วันอาทิตย์ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
แนวหน้าTalk : ‘รัดเกล้า สุวรรณคีรี’ ปกป้อง‘ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์’ จุดยืนที่แน่วแน่ของ‘รวมไทยสร้างชาติ’

แนวหน้าTalk : ‘รัดเกล้า สุวรรณคีรี’ ปกป้อง‘ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์’ จุดยืนที่แน่วแน่ของ‘รวมไทยสร้างชาติ’

วันจันทร์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567, 07.15 น.
Tag : รัดเกล้า สุวรรณคีรี
  •  

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) เมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 เป็นการเลือกตั้งครั้งหนึ่งที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากคอการเมืองทั้งไทยและต่างประเทศ เมื่อเกิด “บิ๊กเซอร์ไพรส์” จากกรณีบรรดาพรรคการเมือง “ตัวเต็ง” กลุ่มขั้วอำนาจเดิมที่เคยต่อสู้ขับเคี่ยวกันมากว่า 2 ทศวรรษ ถูก “ม้ามืด” พรรคที่ไม่ได้มีฐานเสียงพื้นที่แน่นหนาอย่าง พรรคก้าวไกล แซงขึ้นเป็นอันดับ 1 ได้ที่นั่ง สส. มากที่สุดในสภา เอาชนะแม้กระทั่ง พรรคเพื่อไทย ที่หลายฝ่ายคาดว่าอย่างไรก็น่าจะได้ที่ 1 แม้ไม่ถึงขั้น “แลนด์สไลด์” อย่างที่ตั้งเป้าไว้ก็ตาม

ต้องยอมรับว่า “ค่ายสีส้ม” มาแรงจริงจากกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ และโดยเฉพาะการยึดกุมฐานเสียง “คนรุ่นใหม่” เจนวาย-เจนซี ก่อความเป็น “ด้อม” อย่างเหนียวแน่นมาตั้งแต่ยังเป็น พรรคอนาคตใหม่ แต่ถึงกระนั้น พรรคก้าวไกลก็ไม่อาจไปถึงฝั่งฝัน เมื่อที่ประชุมร่วมของรัฐสภา อันประกอบด้วย สส. และสภาชิกวุฒิสภา (สว.) ไม่โหวตให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค (ในขณะนั้น) เป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากพรรคก้าวไกลยังคงเดินหน้าประเด็น “อ่อนไหว” อย่างนโยบาย “แก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112” ไม่ยอมถอยแม้ถูกหลายฝ่ายทักท้วง


กระทั่งในวันที่ 31 ม.ค. 2567 ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยว่า นโยบายแก้ไข ม.112 ของพรรคก้าวไกล นำไปสู่การเซาะกร่อนบ่อนทำลายความคุ้มครองต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งศาลก็มิได้วินิจฉัยโดยยึดเพียงการเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น แต่ดูพฤติกรรมอื่นๆ โดยรอบ ทั้งการแสดงความคิดเห็นและการเดินสายปราศรัยของบุคคลในพรรค และเรื่องนี้อาจไม่จบเพียงที่พรรคก้าวไกลต้องหยุดผลักดันนโยบายดังกล่าวตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมีผู้นำคำวินิจฉัยนี้ไปร้องให้ยุบพรรคแล้ว

รายการ “แนวหน้า Talk” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ในตอนที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2567 “เนเน่” รัดเกล้า สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับพรรคก้าวไกล ว่า ในการทำงานหรือการไปออกรายการต่างๆ ร่วมเวทีเดียวกับนักการเมืองจากพรรคก้าวไกล จริงๆ แล้วในพรรคก้าวไกลมีคนที่อยากทำเรื่องดีๆ แก้ไขในเรื่องที่เป็นปัญหาจริงๆ ของประเทศไทย และใน 299 นโยบายของพรรคก้าวไกล ก็มีนโยบายที่ดีๆ อยู่หลายคนก็เป็นนักเคลื่อนไหวต่อสู้มาตลอดจนได้เข้ามาอยู่ในสภา

แต่แทนที่จะให้โอกาสคนเหล่านั้นได้สร้างประโยชน์ พรรคก้าวไกลกลับโยนบุคลากรที่มีคุณภาพ และโยน 299 นโยบายที่มีเรื่องดีๆ ทิ้ง เพียงเพราะนโยบายเดียวคือการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ตนจึงสงสัยว่า 299 นโยบายที่ว่า ชั่งน้ำหนักแล้วทำไมไม่เท่ากับอีก 1 นโยบาย อยากถามว่านโยบายนั้นเพียงนโยบายเดียวมีค่าขนาดนั้นเลยหรือ การเดินหน้าแก้มาตรา 112 ให้ได้ จะทำให้ชีวิตคนไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นขนาดนั้นเลยหรือ

