31 พฤษภาคม 2568 เฟซบุ๊กเพจ 'คลินิกเด็กหมอรัชนีกร ศรีสงคราม' โพสต์ข้อความระบุว่า case สวยมากสำหรับการเรียนรู้ แต่ไม่สวยงามในชีวิตจริง รักษาได้ถ้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และให้วิตามิน *ขออนุญาตผู้ปกครองน้องแล้วนะคะ 

ตั้งแต่ทำงานมาเพิ่งเจอเคสเคยเจอตอนสมัยเรียนกุมารแพทย์ admission round ยามเช้าที่จะมีอาจารย์แพทย์เด็กสาขาต่างๆ พร้อมกับนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่4,5,extern,แพทย์ใช้ทุน,แพทย์ประจำบ้าน มาร่วม discuss case ด้วยความสนุกสนานและหวาดหวั่นเกรงอาจารย์กินหัว

เคสเด็กชาย 3 ปี 6 เดือน มา รพ.ด้วยอาการปวดขา ปวดเข่า 2 ข้างเดินไม่ได้ ร่วมกับเหงือกมีเลือดออกและบวมแดง เป็นมา 1 สัปดาห์ ปฏิเสธประวัติอุบัติเหตุ (เหงือกมีเลือดออกเป็นมา3วัน)ไม่มีไข้ ไม่มีต่อมน้ำเหลืองโต ไม่มีตับม้ามโต

ตอนแรกคิดถึง leukemia (มะเร็งเม็ดเลือดขาว) หรือโรคเกร็ดเลือดต่ำ ภูมิคุ้มกันต่อต้านตัวเอง(autoimmune)ไข้ติดเชื้อรุนแรง เป็นต้น ระหว่างรอแล็บแอบคิดถึง รพ.ปลายทางที่จะส่งต่อ อุดรรึศรีนครินทร์น้อที่มีหมอโรคมะเร็งเด็กในใจคิดได้ไปต่อแน่นอน รีบตรวจเคสทั่วไปอย่างไวที่สุด (ณ อังคารเช้า OPD เด็กร่วม 40 เคส เสียงคุณยายหน้าห้องพูดคุยกัน “คุณหมอตรวจเหิงแทะ” (ตรวจนาน)

ผลตรวจเลือดเบื้องต้นปกติไม่พบเซลล์มะเร็ง เกร็ดเลือดดีหมด ค่อยสบายใจไม่น่าได้ไปต่อ พอเห็นเหงือกและเลือดออกตามไรฟันคิดถึงscurvy ขึ้นมาทันที ลักปิดลักเปิด?

ทันใดนั้น Vit C deficiency ที่อาจารย์เคยพร่ำสอนก็ลอยขึ้นมา ต้องได้ film long bone film both knee มาช่วย วินิจฉัยตามคาด ฟิล์มเอกซเรย์กระดูกและตรวจร่างกายเข้าได้กับโรคขาดวิตามินซีอย่างรุนแรง (ไม่น่าเชื่อเด็กไทยเรายังมีโรคนี้อยู่)

เลยรีบซักถามประวัติโภชนาการ : ไม่แตะผักผลไม้ใดใดทั้งสิ้นเลยแต่เกิด กินข้าวน้อย กินนมเป็นหลัก รักษา ปรับพฤติกรรมการกินอาหารและให้ vit.C supplement ขอบคุณผู้ปกครองที่อนุญาตให้ถ่ายรูปและเผยแพร่ข้อมูลเพื่อเกิดประโยชน์กับท่านอื่นต่อไป โภชนาการในเด็กมีความสำคัญมาก ไม่อยากให้มองข้ามค่ะ เน้นกินครบ5หมู่นะคะ