สุดอัศจรรย์! แม่ทัพภาค2 ร่วมสมโภชพระธาตุท่าอุเทน เมฆตั้งเค้ารอบ 4 ทิศ เว้นตรงกลางพระธาตุฟ้าโปร่ง หลังเสร็จพิธีฝนเทลงหนัก

29 มิถุนายน 2568 เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน ที่วัดพระธาตุท่าอุเทน อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) พร้อมด้วยภริยา ผศ.สุพางค์พรรณ พาดกลาง ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 เพื่อเป็นประธานในพิธีสมโภชพระธาตุท่าอุเทน โดยมี นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ ว่าที่ รต.รวยรุ่ง ใครบุตร รอง ผวจ.นครพนม พล.ต.ฉัฐชัย มีชั้นช่วง ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 (มทบ.210) ค่ายพระยอดเมืองขวาง จ.นครพนม นายชินวัต ทองปรีชา นายอำเภอท่าอุเทน รวมถึงนายทหาร ผู้บัญชาการทหารหน่วยต่างๆ ใน 20 จังหวัดภาคอีสาน ตลอดจน พ่อค้า ประชาชน โดยเฉพาะแฟนคลับนำดอกกุหลาบแดง ผ้าขาวม้า ฝ้ายผูกแขน มารอดักพบท่านแม่ทัพที่ประตูโขงทางเข้าวัดพระธาตุ

ซึ่ง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง เดินทางจากบ้านพักในค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา ด้วยเฮลิคอปเตอร์รุ่นรีโอนาโด้ 139 หมายเลข 41522 ลงจอดที่สนามกีฬาโรงเรียนอุเทนพัฒนา และนั่งรถยนต์โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียนป้ายกงจักร 50606 ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งของพล.ต.ฉัฐชัย มีชั้นช่วง ผบ.มทบ.210 มายังวัดพระธาตุท่าอุเทน ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง เขตเทศบาลตำบลท่าอุเทน

โดยมีผู้ให้การต้อนรับกว่า 500 คน โดยท่านแม่ทัพพร้อมภริยา ได้เข้ากราบนมัสการเจ้าอาวาสวัดพระธาตุท่าอุเทน พระครูบริหารบรมธาตุ (หลวงปู่บุญโปร่ง สุวรรณมาโจ) จากนั้นนางรำจากค่ายพระยอดเมืองขวาง และจาก 9 ตำบลของ อ.ท่าอุเทน รวม 200 ชีวิต ได้แสดงการฟ้อนรำต้อนรับ

หลังจากพระสงฆ์ 9 รูปเจริญพระพุทธมนต์แล้ว พล.ท.บุญสิน พาดกลาง มทภ.2 และ ผศ.สุพางค์พรรณ พาดกลาง ได้ปิดแผ่นทององค์พระธาตุท่าอุเทนจำลอง หรือเรียกอีกนัยหนึ่งว่าพระธาตุฝุ่น โดยประดิษฐานอยู่นอกกำแพงแก้ว ด้านทิศเหนือขององค์พระธาตุท่าอุเทน ก่อนที่ มทภ.2 พร้อมคณะได้ร่วมกันแห่เครื่องสักการะ ขบวนต้นทอง และผ้าห่มพระธาตุขนาดความยาว 53 เมตร รอบองค์พระธาตุ 3 รอบ โดยหลังเสร็จสิ้นพิธีดังกล่าวแล้ว กลุ่ม FC ก็แห่ขอถ่ายรูปกับท่านแม่ทัพ โดยได้พูดว่าขอถ่ายรูปกับท่านแม่ทัพมนต์แคน ทั้งนี้ตลอดการถ่ายรูป พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ยิ้มอย่างมีไมตรีกับทุกท่าน บางคนถ่ายแล้วเกรงรูปไม่สวย ท่านแม่ทัพก็บอกว่า ไม่ต้องรีบถ่ายใหม่ได้ครับ

จากนั้นได้ตอบข้อซักถามสื่อมวลชน กรณีหลังได้ห่มผ้าองค์พระธาตุแล้วยกมือไหว้อธิษฐาน ว่าขอให้ประเทศชาติสงบสุข และประชาชนมีความสุข ส่วนการถวายพระพุทธรูปแก่วัดต่างๆใน 20 จังหวัดภาคอีสาน เหลือหนองบัวลำภูเป็นจังหวัดสุดท้าย

กรณีมีภาพข่าวทหารไทยร่วมลาดตระเวนกับทหารกัมพูชา ก็มีการคุยกันเรื่องเส้นเขตแดน ที่ถือแผนที่คนละฉบับ ตรงไหนที่ไม่เข้าใจก็พยายามพูดคุยกัน และผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ ควรมีการพบเจอกันบ่อยๆ ตอนนี้เริ่มมีการพบปะเจรจากันแล้ว โดยเฉพาะที่ช่องบกที่ขัดแย้งกันในคราวที่แล้ว โดยให้ทั้งสองฝ่ายมาเจอกันอาทิตย์ละ 3 ครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าสางเป็นต้นมา มีเมฆฝนตั้งเค้าปกคลุมเต็มท้องฟ้า อากาศโดยรวมเย็นสบาย กระทั่งท่านแม่ทัพเดินทางมาถึงประมาณ 10 นาที ก็มีฝนโปรยลงมาเล็กน้อย พอให้พื้นปูนชุ่มฉ่ำ นางรำจะได้ไม่ร้อนเท้า ฝนโปรยปรายราว 5 นาทีก็หยุด กระทั่งถึงพิธีพระคุณเจ้าให้ศีลรับพร ฝนอีกชุดก็ตกลงมาอีกครั้งประมาณ 3 นาทีเท่านั้น และขณะที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง มทภ.2 แห่ผ้าห่มรอบพระธาตุ ท้องฟ้ารอบองค์พระธาตุมีเมฆทมึนดำทั้ง 4 ทิศ เหลือแต่ตรงพระธาตุที่ไม่มีเมฆ จนพิธีสำคัญจบสิ้นฝนตกตกลงมาจนลืมหูลืมตาไม่ขึ้น ถือเป็นเรื่องอัศจรรย์ยิ่งนัก

ทั้งนี้ พระธาตุท่าอุเทนก่อด้วยอิฐถือปูน ขนาดสูง 66 เมตร ฐานกว้าง 11.5 เมตร สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2454 โดยการนำของหลวงปู่สีทัตถ์ ญาณสัมปันโน พระอริยสงฆ์ที่คนไทยและพี่น้องชาวลาวเคารพศรัทธา ปี 2560 มีการบูรณะและใช้ทองคำหนัก 18 กิโลกรัม หุ้มฉัตรรวม 5 ชั้น ส่วนยอดฉัตรฝังอัญมณีเพชร

กระทั่งเมื่อเดือนมีนาคม 2568 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง พร้อมภริยาได้เป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์ทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์พระธาตุท่าอุเทนทั้งองค์ โดยมีศาสนิกชนชาวพุทธ ร่วมบริจาคเงินสมทบและมียอดรวมเป็นเงินจำนวน 2 ล้านบาท และระหว่างบูรณะก็จะมีเศษปูนเก่าที่กะเทาะตกลงมาจำนวนมาก ผศ.สุพางค์พรรณ พาดกลาง เห็นว่าทั้งหมดเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงให้ช่างรวบรวมเศษหิน เศษปูน และเศษทรายที่หล่นลงมา สร้างเป็นพระธาตุท่าอุเทนจำลอง หรือพระธาตุฝุ่น เพราะสร้างจากเศษสิ่งของที่กะเทาะออกมาจากองค์พระธาตุท่าอุเทน

.012