อย่าดราม่าจนเลยเถิด! นักวิชาการดัง เตือนสติคนไทย ปมพบพระพุทธรูปที่ลาว

อย่าดราม่าจนเลยเถิด! นักวิชาการดัง เตือนสติคนไทย ปมพบพระพุทธรูปที่ลาว

วันเสาร์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 15.56 น.

วันที่ 18 พฤษภาคม 2567 จากกรณี สื่อท้องถิ่นใน สปป.ลาว ได้รายงานว่า ได้มีการพบพระพุทธรูปและวัตถุโบราณหลายชิ้น ภายในหาดทรายกลางแม่น้ำโขง ฝั่งเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ตรงกันข้าม อ.เชียงแสน จ.เชียงราย คาดว่าเป็นบริเวณวัดเก่าแก่และเมืองเก่าสมัยอาณาจักรสุวรรณโคมคำในยุคนับพันปีก่อน

ในขณะที่อีกกระแส ก็มีการคาดว่ามีอายุไม่ถึงร้อยปี จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นประเด็นดราม่า


ล่าสุด นายไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ อาจารย์ประจำภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา (สาขาวิชาการพัฒนาชุมชน) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Chainarong Setthachua” โพสต์ภาพพระพุทธรูปดังกล่าว พร้อมข้อความระบุว่า  อย่าดราม่าจนเลยเถิด

เห็นดราม่าในสื่อหลักบางสำนักและสื่อโซเชียลเกี่ยวกับพระพุทธรูปที่พบใต้หาดของแม่น้ำโขงฝั่งเมืองต้นผึ้ง สปป.ลาว ตรงข้ามกับอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงรายแล้ว ผมรู้สึกเป็นห่วงมาก ๆ โดยเฉพาะมิติความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยกับเพื่อนบ้านที่ดิ่งลงเหว แม้ไม่ได้เป็นนักประวัติศาสตร์ศิลป์ แต่ผมก็อยากเสนอข้อมูลเท่าที่พอรู้และความเห็น เผื่อว่าจะทำให้คนไทยบางพวกมีสติ ไม่แสดงความเห็นเลยเถิดไปมากกว่านี้

@ประเด็นที่หนึ่ง พระพุทธรูปองค์ใหญ่องค์ล่าสุดพร้อมฐานพระที่มีสภาพสมบูรณ์จากหาดทรายกลางแม่น้ำโขงฝั่งเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว งดงามมากครับ ถือว่าเป็นประติมากรรมรูปเคารพชิ้นเอกชิ้นหนึ่งได้

ในเชิงศิลปะ นี่คือพระสมณโคดม ปางมารวิชัยเป็นศิลปะล้านนาสกุลช่างเทิง-เชียงราย มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 21-22 มีลักษณะร่วมกับพระพุทธรูปศิลปะล้านช้าง เห็นได้จากพระพักตร์เสี้ยม เม็ดพระศกเล็ก มีไรพระศก ที่สำคัญ ช่างมีเทคนิคการหล่อโลหะต่างสีมาประกอบเข้าด้วยกันอย่างบรรจง ซึ่งไม่พบในศิลปะสกุลช่างอื่น ๆ

@ประเด็นที่สอง พระใหม่หรือพระเก่า?

ผมไม่รู้ว่าคนที่บอกว่าพระที่พบอายุไม่เกิน 200 ปี ไม่เกิน 50 ปี หรือพระทำใหม่ เอาอะไรมาพูด แต่หากดูบริบทที่แวดล้อม นอกจากพระองค์นี้เป็นประติมากรรมพระพุทธรูปอายุราวพุทธศตวรรษที่ 21-22 ดังที่กล่าวไปแล้ว นักประวัติศาสตร์ศิลป์ ระบุว่าพระพุทธรูปองค์อื่นๆ ที่พบก่อนหน้านี้ก็มีทั้งศิลปะล้านนา ศิลปะล้านนาสกุลช่างเชียงราย-เทิงที่ผสมศิลปะล้านช้าง และศิลปะล้านช้าง ขณะที่เสาวิหารประดับลวดลายแบบล้านนาและจีนที่กำหนดอายุได้ราวพุทธศตวรรษที่ 21 ศิลปะเหล่านี้สอดคล้องกันทั้งหมด

