‘นายกฯนักประดิษฐ์ฯ’ ไทยกำลังเสียกรุงครั้งที่ 3 และหากปล่อยไว้ อีกไม่นาน ไทยจะเป็นเมืองขึ้นต่างชาติ และลูกหลานจะเป็นทาส ต่างชาติยุคใหม่ ลุยต้าน ‘กลุ่มทุนจีนเทา’ ต่อเนื่อง โวยแหลก เข้าแทรกซึมวิถีชีวิตของคนไทย หลังมีคนแฉเรื่องการนำสินค้าไม่ได้มาตรฐานมาหลอกลวงคนไทย ย้ำพร้อมรวมกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากกลุ่มทุนจีนเทา เข้าฟ้องร้องต่อศาลเพื่อปกป้องสินค้าและนวัตกรรมไทย จี้ ‘พณ. - มท. - กต.’ สร้างแอ็คชั่นในการแก้ไขปัญหาคนไทย 

นายภณวัชร์นันท์ ไกรมาตย์ นายกสมาคมนักประดิษฐ์และนวัตกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวถึง กรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดกลุ่มทุนจีนเทา ที่กำลังแทรกซึมไปในวิถีชีวิตประจำวันของประชาชน ในขณะนี้ว่า ตนมองว่าเวลานี้กลุ่มทุนจีนเทาได้คุกคามวิถีชีวิตของประชาชนคนไทยในระดับรากลึกลงไปแล้ว เพราะกลุ่มทุนจีนเทาได้ตั้งบริษัทเพื่อดำเนินการส่งสินค้าที่ปลอมแปลงและไม่ได้มาตรฐาน มาหลอกลวงคนไทย ทำให้ได้รับสินค้าไม่เหมาะสมกับการใช้ประโยชน์ และต้องสูญเสียเงินและความรู้สึกเป็นอย่างมาก ซึ่งตนต้องขอบคุณคนไทยที่เปิดเผยกลโกงของกลุ่มทุนจีนเทาในเรื่องนี้ว่า หากใครเปิดเผยจะถูกไล่ออก แต่หัวจิตหัวใจคนที่มาเปิดเผยนั้น นอกจากไม่กลัวที่จะถูกไล่ออกแล้ว ยังถือเป็นการสร้างกุศลให้กับคนไทยทั้งประเทศให้เห็นถึงความชั่วร้ายของกลุ่มทุนจีนเทา ที่ทำได้ทุกอย่างเพียงเพื่อเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง โดยไม่สนเรื่องผิดถูกใดๆ ทั้งสิ้น 

นายภณวัชร์นันท์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของตนที่กำลังจะดำเนินการฟ้องร้องกลุ่มทุนจีนเทาผู้ลอกเลียนแบบผลิตภัณฑ์นวัตกรรมของคนไทย ได้เคยประกาศว่า จะฟ้องทุกตัวบทกฎหมายที่เกี่ยวข้องและไม่มีการประนีประนอมยอมความใดๆ ทั้งสิ้น นั้น ปรากฏว่า ยังมีสินค้าจำนวนมากที่ผู้ประกอบการได้มาบอกกับตนว่า กลุ่มทุนจีนเทาดำเนินการปลอมแปลงสินค้า จนสร้างความเดือดร้อนและเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับผู้ผลิตเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้น ตนจึงอยากให้ผู้ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับตน ได้มาปรึกษาหารือ เพื่อที่จะดำเนินการฟ้องร้องเป็นกลุ่มต่อไป เพื่อแสดงให้เห็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น รวมทั้ง เป็นการปกป้องสินค้าและนวัตกรรมของไทย ไม่ให้ถูกกลุ่มทุนจีนเทาหรือกลุ่มผู้ไม่หวังดี มาดำเนินการลอกเลียนแบบสินค้าและมาเอารัดเอาเปรียบคนไทยอีกต่อไป 

“ผมไม่พอใจในเรื่องกลุ่มทุนจีนเทา ที่เข้ามาทำร้ายประเทศไทยโดยการแทรกซึมในส่วนต่างๆ จนกระทั่งผมเชื่อว่า ตอนนี้มีการตั้งฐานปฏิบัติการการกระทำผิดซึ่งเชื่อมโยงในระดับโลกไปแล้ว แต่ที่ผมช้ำใจมากที่สุด ก็คือ คนไทยด้วยกันเองที่ไปสยบสมยอมเป็นไม้เป็นมือให้กับกลุ่มทุนจีนเทาเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ตนก็รู้สึกดีใจที่มีคนตื่นตัวในเรื่องพิษภัยของกลุ่มทุนจีนเทา ซึ่งเข้าไปในวิถีชีวิตของคนไทยแล้ว ซึ่งผมเองได้เอ่ยเตือนคนไทยตั้งแต่สมัยที่กลุ่มทุนจีนเทาเริ่มคืบคลานเข้ามา แล้วผมก็เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากกลุ่มทุนจีนเทา เนื่องจากมีการลอกเลียนสินค้านวัตกรรมของคนไทยในการป้องกันเหตุเพลิงไหม้ จนทำให้สินค้าที่คิดประดิษฐ์โดยคนไทยและได้รับรางวัลมากมายระดับโลก กลับต้องมาถูกตีกลับ เนื่องจากผู้ลอกเลียนแบบสร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้บริโภค โดยพวกกลุ่มทุนจีนเทา เอาเลขทะเบียนบริษัทฯ ที่สามารถสืบค้นได้ทั่วไปในเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แล้วนำไปสมัครในแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ต่างๆ กันอย่างเอิกเกริก และได้ขายของลอกเลียนแบบและไร้มาตรฐาน โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบริษัทฯ หรือเจ้าของผลงานแต่อย่างใด และถึงแม้จะพยายามติดต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ตัวแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รับสมัคร ก็ไม่ได้รับการตอบสนองแต่อย่างใด 

จนกระทั่งในวันนี้ ที่ผมเห็นข่าวอิทธิฤทธิ์ของกลุ่มทุนจีนเทาที่แทรกซึมไปในทุกวงการ จนกระทั่ง สามารถควบคุมกิจการสำคัญๆ ของคนไทยไปแทบจะทั้งหมดแล้ว ดังจะเห็นได้จาก การที่นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่าปัจจุบันมีสถิติบริษัทไทยที่จดจัดตั้งโดยนอมินีจีน เพิ่มมากขึ้น อย่างปีที่แล้วมีประมาณ 300 บริษัท แต่หากย้อนหลังไปประมาณ 5 ปี มีประมาณ 500-600 บริษัท โดยเป็นเงื่อนไขเดียวกันคือใช้คนไทยถือหุ้น 51% ถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก เพราะฉะนั้น ผมจึงอยากให้ รัฐบาลยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจในทุกมิติ ทั้งในการแก้ไขหรือยกร่างกฎหมายใหม่ คือ พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ที่ผมได้เสนอไปก่อนหน้านี้ เพื่อป้องกันคนไทยที่ไปเป็นนอมินีให้กับกลุ่มทุนอาชญากรรมข้ามชาติ และผมอยากให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ สร้างแอ็คชั่นในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะตอนนี้มันแทรกซึมเข้าสู่ชีวิตคนไทยไปแล้ว ” นายภณวัชรนันท์กล่าว