เจ๋งใช้รังสีอินฟราเรดแสงฯวิเคราะห์ “แจงสุรนารี” พรรณไม้ที่เคยค้นพบว่าเป็นชนิดใหม่ของโลกเมื่อปี 2564 นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยซินโครตรอนงานปังเดินหน้าสร้างมูลค่าพรรณไม้เฉพาะถิ่นโคราช
วันนี้ (5 มี.ค.67) ที่สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) อาคารสิรินธรวิชโชทัย ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี(มทส.) ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) นำโดย ดร.กาญจนา ธรรมนู นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน พร้อมด้วยรองศาสตราจารย์ ดร.ดร.อมรรัตน์ โมฬี ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และนายรุ่งเพชร ปัญญาวุฒิ ผู้รักษาการแทนหัวหน้าฝ่ายสำนักงานอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (อพ.สธ.มทส.) และนักวิจัยของศูนย์ ศึกษาลักษณะกายวิภาคศาสตร์เมล็ด แจงสุรนารี และแจงสยาม ร่วมกันวิเคราะห์การใช้รังสีอินฟราเรดจากแสงซินโครตรอนวิเคราะห์ "แจงสุรนารี" พรรณไม้ที่เคยค้นพบว่าเป็นชนิดใหม่ของโลกเมื่อปี 2564 และเดินหน้าหาสารสำคัญเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างมูลค่าให้กับแจงสุรนารีซึ่งเป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่นจังหวัดนครราชสีมา
ดร.กาญจนา ธรรมนู นักวิทยาศาสตร์สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน เปิดเผยว่า นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันฯ ได้ร่วมกับ นายรุ่งเพชร ปัญญาวุฒิ ผู้รักษาการแทนหัวหน้าฝ่ายสำนักงานอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (อพ.สธ.มทส.) และนักวิจัยของศูนย์ ศึกษาลักษณะกายวิภาคศาสตร์เมล็ด แจงสุรนารี และแจงสยาม โดยใช้รังสีอินฟราเรดจากแสงซินโครตรอน เพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์ จัดจำแนกความแตกต่างระหว่างชนิด และวิเคราะห์สารสำคัญเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และสร้างมูลค่า
รองศาสตราจารย์ ดร.ดร.อมรรัตน์ โมฬี ผู้อำนวยการศูนย์อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวว่า การค้นพบแจงสุรนารี เกิดจากทีมสำรวจของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เก็บตัวอย่างและสำรวจในพื้นที่ อ.สีคิ้ว และ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา โดยเมื่อปี พ.ศ.2564 ดร.ปรัชญา ศรีสง่า นักพฤกษศาสตร์ จากองค์การสวนพฤกษศาสตร์ และ รศ.ดร.สันติ วัฒฐานะ นักพฤกษศาสตร์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์ อพ.สธ.มทส. ตรวจสอบชื่อพฤกษศาสตร์ที่ถูกต้อง พบว่าเป็นพืชชนิดใหม่ของโลก และตั้งชื่อทางพฤษศาสตร์ว่า Maerea koratensis Srisanga & Watthana และตั้งชื่อไทยว่า “แจงสุรนารี” ที่มาของชื่อมาจากชื่อระบุชนิด “koratensis” คือ โคราช หมายถึงจังหวัดแหล่งที่พบ และพบเฉพาะจังหวัดนครราชสีมาเท่านั้น โดยชื่อไทยตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ท้าวสุรนารี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
ด้าน ดร.กาญจนา ธรรมนู กล่าวเพิ่มเติมว่า ต้นแจงเป็นสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์และสรรพคุณของต้นแจง เช่น แก้ลดไข้, แก้วิงเวียน, แก้ปวดเมื่อย ซึ่งทีมวิจัยได้พิสูจน์ความเป็นเอกลักษณ์ของเมล็ดแจงสุรนารี โดยใช้เทคนิค SR IR microspectroscopy เปรียบเทียบเมล็ดแจงสุรนารีกับเมล็ดแจงสยามที่เก็บตัวอย่างจากในพื้นที่ ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ผลการวิเคราะห์พบว่า เมล็ดแจงสุรนารีนั้น มีปริมาณไขมันที่สูงกว่าเมล็ดแจงสยาม ขณะที่เมล็ดแจงสยามมีปริมาณโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตที่สูงกว่า ข้อมูลเบื้องต้นนี้เป็นองค์ความรู้ใหม่ที่จะนำไปสู่การศึกษาเชิงลึก เช่น การหาปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระ การหาสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพเพื่อพัฒนาเป็นเวชภัณฑ์หรือเวชสำอาง เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการยกระดับและพัฒนาพืชสมุนไพรของไทยให้มีมูลค่าเพิ่มสูงต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี