” มีโทษ จำคุก 3 ถึง 15 ปี ปรับ 60,000 ถึง 300,000 บาท
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี