เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Pheara Sarat" ซึ่งเป็นนักข่าวชาวกัมพูชา ได้ไปถ่ายรูปกับทหารกัมพูชาที่ตัวปราสาทตาควาย เมื่อวันที่ 30 ก.ค.68 พร้อมระบุข้อความว่า "วัดตะคะไบ (ปราสาทตาควาย) วันที่ 30 ก.ค.2568" แต่กลับมีชาวเน็ตสังเกตได้ว่า ในรูปดังกล่าวมีวัตถุคล้ายทุ่นระเบิด PMN-2 ที่ทหารไทยเหยียบจนต้องสูญเสียอวัยวะ หรือไม่ โดยวัตถุคล้ายทุ่นระเบิด PMN-2 ดังกล่าว ถูกวางพิงไว้บริเวณฐานปราสาทตาควาย จำนวน 4 - 5 ลูก สภาพพร้อมใช้งาน

ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Izana Rungruangthanya" ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า ภาพเก่าไม่พอ มีทุ่นระเบิดใหม่ด้วย หลักฐานการละเมิดอนุสัญญาออตตาวาสุด ขอบคุณที่ทางสื่อกัมพูชาเจ้าหนึ่งนี้ได้ปล่อยภาพนี้มาฆ่าตัวเองตาย ทุ่นระเบิดเป็นพวงเลยพ่อคุณ

ซึ่งทุ่นระเบิด PMN-2 พวกนี้ล่ะ ที่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เพิ่งแถลงถึง ตอนพูดเรื่องปราสาทตาควาย ว่าที่เรายังควบคุมตัวปราสาทไว้ไม่ได้เต็มร้อย เพราะเขมรวางทุ่นระเบิดนี้ไว้ทั่วบริเวณ

กรณีหมวดบุ๊ค ร.ต.เกียรติวงศ์ สถาวร ที่ต้องขาขวาขาด ก็มาจากการเหยียบกับระเบิดในคืนข้อตกลงหยุดยิง ขณะเข้าเคลียร์เส้นทางเพื่อเปิดทางให้กองรบพิเศษจาก กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ร.31 รอ.) ได้นำชุดปฏิบัติการรบพิเศษเข้าเคลียร์

พื้นที่ปราสาทตาควาย ก็คือเหตุเหยียบกับระเบิดก็เกิดที่นี่ ที่ปราสาทตาควาย และภาพนี่ก็คือหลักฐาน ว่าเขมรใช้ยุทธวิธีต้องห้ามกับกำลังพลไทย ที่ยังมีความเสี่ยงต่อนักท่องเที่ยวในอนาคตด้วย เพราะการเอาทุ่นระเบิดออกนั้น ไม่ง่าย ต้องใช้เงินและเวลามากกว่าตอนวางราวสิบเท่า

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีดังกล่าวมีประเด็นที่น่าสนใจคือ

1.ยืนยันด้วยภาพ : มีการใช้กับระเบิดสังหารบุคคลจริง ซึ่งเป็นกับระเบิดแบบ PMN2 ที่เป็นชนิดเดียวกับที่ทำให้นายทหาร 3 นายขาขาด (ในหลวงฯ พระราชทานขาเทียม)

2.ผิดอนุสัญญาออตตาวา : ที่ห้ามมี ห้ามใช้ ต้องทำลายกับระเบิด

3.ผิดอนุสัญญาเจนีวา : ใช้โบราณสถาน (ปราสาทตาควาย) เป็นเกราะกำบังในการปฏิบัติการทางทหาร

4.เหตุที่ทหารไทยไม่เข้ายึดตัวปราสาทตาควาย : มีการวางสนามทุ่นระเบิด/กับระเบิดโดยรอบตัวปราสาท ซึ่งทหารไทยเลือกใช้ยุทธวิธีทางทหาร ในการควบคุมพื้นที่ แทนการยึดครองตัวปราสาท เพื่อลดการสูญเสียจากสนามทุ่นระเบิดของกัมพูชา

- 006