26 พฤษภาคม 2568 เชฟชื่อดัง 'เชฟเอก' เอกพล พิชวงศ์ เจ้าของรางวัล Michelin Guide จากร้านเอกฉันท์ จ.เชียงใหม่ เชฟผู้ช่ำชองด้านอาหารไทยโบราณ ได้ออกมาโพสต์เตือนภัยในเฟซบุ๊กส่วนตัว "Eakpol Pichchawong" ระบุข้อความว่า "อยากเตือนภัยคนทำขนมและผู้บริโภคเกี่ยวกับ “แผ่นทองตกแต่งขนม” ที่อาจไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่คิด" เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้ซื้อแผ่นทองตกแต่งขนมจากร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่ที่ถือว่าใหญ่ที่สุดร้านหนึ่งในเชียงใหม่ — บนฉลากระบุชัดเจนว่าเป็น “แผ่นทองติดขนม” แต่เมื่อได้ของมา กลับพบความผิดสังเกตหลายประการ
• ตัวทองมีความหนามากกว่าทองคำเปลวทั่วไป
• เมื่อสัมผัสกับมือ รู้สึกคล้ายคราบพลาสติก
• เมื่อนำไปเผา กลับกลายเป็นสีดำ คล้ายการเผาฟอยล์หรือพลาสติก
จากการทดสอบเบื้องต้นเหล่านี้ สรุปได้ว่า นี่ไม่ใช่ทองคำแท้ หรือทองที่สามารถรับประทานได้ (Edible Gold) — แม้จะมีคำว่า “ตกแต่งขนม” บนฉลากก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลคือ หากมีผู้ประกอบการหรือเชฟที่ไม่ทันสังเกต และใช้แผ่นทองประเภทนี้ไปกับขนมหรืออาหารโดยไม่ทราบ อาจเกิดอันตรายต่อผู้บริโภคโดยไม่รู้ตัวผมอยากฝากถึงร้านค้าที่จัดจำหน่ายอุปกรณ์ขนมควรตรวจสอบแหล่งที่มาและความปลอดภัยของวัตถุดิบทุกชิ้น โดยเฉพาะสิ่งที่ใช้ “ตกแต่งอาหาร” เพราะไม่ใช่ทุกอย่างที่ดูดี จะ “กินได้” อย่างปลอดภัยจริงต้นทุนที่ถูกอาจแลกมาด้วยความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม
สำหรับเพื่อนๆ ที่ทำขนมหากซื้อแผ่นทองตกแต่งมาใช้ ลองตรวจสอบก่อนใช้เสมอ
• ถ้าทองมีความหนาเกินไป
• ถ้าสัมผัสแล้วรู้สึกไม่เหมือนทองคำเปลว
• ถ้าเผาแล้วกลายเป็นขี้เถ้าหรือดำ
อย่าใช้กับอาหารเด็ดขาด เพราะสุขภาพของลูกค้าคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ทองคำแท้ที่เราใช้ในการปรุงอาหาร เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยของผู้บริโภคและความถูกต้องของวัตถุดิบที่ใช้ในร้าน เราได้ทำการจัดซื้อ ทองคำแท้ในรูปแบบทองคำเปลวบริสุทธิ์ จากร้านทองที่น่าเชื่อถือ ซึ่งมีการรับรองมาตรฐานความบริสุทธิ์ของทองคำ
เราได้ทำการทดสอบด้วยวิธีพื้นฐานโดยการใช้ไฟเผาทองคำเปลวที่ได้มา ซึ่งจากการทดลองนั้น ทองไม่เกิดการเปลี่ยนสี ไม่กลายเป็นสีดำหรือเป็นคราบเหมือนวัสดุสังเคราะห์อื่น แต่ยังคงมีลักษณะของทองแท้คือ ละลายเล็กน้อยและเคลือบติดบนพื้นผิวของวัสดุที่สัมผัสกับไฟ โดยไม่มีการหลุดลอกหรือกลายสภาพเป็นสีอื่น ซึ่งยืนยันได้ว่าเป็นทองคำแท้ และปลอดภัยเมื่อนำมาใช้ในงานตกแต่งอาหารหรือขนมระดับพรีเมียม