อย่างตนเคยทำคลิปวีดีโอเป็นภาษาอังกฤษตอบโต้พาดหัวข่าวของสื่อต่างชาติ คลิปแรกในช่วงที่มีการประชุมร่วมของรัฐสภา ว่าจะโหวตให้ พิธา เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แล้วสุดท้ายที่ประชุมไม่โหวตให้ สื่อต่างชาติก็ต่างพากันชี้ว่าประชาธิปไตยในประเทศไทยมีปัญหา ตนก็บอกว่าสื่อควรเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา อย่ามาตีกรอบให้เรา และย้อนถามกลับไปว่า มีระบอบการปกครองใดบ้างที่เหมาะสมกับทุกประเทศ ซึ่งตนเชื่อว่าทุกคนคงจะตอบว่าไม่มี ก็ต้องออกแบบให้เหมาะสมกับบริบทของแต่ละประเทศ

อย่างไรก็ตาม ทางพรรคก้าวไกลยังแถลงข่าวเป็นภาษาอังกฤษในลักษณะที่ทำให้ความเข้าใจผิดเพี้ยนไป คือไปใช้คำว่า Treason ที่แปลว่ากบฏ ซึ่งเป็นคำที่รุนแรง กรณีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเรื่องนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ทำให้กระบวนการยุติธรรมของไทยถูกมองว่าไม่มีเหตุผลหรือทำเกินกว่าเหตุ แต่หากจะพูดให้ถูก ต้องใช้คำว่า Overthrow หรือคำว่า Subvertที่แปลว่าล้มล้าง เพราะศาลตัดสินว่าส่อเจตนาล้มล้างและขอให้ยุติการกระทำนั้น เป็นคนละอย่างกับการไปบอกว่าศาลตัดสินว่าเป็นกบฏ ตนก็ต้องทำคลิปภาษาอังกฤษขึ้นมาชี้แจงอีก

“มันอดไม่ได้ที่จะเสียดาย เสียดายที่ว่าทำไม? มันสำคัญอย่างไร? ทำไมคุณต้องยึดมั่นถือมั่นในกฎหมายนี้จังเลย? ในวลีสุดท้ายของคลิปภาษาอังกฤษ เราถึงได้พูดว่าการเมืองไทยไม่ใช่ว่าเดินไปไม่ได้ มันจะเดินไปข้างหน้าได้และเดินไปได้อย่างเข้มแข็งด้วย ถ้านักการเมืองอย่างพวกคุณเลิก Obsess คือเลิกหมกมุ่นอยู่กับการแก้กฎหมายที่มันรังแต่จะสร้างความแตกแยกในประเทศไทย คือจะเห็นต่างหรืออะไร เอาเป็นว่าเห็นได้ชัดจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ประเทศไทยเราไม่พร้อมที่อยากให้คุณมาแตะเรื่องนี้ แล้วจะทำทำไม?” รัดเกล้า กล่าว

ขณะที่กรณีล่าสุดอย่างการ “ป่วนขบวนเสด็จฯ” ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าอาจลุกลามบานปลายและซ้ำรอยบางเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในอดีต รัดเกล้า มองว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นสัญญาณเตือนว่า “เรื่องนี้แตะไม่ได้” และแม้ฝ่ายหนึ่งจะบอกว่า ผู้ก่อเหตุเพียงบีบแตรใส่ขบวนเสด็จฯ เองจะเป็นอะไรนักหนา แต่ตนกำลังจะบอกว่า ประเทศไทยยังมีกลุ่มคนที่ไม่เข้าใจเรื่อง“การเล่นกับความศรัทธาของคน” ให้เปรียบเทียบก็เหมือนกับ “ศาสนา” ที่เราคงไม่เดินเข้าไปในศาสนสถาน ไปชี้รูปปั้นที่ศาสนิกนั้นเคารพนับถือว่าไม่ได้เรื่อง เพราะทำไปก็คงถูกรุมประชาทัณฑ์อย่างแน่นอน

เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ไม่ว่าจะมีอคติต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างไร นั่นคือการพยายามเคารพความเห็นต่างในระบอบประชาธิปไตย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องเคารพในความเห็นของคนที่เขาศรัทธาในสถาบันฯ ด้วย และนี่คือบทพิสูจน์แล้วว่า เรื่องสถาบันฯ แตะแล้วสังคมแตกแยก ดังนั้น อย่าให้เป็นน้ำผึ้งหยดเดียว แค่บีบแตรก็เป็นสัญญาณเตือนแล้วว่าอย่าได้คิดล้มล้าง ซึ่งขนาดยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ยังมี ม.112 อยู่ แต่หากไม่มี ม.112 แล้วก็ไม่รู้ว่าจะกลียุคขนาดไหน

