คณะสงฆ์เชียงรายนำน้ำใจชาวไทยซับน้ำตาวัดในมัณฑะเลย์ชี้กฎแห่งกรรมเตือนสติ
"พระครูธีรธรรมปราโมทย์" หรือ"หลวงพ่อสำเริง ธมฺมธีโร" เจ้าอาวาส วัดดอยเทพนิมิต ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย พร้อมด้วย"พระครูหิรัญอาวาสวัตร" เจ้าอาวาส วัดหิรัญญาวาส จ.เชียงราย และคณะสงฆ์จังหวัดเชียงรายจำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมายังเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา(พม่า)เพื่อนำปัจจัยและเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้วัดต่างๆในเมืองมัณฑะเลย์
พระครูหิรัญอาวาสวัตรกล่าวว่า มาที่นี่เพื่อเป็นตัวแทนคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย ซึ่งถือว่าเป็นชุดแรก และจะมีชุุดที่สองตามมา วัดแห่งแรกที่เรามานี้ชื่อวัดเลขมินจอง ซึ่งได้รับผลกระทบ โดยจะเห็นว่ากุฏิของพระสงฆ์พังหมด เรียกว่าต้องใช้กำลังของพระสงฆ์ปรับพื้นที่ ครั้งนี้มีของมากมายที่เอามาแจกและเราจะดูว่าความช่วยเหลือจะมีอะไรอีกมาก อาจจะเป็นการก่อสร้าง
ขณะที่ "พระครูธีรธรรมปราโมทย์" ให้หลักธรรมว่าความเสียหายก็เสียหายหลายหลัง ดีใจที่ได้มาช่วยเพราะพระไม่มีรายได้ ก็มีแต่จากชาวบ้าน แล้วก็ต้องช่วยกันดูแลพระในพระพุทธศาสนา ให้กำลังใจกับพระ โดยในพื้นที่เมืองสะกายเสียหายมาก ที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ก็มีคนช่วยเหลือตามอัตภาพ หลายประเทศก็ได้เข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งตึกบางแห่งที่ชาวจีนมาเช่าเพื่อทำธุรกิจสีเทามีผู้เสียชีวิตมากจนต้องใช้รถแมคโครมาขนไปทั้งดินและศพ เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เห็นสภาวะธรรมของกฎแห่งกรรมและความไม่เที่ยง ซึ่งกรณีหลักกรรมเมื่อเจ้ากรรมนายเวรหาไม่เจอจะถูกธรรมชาติจัดการอีกที เพราะฉะนั้นให้อยู่ในศีลในธรรม ไม่ใส่ร้ายกัน
ด้าน"พระปลัดสมทบ เนตรผา" (ปรกฺกโม) หรือ "พระอาจารย์สมทบ ปรกฺกโม" เจ้าคณะตำบลโครกครามและผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกลาง จ.สุพรรณบุรี เมตตาแสดงธรรมเทศนาในหัวข้อธรรมในใจรับภัยพิบัติ ตอน แผ่นดินไหวใจไม่ไหว โดยมีเนื้อหาทำให้เห็นว่า กรรมอะไรที่ทำให้มนุษย์ต้องมาเผชิญกับแผ่นดินไหว ซึ่งมีเนื้อหาสาระสำคัญบางส่วนดังนี้
"แม้แต่ชาวเมียนมาที่มาทำงานบ้าง อพยพมาบ้าง หรือแม้แต่มาซื้อที่ทางในประเทศไทยบ้างก็ยังมีใจฝักใฝ่ทั้งสองข้าง อาจจะเชียร์ฝ่ายเดิม หรือ เชียร์ฝ่ายใหม่อย่างนี้เป็นต้นยังมีการลุ้นส่งของเสบียงกรังเข้าไปช่วยเหลือกันและกันหรือไม่ ก็ต้องมาเจาะดูว่าบาปกรรมก็ดี อกุศลกรรมก็ดีที่มันเกิดขึ้นจากการเบียดเบียนกันและกันมันมีผลไหม อยากให้พวกเราทั้งหลายตั้งข้อสังเกตตรงนี้ ไม่ใช่ไปสาวแต่เราต้องรู้การที่เราศึกษาคำสอนของพระพุทธเจ้า เราก็ต้องเข้าใจ และอีกอย่างหนึ่งแม้ในบ้านเราเอง เราก็ได้สร้างกรรมแห่งการแตกแยกไว้
ตรงนี้ถ้าเราไปเกิดความอาฆาตพยาบาทและก็เบียดเบียน หรือไปเข้าร่วมอะไรก็แล้วแต่ ในที่สุดอกุศลทั้งหลายเหล่านี้ เราก็เป็นผู้กระทำอยู่ดี ฉะนั้นในขณะที่เราเกิดความโกรธ เกิดความอาฆาต เกิดความพยาบาทกัน แล้วก็ผลักพฤติกรรมออกมาจากคำพูดและการกระทำำ มีการไปเบียดเบียนกระแสชีวิตกันจริงๆ เมื่อคนส่วนใหญ่ ประเทศใด ในสังคมใด ร่วมกันทำอกุศล ฉะนั้นบาปอกุศลที่มนุษย์ทำำ มันผลักออกมาจริงๆ มันทำให้ชั้นบรรยากาศและสภาพแวดล้อมมันสูญเสียได้จริงๆและบาปกรรมที่กระแสชีวิตของหมู่สัตว์ทำเอาไว้
พระพุทธเจ้าตรัสไว้แล้วว่า เรามีกรรมเป็นสมบัติของตน เราเป็นทายาทของกรรมดีและกรรมชั่ว เรามีกรรมดีและกรรมชั่วเป็นสาเหตุแห่งทุกข์ เรามีกรรมเป็นพวกพ้องเป็นญาติมิตร และเรามีกรรมเป็นปฏิสรณะ คือ เป็นที่พึ่งที่อาศัย ทั้งกุศลกรรมและอกุศลกรรม ฉะนั้น เมื่อเรากระทำมโนทุจริต วจีทุจริต กายทุจริต หรือกระทำการกระตุ้นเตือนให้สังคมเกิดมโนทุจริต วจีทุจริต กายทุจริต กรรมเหล่านี้ที่ทำทำก็กลายเป็นสมบัติตามเบียดเบียนสัตว์ในอัตภาพนี้และอัตภาพต่อๆไป"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี