22 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า จากกรณี น.ส.จารุวรรณ  หรือ “เติ้ล” อายุ 32 ปี ชาวบ้าน บ้านบุตาแพง หมู่ 3 ต.หนองไผ่ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ พร้อมน.ส.ลัดดา อายุ 54 ปี ผู้เป็นแม่นั่งรถโดยสารมาเที่ยวที่ จ.อุดรธานี โดยน.ส.จารุวรรณ ต้องการมาหาเพื่อนที่เคยทำงานที่ประเทศไต้หวันด้วยกัน และพักที่รีสอร์ทใน อ.กู่แก้ว ก่อนจะชวนเพื่อนเดินเข้าไปที่ร้านสะดวกซื้อที่ อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี แอบกินยาล้างห้องน้ำ จนล้มฟุบไปนอนกับพื้น ขณะที่เจ้าตัวตั้งท้อง 5 เดือนท่ามกลางความตกใจและช็อกของพนักงาน  

ต่อมากู้ชีพเทศบาลกู่แก้วรีบนำสาวท้องแก่คนนี้นำส่ง รพ.กู่แก้ว แต่อาการหนักต้องรีบนำส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เบื้องต้นจากรายงานของตำรวจ สภ.กู่แก้ว แจ้งว่าหญิงสาวคนดังกล่าวเดินทางมากับแม่จากบุรีรัมย์ เพื่อมาหาแฟนหนุ่มชื่อนายสมศักดิ์ อายุ 39 ปี ชาวบ้านบ้านซำเจริญ หมู่ 8 ต.บ้านจีต อ.กู่แก้ว จ.อุดรธานี แต่เกิดทะเลาะกับแฟนหนุ่มจึงเดินหนีเข้าไปร้านสะดวกซื้อกินยาล้างห้องน้ำเพื่อหวังปลิดชีพตัวเอง ล่าสุดอาการของคุณแม่ท้องแก่คนนี้ปลอดภัยแล้ว 

สำหรับเรื่องนี้ยังเป็นข้อสงสัยว่า สาวตั้งท้อง 5 เดือนเดินปรี่เข้าไปในร้านสะดวกซื้อแล้วกินยาล้างห้องน้ำเพราะสาเหตุใด ทำไมถึงกล้าจบชีวิตไกลจากบ้านเกิดตัวเองแบบนี้  ปรากฏว่า เรื่องนี้ได้ความกระจ่าง เมื่อนายสมศักดิ์ เพื่อนที่เคยทำงานอยู่ไต้หวัน ที่น.ส.จารุวรรณ แวะมาหาและเล่าเรื่องราวทุกข์ใจให้ฟังก่อนจะไปกินน้ำยาล้างห้องน้ำหวิดปลิดชีพตัวเองพร้อมลูก และนายสมศักดิ์บอกว่าอยากให้แก้ข่าวให้ผมด้วย ผมไม่ได้เป็นสามี แต่เป็นเพื่อนที่เคยทำงานประเทศไต้หวันด้วยกัน

โดยนายสมศักดิ์ ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้กับนักข่าว ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่า ผมไม่ใช่สามีของน.ส.จารุวรรณ เขามีสามีอยู่แล้ว โดยน.ส.จารุวรรณทักมาหาผมบอกว่าจะเยี่ยม ก็พาไปเที่ยวหลายที่ทั้งคำชะโนด และที่อื่นๆ ซึ่งจริงๆ แล้วเพื่อนคนนี้เขาจะทักและเดินทางไปหาเพื่อนทุกคนที่เคยทำงานด้วยกันที่ประเทศไต้หวัน พอไปคำชะโนดและเที่ยวหลายที่แล้ว ตอนเย็นก็ให้พักที่รีสอร์ทใน อ.กู่แก้ว กับแม่ของเขา พรุ่งนี้เขาก็จะเดินทางกลับบ้าน ตอนดึกเขาได้โทรหาชวนให้ผมพามาซื้อของร้านสะดวกซื้อเห็นบอกว่าหิวข้าว แต่ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุดังกล่าว

'เราเป็นเพื่อนกันสมัยทำงานไต้หวัน โดย น.ส.จารุวรรณ หรือเติ้ล หากมีเรื่องทุกข์ใจอะไรจะเล่าให้ผมและเพื่อนที่ทำงานให้ฟัง บอกว่า ทุกข์ใจกับแม่และญาติพี่น้อง เพราะขอแต่เงิน เขาเคยคิดจะฆ่าตัวตายครั้งหนึ่งที่ประเทศไต้หวันแล้วแต่เพื่อนช่วยเอาไว้ทัน พอกลับมาบ้าน เขามาสร้างบ้านในที่ดินของญาติพี่น้องที่รับปากจะยกให้เขา แต่พอสร้างเสร็จแล้วไม่ยอมยกที่ให้ ทำให้เขาเครียด ประกอบกับน้องสะใภ้ที่ติดเกมมือถือ ขอเงินทุกวี่ทุกวัน และที่สำคัญ ตัวแม่ของเขาเอง ขอเงินทุกวันเช่นกัน'

เขาเคยระบายให้ฟังว่า แม่น่าจะติดการพนัน และมาเที่ยวครั้งนี้เขาอยากมาคนเดียว แต่แม่ขอมาด้วย และจะส่งแม่ขึ้นรถกลับบ้านก่อนแต่แม่ไม่ยอมไป และพยายามขอเงินลูกสาวตลอดเวลา เขาเลยหนีออกจากมาจากรีสอร์ทและโทรชวนผมพาไปร้านสะดวกซื้อและก่อเหตุดังกล่าว ส่วนสาเหตุคงจะเครียดเรื่องแม่ ญาติพี่น้อง คิดว่าเขาไปทำงานแล้วมีเงินเก็บ จึงทำให้เขาเครียดหวังจบชีวิตตัวเอง

ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง น.ส.ลัดดา แม่ของน.ส.จารุวรรณ ที่ตอนนี้เฝ้าดูอาการของลูกสาวที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี แม่ของน.ส.จารุวรรร บอกว่า นักข่าวจะมาสัมภาษณ์อะไรหรือ ไม่มีอะไรแล้ว ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร น.ส.ลัดดา ก็บอกว่าไม่มีอะไรมาก ลูกสาวประสาทไม่ดี ทำไปไม่รู้เรื่องและป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ลูกอยากมาเที่ยวจึงพามาคำชะโนดไหว้ปู่และหาตะกุดติดไว้ในตัว

ยืนยันลูกไม่ได้เครียดเรื่องแม่ขอเงิน นั่งยันนอนยัน ตอนนี้อาการลูกสาวปลอดภัยแล้ว หมอน่าจะอนุญาติให้กลับบ้านได้ในวันพรุ่งนี้ (23เม.ย.) ขณะเดียวกันแม่นัดนักข่าวให้สัมภาษณ์แต่พอนักข่าวไปพบหน้ารพ.ศุนย์อุดรธานี ก็ติดต่อไปคุณแม่ก็ไม่รับสายและเดินหาจนทั่วก็ไม่เจอ