สำหรับพรรคก้าวไกล ตนได้ทักท้วงไปในวันที่ 4 หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งมาตรการอารักขา หรือการรักษาความปลอดภัย เป็นมาตรการที่มีอยู่ตามหลักสากลทั่วไป การไปทำพฤติกรรมนั้นก็เท่ากับละเมิดกฎหมายแล้ว แต่ท่าทีของพรรคก้าวไกล ที่ให้ความเห็นว่าผู้ก่อเหตุที่เป็นเด็ก-เยาวชนพยายามแสดงออกแล้วแต่ผู้ใหญ่ไม่รับฟัง ตนมองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะอุ้มชูให้ท้ายผู้กระทำผิด กลายเป็นทำให้สังคมสับสนว่าผู้ก่อเหตุทำผิดอย่างมีเหตุผล ซึ่งไม่ใช่ นี่ยังไม่ได้พูดถึงว่ามีใครไปประกันตัวให้ออกมาทำผิดซ้ำซาก เพราะอยากให้จบลงแค่เรื่องนี้

“จุดยืนของรวมไทยสร้างชาติตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เรื่องชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ เป็นเรื่องที่เราอย่างไรก็ยึดมั่นที่จะปกป้อง เพราะฉะนั้นคุณแตะหนึ่งในแกนหลักของความเชื่อของ DNA ของเรา ดังนั้นจึงไม่น่าเป็นเรื่องที่แปลกใจอะไรที่รวมไทยสร้างชาติจะรวมตัวกันลุกพรึ่บขึ้นมาในเรื่องนี้ ซึ่งสิ่งที่คุณขิง-เอกนัฏ (เอกนัฏ พร้อมพันธุ์) เลขาธิการพรรคพูดในสภา ที่ว่ายกตัวอย่างให้เห็นภาพ คือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับเจ้าหญิงไดอาน่า อันนั้นเพียงแค่รถปาปาราซซี่ หรือที่เป็นนักข่าวเพียงคันเดียว ทำให้เกิดการสูญเสียที่ร้องไห้กันระงมทั้งโลก

ตอนนั้นเรียนอยู่มัธยมที่ออสเตรเลีย จำได้ว่าคุณครูที่ออสเตรเลียสอนไม่ได้ คือวันนั้นทั้งวันคุณครูทุกคนร้องไห้อย่างเดียว คือไปต่อไม่เป็นเลยสิ่งเดียวกันนั้นมันสามารถเกิดขึ้นได้ ณ วันนั้น ถ้ารถของตะวัน (ผู้ก่อเหตุ) เร่งเร็วกว่านั้นอีกนิดอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ ถ้าวันนั้นเกิดอะไรขึ้นมันจะไม่ได้จบเพียงแค่ถกเถียงกันแค่นี้ มันอาจจะเกิดสงครามกลางเมืองหรืออาจจะเกิดอะไรขึ้นที่หนักกว่านี้ก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่ามองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก รวมไทยสร้างชาติเองมองเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก” รองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าว

แต่การเสนอญัตติด่วนเรื่องการตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างเดียวกันขึ้นอีกเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กลับกลายเป็นว่าทำให้บรรยากาศในสภาดุเดือดขึ้น ซึ่ง เนเน่-รัดเกล้า ให้ความเห็นว่า มีความพยายามนำเรื่องการเมืองมาพ่วงกับการหารือเรื่องมาตรการถวายความปลอดภัยพระบรมวงศานุวงศ์ ทั้งที่หากเป็นเรื่องสิทธิในการแสดงออกหรือเรื่องนิรโทษกรรม ก็มีช่องทางคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ให้ทำอยู่ หากพรรคก้าวไกลจะต่อสู้ควรไปใช้พื้นที่ที่เหมาะสม อย่ามาโหนประเด็นนี้