ทั้งนี้เชฟเอก ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมอีกว่า ทองคำแท้ในอาหาร: ความงดงามที่บริสุทธิ์ และความรู้ที่ควรเข้าใจ หลังจากที่โพสต์ก่อนหน้านี้เกี่ยวกับทองคำปลอมที่อาจเป็นอันตรายถูกแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง เราอยากใช้โอกาสนี้เพื่ออธิบายถึง “ทองคำแท้” ที่ถูกต้องในการใช้ตกแต่งอาหาร และสร้างความเข้าใจให้ชัดเจนขึ้นในมุมมองของผู้ปรุงอาหารที่ให้ความสำคัญกับทั้งความงามและความปลอดภัยของผู้บริโภค
ทองคำที่เราใช้ในร้านเอกฉันท์ คือ ทองคำแท้บริสุทธิ์ 99.99% ที่ได้จากร้านจำหน่ายทองคำโดยตรง เราทำการทดสอบด้วยการเผาไฟเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ — พบว่าทองไม่เปลี่ยนสี ไม่ดำ ไม่ละลายจนกลายเป็นคราบพลาสติกหรือฟอยล์ แต่จะคงความเงางามไว้ และเคลือบติดบนวัสดุอย่างแน่นหนา เป็นหลักฐานหนึ่งของความแท้และปลอดภัย
ทำไมต้องใช้ทองคำแท้ในอาหาร? ในหลายวัฒนธรรม เช่น อินเดีย จีน ญี่ปุ่น และยุโรป ทองคำแท้ถูกใช้ในการตกแต่งอาหารระดับสูงมานานหลายร้อยปี โดยเฉพาะในงานเฉลิมฉลองหรือพิธีสำคัญ เนื่องจากทองคำไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีในร่างกาย (เป็นสารเฉื่อยทางชีวภาพ) จึง ไม่เป็นพิษต่อร่างกายเมื่อบริโภคในปริมาณน้อย และยังเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่ง ความบริสุทธิ์ และการให้เกียรติแขกผู้มาร่วมโต๊ะอาหาร
แล้วทองคำมีประโยชน์อะไรกับร่างกายหรือไม่? แม้ทองคำจะไม่มีคุณค่าทางโภชนาการโดยตรง แต่ในศาสตร์อายุรเวทและแพทย์แผนโบราณบางแขนง เชื่อว่าทองคำมีพลังงานในเชิงสมดุล และช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตใจผ่านพลังงานบวก (เป็นความเชื่อทางวัฒนธรรม ไม่ใช่ข้อพิสูจน์ทางการแพทย์)
สิ่งสำคัญคือ “ความเข้าใจและความรับผิดชอบ” ทองคำที่ใช้ในอาหารต้องเป็น Food Grade Edible Gold เท่านั้น ห้ามใช้วัสดุที่ดูคล้ายทองคำ เช่น ฟอยล์โลหะ ทองปลอม หรือวัสดุตกแต่งที่มีสารเคลือบอันตราย เพราะอาจก่ออันตรายต่อสุขภาพโดยไม่รู้ตัว
ร้านเอกฉันท์ยืนยันในการใช้ทองคำแท้เท่านั้น พร้อมตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างโปร่งใสและให้ความรู้แก่ลูกค้าเพื่อสร้างความมั่นใจ และเพื่อให้ทุกคำที่ลูกค้าได้รับ ไม่ใช่แค่รสชาติที่ดี แต่เป็นประสบการณ์ที่ปลอดภัย งดงาม และซื่อตรงต่อจิตวิญญาณของอาหาร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี