สภาผู้บริโภคออกโรงเองชง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคตรวจสอบ-ระงับโฆษณาชวนเข้าใจผิด หลังอินฟลูฯคนดังทำคลิปโชว์กินของใช้ในบ้าน ชี้เข้าข่ายผิดฎหมาย เสี่ยงทำผู้ชมเลียนแบบ เรียกร้องแบรนด์สื่อสารเนื้อหาที่รับผิดชอบต่อสังคม

3 มิถุนายน 2568 จากกรณีที่กลายเป็นประเด็นถกเถียงในโลกออนไลน์หลังจากที่อินฟลูฯชื่อดังได้ทำคลิปสุดครีเอทีฟ กินบ้าน กินมือถือ กินน้ำยาปรับผ้านุ่ม กินกล่องยาแก้ไอ กินหมูดิบ ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็น 'เค้ก' ที่เธอได้รังสรรขึ้นมาแบบเหมือนจริงแบบสุดๆ พร้อมพากย์เสียงให้ฟังเพลินๆ โดย'เค้ก' แต่ละก้อนที่เธอทำเหมือนหลุดออกมาจากโลกแฟนตาซี (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ชาวเน็ตเสียงแตก! เจ้าของร้านเค้กดังทำคอนเทนต์'กินเค้กขวดโฟมล้างหน้า' วิจารณ์สนั่นหวั่นเด็กเลียนแบบ)

ล่าสุดทาง 'สภาองค์กรของผู้บริโภค' ได้ระบุข้อความว่า จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์คลิปวิดีโอของผู้มีอิทธิพลทางความคิด หรืออินฟลูเอนเซอร์รายหนึ่ง ที่มีการนำเสนอการใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม และของใช้ในครัวเรือนในลักษณะที่ส่อให้เกิดความเข้าใจผิดว่าสามารถบริโภคได้ ทั้งที่ฉลากสินค้าเหล่านั้นมีข้อความชัดเจนว่าห้ามรับประทาน หรือห้ามรับประทานหากยังไม่ถูกปรุงสุก

ล่าสุด สภาผู้บริโภค ออกมาแสดงความกังวล พร้อมเสนอสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ระงับการโฆษณาในลักษณะดังกล่าวทันที เนื่องจากอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้า และเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

โสภณ หนูรัตน์ หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค ระบุว่า คลิปวิดีโอบางส่วนของอินฟลูฯ รายดังกล่าวอาจเข้าข่ายการโฆษณาที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับลักษณะหรือวิธีใช้สินค้า ตามมาตรา 22 ของ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 และมาตรา 23 การโฆษณาที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้บริโภค

โดยสภาผู้บริโภคเตรียมทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เพื่อให้หน่วยงานกำกับดูแลเร่งตรวจสอบความเหมาะสมของเนื้อหาการโฆษณาดังกล่าว รวมถึงโฆษณาอื่น ๆ ที่สื่อสารคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง นอกจากนี้ ยังเน้นย้ำว่าอินฟลูฯ หรือผู้อิทธิพลในโลกออนไลน์ควรใช้ความระมัดระวังในการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะสินค้าที่อาจส่งผลต่อสุขภาพ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญ ซึ่งอาจนำไปสู่พฤติกรรมเลียนแบบที่เป็นอันตราย

“เนื้อหาในคลิปมีลักษณะจำลองการนำของใช้ที่ไม่ใช่อาหารมาเสมือนสามารถบริโภคได้ ซึ่งอาจชักจูงให้ผู้ชม โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน เลียนแบบพฤติกรรมโดยไม่ตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ถือเป็นสิ่งที่อินฟลูฯ ไม่ควรมองข้าม และจำเป็นต้องสื่อสารด้วยความรับผิดชอบ เพราะพฤติกรรมหรือคำพูดของอินฟลูฯ ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลทางความคิด มักส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้ติดตาม” โสภณ กล่าว

พร้อมกันนี้ ยังฝากถึงแบรนด์สินค้าหรือบริษัทผู้ผลิตก็ต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่ใช่อาหารและมีข้อควรระวังในการใช้ เช่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม สบู่ล้างหน้า หรือผลิตภัณฑ์อื่นที่กินไม่ได้ ต้องมีการตรวจสอบเนื้อหา สคริปต์ หรือแนวทางการสื่อสารของอินฟลูฯ ก่อนเผยแพร่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในวงกว้าง