ขณะที่พระทำใหม่หรือพระไม่เกิน 200 ปี ไม่มีศิลปะแบบนี้ครับ เพราะฝีมือเชิงช่างไม่มีทางที่จะทำได้

สำหรับพวกที่ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นพระถอดพิมพ์ ผมก็มีคำถามกลับว่า ใช้พระองค์ไหนมาถอดพิมพ์? หาช่างหล่อที่ไหนมาถอดพิมพ์? และมีโรงหล่อไหนในโลกนี้ที่จะหล่อได้งดงามแบบนี้? ช่วยหาช่างที่มีฝีมือเชิงช่างชั้นครูแบบนี้และโรงหล่อที่หล่อพระได้งดงามแบบนี้มาให้ได้ก่อนครับ ถ้าหาได้ก็ต้องยกให้เป็นเทพของช่างหล่อในยุคปัจจุบันได้เลยครับ

ส่วนที่บอกว่าทำขึ้นมาแล้วไปฝังทรายเพื่อสร้างกระแส ก็มีคำถามว่าคุ้มไหมที่จะทำแบบนั้น พระสำริดขนาดใหญ่นะครับ ไม่ใช่พระทองเหลืององค์เล็ก ๆ การสร้างต้องลงทุนมหาศาลมาก ไหนจะค่าช่าง ค่าโรงหล่อ ค่าโลหะ ถ้าจะทำแบบที่กล่าวหา เขาก็คงลงทุนทำกันแค่หล่อทองเหลืองเท่านั้น ไม่มีใครบ้าี่จะหล่อสำริดแบบนี้หรอกครับ

ที่สำคัญอีกประการ หากซูมองค์พระดูจะพบคราบแคลเซียมบริเวณพระชานุ (เข่า) และอีกหลาย ๆ จุด ขององค์พระ คราบแคลเซียมนี่แหละครับที่ใช้พิจารณาความเป็นพระเก่ากับพระทำใหม่ ถ้าไม่เก่า ไม่มีคราบแคลเซียมครับ

สำหรับผมเมื่อพิจารณาจากศิลปะ บริบทแวดล้อม และคราบแคลเซียม ฟันธงได้เลยครับว่าพระองค์นี้เป็นพระเก่า

@ประเด็นที่สาม สำริดจมน้ำนานเนื้อจะเปื่อยยุ่ยจริงหรือ?

มีคนอ้างตัวว่าเป็นนักโลหะวิทยามือฉมัง เป็นศิษย์เอกเทพเจ้าแห่งวิชาโลหะวิทยาเมืองไทย ที่เป็นผู้แปลและแต่งตำราโลหะวิทยาคนแรกของประเทศไทย บอกว่า หากสำริดจมน้ำไม่ถึง 100 ปี ก็จะยุ่ย ผุ กร่อน ทะลุจนพรุนไปหมด ไม่มีเหลือเป็นองค์พระพุทธรูปสมบูรณ์แบบอย่างที่ขุดเจอ

ประเด็นนี้ คนฟังถ้าไม่คิดก็คงคล้อยตามทันที แต่ผมตอบได้เลยว่าไม่จริงเสมอไป ประติมากรรมสำริดที่อยู่ใต้ดิน มีความชื่นสูง ฝนตกทุกปี อายุนับพันปี ที่ขุดพบในประเทศไทย ตั้งแต่ยุคทวารวดีมา ก็ยังสมบูรณ์เต็มไปหมด หรือแม้แต่ที่อยู่ในโคลนที่มีน้ำก็ยังสมบูรณ์ เช่นที่สำนักข่าว BBC รายงานข่าวเมื่อ 9 November 2022 สรุปได้ว่า นักโบราณคดีชาวอิตาลีค้นพบประติมากรรมสำริด 24 ชิ้น ซึ่งเชื่อกันว่ามีอายุย้อนกลับไปถึงสมัยโรมันโบราณ

ประติมากรรมเหล่านี้ถูกค้นพบใต้ซากปรักหักพังที่เต็มไปด้วยโคลนของห้องอาบน้ำโบราณในซาน กัสเชียโน เดย บาญญี เมืองบนยอดเขาในแคว้นเซียนา ห่างจากกรุงโรมไปทางเหนือประมาณ 160 กม. มีอายุประมาณ 2,300 ปี โดยเป็นประติมากรรมเทพีไฮเจีย เทพเจ้าอพอลโล และเทพเจ้ากรีก-โรมันอื่น ๆ

รูปปั้นส่วนใหญ่ซึ่งพบจมอยู่ใต้น้ำใต้ห้องอาบน้ำพร้อมกับเหรียญทองแดง เงิน และเหรียญทองประมาณ 6,000 เหรียญ มีอายุระหว่างศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสต์ศักราช ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 1 (ดูภาพสุดท้ายประกอบ และหากใครที่อยากอ่านเพิ่มเติมดูลิงค์ข้างล่างในช่องคอมเมนท์ได้ครับ)

ผมเชื่อว่า การที่ประติมากรรมเหล่านี้ไม่เปื่อยยุ่ย เช่นเดียวกับพระพุทธรูปที่ค้นพบในหาดทรายแม่น้ำโขงใน สปป.ลาว เพราะช่างผสมโลหะสำริดที่ลงตัวและทนทานมาก ซึ่งช่างกลโรงงานหรือนักโลหะวิทยามือฉมังในยุคปัจจุบันไม่สามารถทำได้หรอกครับ เพราะความรู้ไม่ถึง

@ประเด็นที่สี่ ไทยดราม่าจนเลยเถิด

กรณีพบพระพุทธรูปครั้งนี้ สำหรับคนลาวและสื่อโซเชียลของลาวส่วนใหญ่เขาก็มีความปลื้มปิติยินดี ขณะที่สื่อไทยและสื่อโซเชียลไทยก็สนใจประเด็นนี้มาก แต่ที่น่าห่วงก็คือ ตอนนี้ประเด็นในโซเชียลของไทยมันไปไกลจนถึงขั้นเหยียดคนลาวอย่างหนัก บางคนที่อ้างตัวว่าเป็นนักโลหะวิทยาตัวยงนำพระพุทธรูปที่พบเหยียดไปถึงเพศสตรีและ LGBTQ ด้วย

ตอนนี้ประเด็นอายุพระไม่สำคัญแล้วหละ เพราะเรื่องอายุถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของคนไทยบางกลุ่มเหยียดเพื่อนบ้านอย่างจงใจ

อ่านความเห็นคนไทยในโลกโซเชียลแล้ว น่าเศร้ามาก และทำให้มีคำถามว่า คนไทยบางจำพวกทำไมถึงมีกมลสันดาน (habitus) แบบนี้? บทเรียนเกี่ยวกับเพื่อนบ้านที่ผ่านมามีมากมาย ทำไมจึงไม่เรียนรู้บ้างว่าจะอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านอย่างอารยชนอย่างไร

สำหรับผม พฤติกรรมเหล่านี้ใครไม่อาย แต่ผมอายแทนคนไทยมาก และอยากขอโทษเพื่อนมิตรชาวลาวที่ประเทศไทยมีคนจำพวกนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : พระพุทธรูปที่ลาวขุดพบ ไม่ควรเป็นของใหม่? ชี้จุดสังเกตฝีมือช่าง

'อาจารย์ต๋อง'ท้าพิสูจน์ พระที่ลาวขุดพบไม่ถึง 500 ปี ชี้หล่อได้ไม่ถึง 2-3 เดือนเอง

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top