nn...ยิ่งนับวันสถานการณ์ปัญหาฝุ่น PM2.5 ในหลายพื้นที่ทุกภาคก็ยังทวีความรุนแรงถึงขั้นอันตรายส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน แม้ว่าศาลปกครองเชียงใหม่มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 19 มกคราคม ที่ผ่านมา สั่งให้“เศรษฐาทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ กำหนดมาตรการหรือจัดทำแผนฉุกเฉินป้องกัน ควบคุม แก้ไข บรรเทา หรือ ระงับภยันตรายอันเกิดจากฝุ่นPM2.5 ซึ่งเกินกว่าค่ามาตรฐานและอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือที่มีประสิทธิภาพอย่างบูรณาการและยั่งยืนให้ทันท่วงทีโดยให้แล้วเสร็จภายใน 90 วันนับแต่วันที่คำพิพากษาถึงที่สุด...ตามที่ สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่กับพวก รวม 10 คน ยื่นฟ้อง นายกรัฐมนตรีและ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติต่อศาลปกครองเชียงใหม่เมื่อวันที่10 เมษายน 2566 ว่าละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าเกินสมควรในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5…หลังจากมีคำพิพากษาดังกล่าวไปก็ยิ่งไม่ค่อยมีท่าทีที่ชัดเจนจากรัฐบาล...ก็ไม่ปรากฏว่า คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ได้กำหนดให้มีการประชุม เป็นกรณีเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5ที่อยู่ในสถานการณ์วิกฤตในระดับที่ 4 และพิจารณากลั่นกรองแนวทางแก้ไขปัญหาหรือบรรเทาผลร้ายจากฝุ่น PM2.5 เสนอต่อนายกรัฐมนตรีเป็นการเร่งด่วน …กรณีนี้จึงถือว่านายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดล่าช้าเกินสมควรในการแก้ไขปัญหาหรือบรรเทาผลร้ายจากฝุ่น PM2.5...เมื่อวันที่ 8 ก.พ.นายกฯเศรษฐา ได้เข้าร่วมประชุมสภาฯและลุกชี้แจงตอบกระทู้ ถึงปัญหาฝุ่น PM2.5ว่า เป็นปัญหาที่มาจากรากเหง้าเศรษฐกิจ เพราะการใช้ไม้ขีดก้านเดียวที่ราคาถูกมากในการเผาตอข้าว ซางข้าวโพด เป็นเรื่องที่เราต้องดูแลให้ดี ไม่ให้กระทำดังกล่าวเกิดขึ้นโดยให้เป็นเรื่องของการไถกลบ และองค์ความรู้ ซึ่งฝ่ายนิติบัญญัติก็พิจารณาร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดอยู่ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นอาจจะเกิดจากประเทศเพื่อนบ้านด้วย เพราะปลูกพืชผลทางการเกษตรเหมือนกันจึงมีความเข้าใจผิดในการกำจัดซากวัชพืช..“และเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ผมได้สั่งการรัฐมนตรีไปดูเกี่ยวกับการเผาป่าหากเกษตรกรรายใดยังมีการเผาอยู่ก็อาจจะถูกตัดสิทธิ์ในการช่วยเหลือจากรัฐบาล ใครที่ทำผิดกฎหมายก็จะต้องมีการบังคับใช้กฎหมายทั้งนี้เป็นที่น่ายินดีว่าตัวเลขที่ผ่านมาการเผาวัชพืชดีขึ้น เพราะทางภาคเหนือจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว หากมีเรื่องของฝุ่นควันก็อาจทำร้ายการท่องเที่ยวได้”…และที่น่าเป็นห่วงจากนี้จะเข้าสู่ฤดูร้อนยาวนานถึง สถานการณ์ฝุ่น จะยิ่งพุ่งขึ้นอีกอย่างหนัก ไม่อยากคิดไปไกลถึงช่วงเมษายน เทศกาลสงกรานต์ ปัญหาฝุ่นจะสาหัสแค่ไหน ทั้งภาคเหนือและทุกภาคในประเทศ...อยากขอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งฝุ่นอย่างเร่งด่วนเป็นรูปธรรม...ก่อนปัญหาฝุ่นจะเลวร้ายวิกฤตไปยิ่งกว่านี้ จนสายเกินไปกระทบทุกภาคส่วน...nn
