‘สจล.’พัฒนาสเปรย์อิมัลชัน  นํ้ามันหอมฯจากพืชลดฝุ่นPM2.5

‘สจล.’พัฒนาสเปรย์อิมัลชัน นํ้ามันหอมฯจากพืชลดฝุ่นPM2.5

วันอาทิตย์ ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

 

รศ.ดร.คำรณวิทย์ ทิพย์มณี รองอธิการบดี วิทยาเขตชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ละอาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า มลพิษทางอากาศต่างๆ รวมทั้งฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5, PM10 ได้สร้างปัญหาให้กับโลก สิ่งแวดล้อม และส่งผลกระทบกับสุขภาพของสิ่งมีชีวิต และมักมีสาเหตุมาจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ ทั้งการคมนาคม การผลิตไฟฟ้า การผลิตในอุตสาหกรรม การเกษตร รวมถึงการเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น การรวมตัวของก๊าซในธรรมชาติ


ซึ่งเราสามารถควบคุมปัจจัยที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศนี้ได้ เช่น การออกกฎหมายควบคุม การเฝ้าระวังและตรวจวัดค่ามลพิษเป็นประจำ พร้อมจัดทำการรายงานผล บริหารจัดการพลังงาน ขนส่ง เชื้อเพลิงให้มีประสิทธิภาพ ออกแบบโรงงาน เครื่องจักรให้สอดคล้องและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมีการใช้เครื่องมือ เครื่องกรอง การดักจับ รวมถึงการฉีดละอองน้ำเพื่อแก้ปัญหาในพื้นที่ที่เหมาะสม

ทั้งนี้ จากงานวิจัยที่ตนเองและทีมวิจัยได้ศึกษามาตลอด เกี่ยวกับพืชธรรมชาติและความหลากหลาย จึงได้พบคุณสมบัติของสารบางตัวที่มีศักยภาพในการจับฝุ่นขนาดเล็กทั้ง PM 2.5 และ PM 10 ได้ดี จึงมีแนวคิดที่พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ได้ศึกษาเกี่ยวกับ Nano/ microemulsionessential oil (nEO) เพื่อเพิ่มคุณภาพอากาศ สามารถฆ่าเชื้อรา แบคทีเรีย มีความปลอดภัย สลายตัวได้เร็ว เป็นการเติมวิตามินให้กับอากาศโดยทำการคัดเลือกชนิดของน้ำมันหอมระเหยจากพืช 20-30 ชนิด เช่น มะกรูด ตะไคร้ ยูคาลิปตัส ขิง

คัดเลือกจากการศึกษาด้านความเป็นประจุของอิมัลชันน้ำมันหอมระเหยแต่ละชนิด จากนั้นการเตรียมสูตรน้ำมันหอมระเหยที่มีคุณสมบัติเหมาะสม ต่อด้วยเตรียมสูตรอิมัลชันของน้ำมันหอมระเหยโดยใช้สารแรงตึงผิวชนิดต่างๆ รวมถึงการลดขนาดอนุภาคสูตรน้ำมันหอมระเหย ในรูปของอิมัลชันน้ำมันหอมระเหย และวิเคราะห์ขนาดอนุภาค จนได้ประสิทธิภาพตามต้องการ นั่นคือ “ระบบสเปรย์อิมัลชัน น้ำมันหอมระเหยจากพืชเพื่อการลดฝุ่น PM2.5” เป็นสูตรนาโนหรือไมโครอิมัลชั่น

ทำให้เป็นอนุภาคประจุลบ สามารถไปเกาะ หรือจับฝุ่นที่มีขนาดเล็กได้ ทั้ง PM2.5 และ PM10 โดยทั่วไปอนุภาคฝุ่นPM ขนาดต่างๆ จะมีประจุทั้งที่เป็นลบและเป็นบวก แต่ส่วนใหญ่อนุภาคฝุ่นจะมีประจุที่เป็นบวก ด้วยอิมัลชันน้ำมันหอมระเหยจากพืชที่ได้จากทดลองครั้งนี้จะมีประจุเป็นลบ รวมถึงการมีตัวทำละลายที่มีประจุเป็นลบดังนั้นจึงมีประสิทธิภาพสูงมากในการจับกับอนุภาคฝุ่น PM2.5 หรือ PM ขนาดต่างๆ ที่ส่วนใหญ่มีประจุเป็นบวก ซึ่งถือว่าเป็นการทำความสะอาดอากาศ รวมไปถึงการเติมวิตามินในระบบอากาศได้

“มีการนำไปใช้จริงแล้วกับสวนสาธารณะ 3 แห่ง คือสวนสาธารณะทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา, สวนสาธารณะบางแคภิรมย์ เขตบางแค และสวนสาธารณะธนบุรีภิรมย์ เขตทุ่งครุ ซึ่งพบว่าสามารถลดฝุ่น PM 2.5 ให้น้อยลงได้ถึง 6 เท่า เมื่อเทียบกับการสเปรย์ด้วยน้ำเปล่า และสามารถลดปริมาณฝุ่นได้ต่ำกว่าค่ามาตรฐานในขณะที่น้ำเปล่าไม่สามารถลดได้ โดยมีอัตราส่วนในการใช้ คือ สูตรน้ำมันหอมระเหย 3 ลิตร ต่อน้ำ 220 ลิตร ผสมให้เข้ากันแล้วนำไปสเปรย์ในพื้นที่” รศ.ดร.คำรณวิทย์ กล่าว

รศ. ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. กล่าวเสริมว่า สจล. มีความมุ่งมั่นที่สร้างนวัตกรรมที่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน และมีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศมาโดยตลอด และปัญหาที่สำคัญเกี่ยวกับสุขภาพของคนไทยในขณะนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องมลพิษทางอากาศ อย่างเช่น PM2.5 / PM10ที่เป็นภัยต่อสิ่งมีชีวิต มีผลกระทบต่อความสมดุลของระบบนิเวศวิทยา เปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และความเสี่ยงในการสูญพันธุ์ของสปีชีส์ต่างๆ อีกด้วย

พร้อมตั้งเป้าหมายด้านความยั่งยืนและก้าวไปสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมระดับโลก หรือ The World Master of Innovation สร้างนวัตกรรมที่ใช้ได้จริงและเป็นประโยชน์ในอนาคต นอกจากนี้ ยังเตรียมจัดงานแสดงนวัตกรรมครั้งยิ่งใหญ่ ในงาน “KMITL Innovation Expo 2025” ระหว่างวันที่ 6-8 ม.ค. 2568 ณ หอประชุมเจ้าพระยาสุรวงษ์ไวยวัฒน์ (วรบุนนาค)

ติดตามความเคลื่อนไหวได้ทาง https://www.facebook.com/kmitlofficial และเว็บไซต์ https://www.kmitl.ac.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-3298000

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top