จากเรื่องของพรรคก้าวไกล เนเน่-รัดเกล้า เล่าถึงบทบาทการทำหน้าที่รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า เริ่มทำงานตั้งแต่เดือน ต.ค. 2566 ลักษณะงานคือเข้าร่วมประชุมกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วนำเนื้อหาจากที่ประชุมมาแถลงข่าว แต่ในมุมของตน “จากที่ไปคลุกคลีกับคนรุ่นใหม่ เห็นว่าส่วนใหญ่รับข้อมูลข่าวสารผ่านแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์อย่างอินสตาแกรม (IG) และทวิตเตอร์ (X) แต่ไม่นิยมอ่านข่าวจากสำนักข่าว” ตนก็พยายามแนะนำสำนักโฆษกให้ทำคู่ขนานกันไป หรืออย่างบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ของตนที่มียอดผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง ตนก็ลุกขึ้นมาทำด้วย เช่น ตัดคลิปวีดีโอสั้นๆ คลิปละ 2 นาที ว่าด้วยวาระสำคัญในที่ประชุม ครม. เพื่อให้เข้าถึง

“บนติ๊กต็อก (TikTok) ตอนนี้ยอดที่มีคนดูตอนนี้ไต่ไปถึง 1.6 ล้าน คือเรื่องขึ้นเงินเดือนข้าราชการ จะสนุกสนานมากถ้าไปอ่านในคอมเมนต์ส่วนใหญ่คือจะก่น-บ่น-ด่า ว่าค่าครองชีพขึ้นแล้วเงินเดือนยังไม่ขึ้นเลย ถ้าจำไม่ผิดเหมือนว่าจะเป็นไตรมาส 2 อันนี้อาจจะไม่แม่นในเรื่องของช่วงเวลา” รัดเกล้า เล่าถึงประเด็นขึ้นเงินเดือนข้าราชการ อันเป็นหนึ่งในหัวข้อที่ได้รับความสนใจอย่างมากบนโลกออนไลน์ และล่าสุด ครม. อนุมัติแล้ว

อีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับความสนใจคือ “สมรสเท่าเทียม” ซึ่งตนได้เข้าไปเป็น กมธ. พิจารณาร่างกฎหมายเรื่องนี้ด้วย และมีกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) ส่งข้อความมาสอบถาม เช่น มีคู่หนึ่งอยู่กันมาสิบกว่าปี ทั้งคู่อายุแตะ 60 ปีแล้ว ยังไม่ได้แต่งงานกันเลย ยังรอว่าเมื่อใดจะมีกฎหมายรับรองการแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกัน โดยล่าสุด ร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมผ่านการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎรในวาระแรก ปัจจุบันยังอยู่ในชั้นกรรมาธิการ ซึ่งมีทั้งหมด 4 ร่าง คือร่างของ ครม. ของภาคประชาชน ของพรรคก้าวไกล และของพรรคประชาธิปัตย์

โดย กมธ. พิจารณากฎหมายสมรสเท่าเทียมต้องนำทั้ง 4 ร่าง มาดูเทียบกันเป็นรายมาตรา โดยเฉพาะประเด็นอ่อนไหวในเรื่องภาษาที่ใช้ เพราะเหมือนกับกำลังเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสังคมไทย เนื่องจากภาษากฎหมายที่ใช้อยู่ในปัจจุบันถูกเขียนขึ้นในบริบทที่ประเทศไทยมีเพียงเพศหญิงกับเพศชาย เช่น คำว่า “สามี-ภรรยา” จะถูกแทนด้วยคำว่า “คู่สมรส” หรือคำว่า “ชู้สาว” ที่ความหมายที่คุ้นเคยกันคือความสัมพันธ์ระหว่างชายกับหญิง แม้จะสามารถใช้กับความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันก็ได้ แต่ก็มีข้อถกเถียงกันว่ายังควรจะใช้คำนี้ในกฎหมายต่อไปหรือไม่

“มันเป็นความละเอียดอ่อนในทุกรายละเอียดของตัวหนังสือที่อยู่ในกฎหมายที่เรามานั่งพิจารณากัน ก็อาจจะเป็นแค่ชู้อย่างเดียวหรือเปล่า?ตัดคำความเป็นเพศสภาพ (สาว) ออกไปจากตัวภาษา ชู้ก็คือชู้ แต่ก็ต้องหารือกันกับทางกฤษฎีกากับทางศาลอย่างใกล้ชิดเหมือนกันเพราะว่าก็อยู่ในเรื่องการตีความของชั้นศาลจะได้รับผลกระทบหรือเปล่า เพราะมันก็มีน้ำหนักในการนำไปใช้พิจารณาเวลามีคดีความขึ้นมาที่แตกต่างกันอีก รายละเอียดเยอะมาก แต่ว่าเร่งทำกัน เป้าหมายเราอยากให้เสร็จสิ้นเข้าให้ทันก่อนที่จะมีการปิดสภาประมาณเดือนเมษา มีนาเราตั้งเป้าจะให้เข้าแล้ว” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ

ขณะที่บทบาทในพรรครวมไทยสร้างชาติ นอกจากจะเข้าไปช่วยเรื่องการสื่อสารสำหรับรัฐมนตรีของพรรคตามกระทรวงต่างๆ (เช่น กระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม ที่มีรัฐมนตรีว่าการ รวมถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงการคลัง ที่มีรัฐมนตรีช่วยว่าการ) ในพรรคยังมีการสร้างทีม “Right” ที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ในพรรครวมไทยสร้างชาติที่เป็นอดีตผู้สมัคร สส. ด้วยเห็นว่า อยากให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมมีพื้นที่รวมศูนย์ โดยคำว่า Right จะแปลว่าเรื่องที่ใช่ หรือแปลว่าฝั่งขวาก็ได้

ซึ่งคนที่เชื่อในเรื่องที่ใช่และสู้ในสิ่งที่ใช่ ไม่จำเป็นต้องเป็นภาคการเมืองอย่างเดียว แต่อาจเป็นภาควิชาการหรือภาคประชาชนที่อยากลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยกันแต่ยังขาดพื้นที่รวมศูนย์ ล่าสุดมีอาสาสมัครเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อายุต่ำสุดคือ 14 ปี โดยอาสาสมัครจะไม่ได้แค่เชียร์อย่างเดียว แต่เข้ามาร่วมผลิตเนื้อหาหรือคิดกลยุทธ์ โดยภารกิจของทีม Right คือการสื่อสารเพื่อตอบโต้สิ่งที่ไม่ถูกต้อง เช่น การเผยแพร่ข่าวปลอม การคุกคามทางเพศ

หรือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็มีการรวบรวมความเห็นของคนที่ไม่อยากให้แก้ แต่หากจะแก้กันให้ได้จริงๆ ก็ต้องไม่แตะหมวด 1-หมวด 2 สามารถรวบรวมได้ราว 2,000 รายชื่อ นำไปยื่นให้ นิกร จำนง ประธานอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ในวันที่ 10 ธ.ค. 2566 ซึ่งตรงกับวันรัฐธรรมนูญ หรือการสื่อสารเรื่องโครงการแลนด์บริดจ์

แม้กระทั่งเมื่อเกิดกรณีบีบแตรป่วนขบวนเสด็จฯ ก็มีคนรุ่นใหม่ที่เห็นว่าหนทางแบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่อยากจะเดิน ขณะที่ตนก็ได้เตือนไปยังพรรคก้าวไกลว่าอย่าใช้วาทกรรมคำว่าคนรุ่นใหม่ เพราะพฤติกรรมดังกล่าวไมได้สะท้อนถึงคนรุ่นใหม่ แต่เป็นเพียงคนรุ่นใหม่กลุ่มเล็กๆ ที่มีความเชื่อเรื่องสิทธิในการแสดงออกแล้วไปเบียดเบียนสิทธิของผู้อื่น ซึ่งก็มีความเห็นจากคนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยที่บอกว่าขอบคุณพรรครวมไทยสร้างชาติที่มีพื้นที่ให้

“ไม่ว่าจะเป็นทั้งในมุมของพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือการทำงานของทีม Right ถ้าใครไม่ได้แค่อยากเชียร์แต่อยากมาร่วมลงมือทำด้วย เราก็มีพื้นที่ตรงนี้อยู่ให้กับคนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาท และอย่างที่บอกว่าตอนนี้ก็มีเข้ามาเรื่อยๆ น้อง 14 15 20 เข้ามาแล้วก็ Active (กระตือรือร้น) กันมากๆ เก่งกันมากๆ เลยด้วย” เนเน่-รัดเกล้า กล่าวย้ำ

หมายเหตุ :สามารถติดตามรายการ“แนวหน้า Talk” ดำเนินรายการโดย บุญยอดสุขถิ่นไทย ได้ผ่านทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์”ทุกวันจันทร์-ศุกร์ ช่วงหัวค่ำโดยประมาณ!!!

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

อาบยาพิษด้อยค่าลูกอิ๊งค์! ‘ปชน.’สบช่องซัด‘ทวี’ เชิญ ‘สทร.’จ้อโชว์แก้ยาเสพติด

ถอนรากถอนโคน! รวบหมดแก๊งโจร ขบวนการลักตัดสายไฟทาง

'ลำไย ไหทองคำ'โชว์ผิวขาวออร่า งัดบิกินี่สดใสสะกดใจ แฟนคลับคอมเมนต์สนั่น

ไม่อยากห่างสามี! 'สาวบัญชีม้า'ขอมอบตัว คดีตุ๋นเงินเหยื่อสูญ 1.5 แสน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved