"นายอำเภอธาตุพนม" เผยการเช่าช่วงพื้นที่ขายของงานนมัสการพระธาตุพนมมีปัญหายืดเยื้อมานานเพราะไม่มีการประมูล เนื่องจากเป็นมติของวัด แต่ยอมรับตรวจสอบยากเป็นการสมยอมสมประโยชน์ แต่ไม่กระทบการจัดงานนมัสการพระธาตุพนมอย่างแน่นอน ด้านอดีต สท.คนดังยันไม่ใช่นายทุน
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากการลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาหาการเช่าช่วงจากผู้ได้สิทธิ์ตรงจากวัดตามเงื่อนไขที่ทางวัดให้คนพื้นที่ก่อน ในช่วงงานนมัสการพระธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ระหว่างวันที่ 17-25 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ จากนั้นนักการเมืองท้องถิ่นที่ร่วมกับกลุ่มพ่อค้า ร้านทอง ร้านอาหารในอำเภอ เข้าไปซื้อต่อเพื่อมาโก่งราคาเพิ่มหลายเท่าตัว จึงกลายเป็นต้นเหตุของปัญหาอันเกิดจากความเห็นแก่ได้ของคนในพื้นที่ ที่ได้สิทธิ์จำหน่ายสินค้าในล็อก โดยจ่ายเงินเพียงไม่กี่พันบาท พบว่าสาเหตุทางวัดพระธาตุพนม ไม่มีมติในการประมูลตรงเพื่อนำเงินเข้าวัดเต็ม 100% ขึงกลายเป็นช่องว่างให้ขบวนการนายทุน ที่มีบารมีใกล้ชิดกับคณะกรรมการวัดบางคน นำคนของตนเองเข้าไปจองสิทธิ์ นำมาเช่าช่วงต่อเป็นทอดๆ ซึ่งปัญหานี้ผูกขาดมานานกว่า 20 ปี
ถึงแม้ปีนี้นายจักรพงษ์ ปทุมไกยะ นายอำเภอธาตุพนม พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง พยายามเข้ามาจัดระเบียบ กระทั่งเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม มีคำสั่งให้ไวยาวัจกรวัดหยุดปฏิบัติหน้าที่ 3 คน รวมถึงกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ อีก 1 คน รวมเป็น 4 คน โดยอ้างว่าเพื่อความโปร่งในระหว่าง ป.ป.ช.เข้าตรวจสอบปมยักยอกเงินวัด สร้างความไม่พอใจแก่กลุ่มไวยาวัจกร ที่ถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จึงออกมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม พร้อมท้าให้กางบัญชีเงินฝาก ตามที่ถูกกล่าวหา แต่ไม่มีสัญญาณตอบรับจากกลุ่มกล่าวหา จึงกลายเป็นความขัดแย้งตามมา
ทั้งนี้ แผงเช่าบริเวณวัดพระธาตุพนม ทั้งภายในวัดและนอกวัดมีประมาณกว่า 1,000 ล็อก ที่ทำจากโครงเหล็กตั้งเป็นร้านชั่วคราว เมื่อสอบถามพ่อค้าแม่ค้าที่นำสินค้ามาขาย มีทั้งอาหาร เครื่องอุปโภค บริโภค เสื้อผ้า ฯลฯ ทราบว่าถ้าเช่าตรงมาจากวัดราคาประมาณ 3,000 -10,000 บาท แล้วแต่ทำเล แต่ยังพบว่ามีบางจุดมีการติดป้ายแสดงเบอร์โทรศัพท์เพื่อให้เช่า จึงมีการโทรสอบถามตามเบอร์ทราบว่า มีการเปิดเช่าช่วงมาจากวัดจริง แต่ต้องการขายช่วง เพราะไม่พร้อมขายของและขอกำไรบวกประมาณ 1 -2 เท่า ซึ่งยังขัดแย้งกับข้อมูลของทางอำเภอธาตุพนม รวมถึงทางคณะกรรมการวัดที่ยืนยันว่า อ้างตรวจสอบแล้วไม่มีการเช่าช่วง
ด้านนายจักรพงษ์ ปทุมไกยะ นายอำเภอธาตุพนม เปิดเผยว่า การเช่าช่วงพื้นที่ขายของงานนมัสการพระธาตุพนมถือว่าเป็นปัญหายืดเยื้อมานานเพราะไม่มีการประมูลเนื่องจากเป็นมติของวัดโดยการพิจารณาเช่าพื้นที่จะดูจากผู้ค้ารายเดิมเป็นหลัก ส่วนคนที่ไม่แสดงสิทธิ์เก่าจะถูกตัดสิทธิ์ ส่วนที่เหลือจะแจ้งให้ลงทะเบียนเพื่อจับฉลาก นำเงินทุกบาททุกสตางค์เข้าวัดทั้งหมด แต่ยอมรับว่าการเช่าช่วงตรวจสอบยากเป็นการสมยอมสมประโยชน์ แต่ไม่กระทบการจัดงานนมัสการพระธาตุพนมอย่างแน่นอน
นายอำเภอธาตุพนมกล่าวต่อว่า หลังจากได้ผู้เช่าครบทุกรายจะมีการตั้งทีม ลงพื้นที่ตรวจสอบบันทึกทำประวัติ เพื่อนำมาตรวจสอบแก้ปัญหาในปีต่อไป หากใครผิดเงื่อนไขให้มีการเช่าช่วงจะถูกตัดสิทธิ์ทันที ต้องขอเวลาทำงานแก้ไขปัญหา ยอมรับว่าการเช่าช่วงโก่งราคามีจริง แต่พอเราไปตรวจสอบไม่มีใครยอมรับ เพราะกลัวตัดสิทธิ์ สุดท้ายต้องหามาตรการมาแก้ไข นอกจากนี้ในส่วนของการดูแลยอดเงินบริจาค มีการตรวจนับสรุปยอดวันต่อวัน คาดว่าปีนี้จะต้องมีเงินทำบุญเข้าวัดมากกว่าที่ผ่านมา ปกติได้ปีละประมาณ 20 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะต้องได้ประมาณ 50 ล้านบาท
ด้านอดีต สท.คนดังได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าจากกรณีมีข่าวดรามาเช่าช่วงพื้นที่ขายของงานนมัสการองค์พระธาตุพนม ยืนยันว่าไม่มีการเช่าช่วง โดยตนมีหน้าที่ทำงานรับจ้าง เป็นตัวแทนบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่เข้ามาประมูล ในการตั้งโครงหลังคาแผงเช่าได้ค่าจ้างจากวัดห้องละ 700 บาท อีกส่วนคือทำหน้าที่อาสาช่วยจัดระเบียบประสานงานกับพ่อค้า แม่ค้าที่มาติดต่อขายสินค้า แต่เงินทุกบาทนำเข้าวัด ทำให้คนอื่นมองว่าตนเป็นนายหน้า แต่บริสุทธิ์ใจในการทำงาน เพราะไม่มีตำแหน่งในวัดพระธาตุพนม ยอมรับว่ามีการโจมตีใส่ร้ายถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา พร้อมให้ตรวจสอบทุกขั้นตอน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี