อดีตพระนักเทศน์ชื่อดังในอีสานใต้ ตกเป็นประเด็นร้อน หลังมีรายงานการเผยแพร่ข้อความที่สร้างความไม่พอใจในอดีต ล่าสุดมีกระแสข่าวว่าอดีตพระรูปนี้ได้เดินทางออกนอกประเทศ ชาวบ้านในพื้นที่เผยความรู้สึกผิดหวังและไม่พอใจอย่างรุนแรงต่อพฤติกรรมที่ผ่านมา
วันที่ 31 ก.ค. 68 จากกรณีที่อดีตพระสุจย์ ซึ่งเคยเป็นที่รู้จักในฐานะพระนักเทศน์ในพื้นที่อีสานใต้ ได้ตกเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จากการเผยแพร่ข้อความที่ไม่เหมาะสมในอดีต ซึ่งก่อให้เกิดความไม่สบายใจในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะในจังหวัดสุรินทร์