'หมอโบว์' หมอผู้รักษา 'โอปอล' เปิดใจตะลุยอินเดีย-เนปาล ในโครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ซาบซึ้ง 'ธรรมะไม่ถูกกัดกร่อนไปตามกาลเวลา'

“แพทย์หญิงแพรวพรรณ ทองทับ” หรือ หมอโบว์ ซึ่งเป็นคุณหมอที่รักษานางสาวสุชาตา ช่วงศรี หรือ น้องโอปอล มิสเวิล์ด ปี 2025 ซึ่งเพิ่งคว้ามงกุฎมาได้หมาดๆ ที่ประเทศอินเดีย โดยเป็นการเข้ารักการรักษาเมื่อตอนน้องโอปอลอายุ 16 ปี และ ตรวจพบก้อนเนื้อที้บริเวณหน้าอกซึ่งต้องเข้ารับการผ่าตัดในเวลานั้น และ หมอโบว์ยังเป็นหนึ่งในชาวนาถะที่ร่วมเป็นหนึ่งใน 50 กว่าชีวิต ที่ตาม “นายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล” หรือ “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” ไปถึงประเทศอินเดียและเนปาล ซึ่งเดินทางไปร่วมเป็นกองทัพหนุนถวายทั้งกำลังใจและปัจจัยแด่พระสงฆ์ไทยและลาวที่เข้าร่วม “โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา” ได้บอกเล่าความประทับใจในการร่วมตะลุยแดนพุทธภูมิเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาไว้อย่างน่าสนใจว่า

“ด้วยความที่เป็นคนชอบประวัติของเจ้าชายสิทธัตถะ และ พระพุทธเจ้ามากตั้งแต่ยังเด็กๆ ทำให้การเดินทางไปอินเดีย-เนปาลครั้งนี้ จึงเหมือนกับการที่เด็กคนหนึ่งได้ไปเติมเต็มเรื่องราวที่เคยอยู่ในหนังสือ ซึ่งเราได้ไปถึงสถานที่ที่เป็นพยานของพระพุทธเจ้าและพระสาวกที่พุทธคยา และ เมื่อได้มองเห็นต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ แม้จะรู้ว่าต้นโพธิ์นี้ไม่ใช่ต้นโพธิ์เดิม แต่ก็รู้สึกเหมือนได้สัมผัสกับการตื่นรู้ของพระองค์ต่อความจริงอันประเสริฐที่ยังอยู่ในอากาศรอบตัว ทุกสิ่งดูเงียบสงบ เย็นใจ โปร่งโล่ง ท่ามกลางผู้คนมากมายที่มาแสดงความเคารพศรัทธา

บนเขาคิชกูฏ ก็ได้ทอดตามองกรุงราชคฤห์เบื้องล่าง แล้วนึกถึงครั้นพุทธกาลที่พระองค์ทรงทอดสายตามองชาวเมืองที่พระองค์ทรงเสด็จลงมาโปรดประชาชน

เมื่อยามไปคุกของพระเจ้าพิมพิสาร ก็เข้าใจถึงหัวใจรักและเคารพ ปิติสุขที่ได้มองเห็นที่ประทับของพระบรมศาสดาผู้เป็นที่พึ่งแม้ในยามถูกกุมขัง

ในกุสินารา สถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงปรินิพพาน ก็ได้สัมผัสถึงความรักและพระมหากรุณาที่พระพุทธองค์ทรงมีให้สรรพสัตว์ทั้งหลายอย่างท่วมท้น

ในทุกๆที่ ที่เดินทางไป จากเรื่องราวที่อยู่ในหนังสือ ปรากฏเป็นสถานที่ เชื่อมโยงกับธรรมะทั้งหลายที่พระพุทธองค์รวมถึงพระสาวกได้สั่งสอนและสืบทอดมาเป็นระยะเวลาสองพันกว่าปี รู้สึกถึงความเป็นนิรันดร์ของธรรมะที่ไม่ถูกกัดกร่อนตามกาลเวลา

คำบอกเล่าของหมอโบว์ทำให้เรานึกถึงภาพย้อนไปเมื่อครั้งพุทธกาล ซึ่งการได้เห็น และ ได้กราบพระสงฆ์ในโครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดาที่สารนาถ รวมทั้งได้ถวายน้ำแด่พระสงฆ์ถึงแดนพุทธภูมิ ยังความปลาบปลื้มให้กับหมอโบว์ในการเดินทางไปเยือนประเทศอินเดียครั้งนี้

หมอโบว์เล่าอย่างเป็นกันเองว่า รู้สึกดีใจมากที่ในโอกาสนี้เราจะได้ไปพบเจอคณะสงฆ์ที่นำโดยพระอาจารย์สำเริงฯ

แล้วการได้กราบคณะสงฆ์ที่สารนาถทำให้รู้สึกถึงความต่อเนื่องของพระธรรมวินัยตั้งแต่สมัยพุทธกาลจนถึงปัจจุบัน แม้กาลเวลาจะผ่านไปนับ 2,000 กว่าปี แต่คำสอนของพระพุทธเจ้ายังคงถูกสืบทอดไปยังพระอัครสาวก ไปยังพระอริยสงฆ์รูปแล้วรูปเล่า พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ นั่นคือสายทางแห่งอริยมรรคที่มิได้เหือดแห้งไป จึงรู้สึกเป็นเกียรติและอบอุ่นหัวใจมากที่ได้ถวายน้ำแด่พระสงฆ์ในโครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา เหมือนเป็นการเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับสายธารของศรัทธาและอริยมรรคที่ไม่เคยหยุดไหล การเริ่มก้าวเดิมของพระสงฆ์แต่ละรูปนั้น เริ่มจาก “ศรัทธา” ในพระรัตนตรัย จนก้าวสุดท้ายพลังแห่งศรัทธานั้นจะกลายเป็น “สัจจะ” ในหัวใจของพระสงฆ์แต่ละรูป และจะเป็นดั่งต้นโพธิ์ในพุทธคยาที่แตกหน่อสืบทอดพระธรรมของพระบรมศาสดาไปในทุกๆที่ ที่พระสงฆ์ท่านเดินทางไปถึง

ที่สำคัญการได้เดินทางไปยัง 4 สังเวชนียสถานและสถานที่โดยรอบ ทำให้ “หมอโบว์” ได้นำประสบการณ์มาใช้กับการเป็นจิตอาสา และในชีวิตประจำวันได้ครบทุกมิติ

ท่านสามารถติดตามอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หนังสือ “จาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา” ด้วยการสั่งจองซื้อหนังสือดังกล่าวในราคาชุดละ 400 บาท พร้อมหนังสือ “ดูธรรมชาติของจิต” เขียนโดย “พระครูธีรธรรมปราโมทย์” หรือ “หลวงพ่อสำเริง ธมฺมธีโร” เจ้าอาวาส วัดดอยเทพนิมิต ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย และในฐานะประธาน “โครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา” ได้ที่ลิงค์ กูเกิ้ล ฟอร์ม https://forms.gle/UQw7t1w8yYYN5vpm7 โดยจะได้รับหนังสือในช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ.2568 และสามารถโอนปัจจัยสั่งจองหนังสือ "จาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา" ที่บัญชี "กองทุนวัดดอยเทพนิมิต" ธนาคารกสิกรไทย สาขาแม่จัน จ.เชียงราย เลขที่บัญชี 219-2-49081-5 หรือ ร่วมบุญตามกำลังศรัทธา

ทั้งนี้ รายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายหนังสือจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1.เพื่อนำปัจจัยเป็นกองทุนให้พระสงฆ์ในโครงการจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ซึ่งจัดมาเป็นปีที่ 11 แล้ว 2.เพื่อนำปัจจัยบริจาคให้กับพระสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย 3.เพื่อนำปัจจัยในการสร้างโบสถ์ที่วัดดอยเทพนิมิต ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย และ 4.เพื่อนำปัจจัยทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาในด้านอื่นๆ เช่น ด้านการศึกษา เป็นต้นสำหรับความคืบหน้าของหนังสือจาริกธรรมตามรอยบาทพระศาสดา ท่านสามารถติดตามได้ทางเพจเฟสบุ๊ค “งมงายสไตล์หมอบี”