nn…สัปดาห์ที่ผ่านมาต้องบอกว่ามีเรื่องวุ่นวายในกระทรวงเกษตรฯไล่ตั้งแต่ เรื่อง “อธิบดีกรมการข้าว” โดนแก๊ง“พี่ศรี” ตบทรัพย์แบบตีตั๋วเด็ก 1.5 ล้านบาท แลกปิดข้อมูลการทุจริตภายในกรมการข้าว มีการแฉต่อเนื่องว่าก่อนหน้านี้มีที่ปรึกษาบางคน พยายามพาอธิบดีเข้าเคลียร์แก๊งตบทรัพย์ จนอธิบดีกรมการข้าวต้องออกมาชี้แจงกับสื่อว่า“ไม่มี้ไม่มี ไม่มีใครเกี่ยวข้องทั้งหมด เป็นการวางแผนโดยผมและศรีภรรยาเท่านั้น เพราะแค้นที่มากล่าวหาว่าเมียสุดที่รักค้าตีนไก่ ทนไม่ได้เลยล่อซื้อ จนจับกุมได้ทั้งแก๊งนั่นเอง” …ความวัวยังไม่ทันหายความควายก็เข้ามาแทนที่ เมื่อช่วงเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมาก็เกิดเหตุเพลิงไหม้ ที่ห้อง รมช.ไชยา พรหมา ว่ากันว่างานนี้ทันทีที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ในฐานะ รมว.เกษตรฯ อย่าง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ก็สวมบทพระเอก ที่เป็นที่พึ่งพิงคนในกระทรวงเกษตรฯ เร่งรุดมาตรวจตราที่เกิดเหตุทันที งานนี้ต้องบอกว่าได้ใจคนกระทรวงเกษตรฯเต็มๆ ส่วน รมช.ไชยา ว่ากันว่าหายเงียบ และเข้ามาดูห้องทำงานที่ไไหม้ และแล้ว ท่าน “ไชยา” พร้อมคณะก็โผล่อีกที ตอนเกือบบ่ายสามวันอาทิตย์...งานนี้เมื่อ รมช.ไชยามาถึงและจะเข้าไปดูที่เกิดเหตุ.. เจ้าหน้าที่รปภ.ถึงกับโดดขวางรถทันทีครับ พร้อมกับแจ้งว่า“ท่านครับห้ามเข้า”เพราะมีคำสั่งจากเขา“ห้ามคนภายนอกเข้ากระทรวงเด็ดขาด”...งานนี้เล่นเอา “รมช.ไชยาและทีมที่ปรึกษา ที่แห่แหนมาด้วยถึงกับงง จึงถามเจ้าหน้าที่ รปภ. ใครสั่งห้ามงานนี้ได้รับคำตอบ จากเจ้าหน้าที่รปภ.ว่า” เขาครับ ส่วนเขาคือใครก็เขาคนนั้น“ งานนี้ถึงกับอึ้งทำเอาทีมงานถึงกับออกอาการไม่พอใจเพราะลูกพี่ใหญ่อย่าง รมช.ไชยา ต้องต้องมาเกาะรั้วดูห้องทำงานตัวเอง และให้สัมภาษณ์นอกกระทรวงอย่างน่าสงสาร ใครน้อ ช่างกล้าห้าม “เค้าคือใครน้อ” …อย่าน้อยใจไปเลย รมช.ไชยา เพราะ สื่อก็ถูกคำสั่งจากเขา คนนั้น ห้ามเข้ากระทรวงเด็ดขาดเช่นกันจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง แต่แปลกคำสั่งนี้ห้ามไปถึงพวกม็อบด้วยนะว่า”ม็อบและสื่อห้ามเข้าเด็ดขาดจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงจากผู้มีอำนาจ ซึ่งสื่อก็งงสื่อกับม็อบ ทำไมสั่งห้าม มันเกี่ยวอะไรกันหนอ ต้องบอกว่ากระทรวงเกษตรฯยุคนี้ ยิ่งใหญ่จริงๆ และผู้ที่ใหญ่สุดไม่ใช่ใคร เขานั่นเองว่าแต่ท่านๆ ครับ เขาคือใครถ้าตอบไม่ได้ ยังไงฝากถาม “เขา” ด้วยนะ ขอรับว่า เมื่อไหร่กระทรวงเกษตรฯ จะถึงคราว เคลียร์เรื่องเน่าๆ และกวาดบ้านเสร็จเสียที่ 4 เดือนแล้วนะขอรับ ถามจริงๆ เมื่อไหร่จะเป็นที่พึ่งหวังของเกษตรกรอย่างจริงๆ จังๆ และไร้ข้อกล่าวหาว่าเป็นกระทรวงที่ถูกจับตามองว่ามีการทุจริตเสียที “เค้ารอฟังคำตอบอยู่นะตัวเอง…nn
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี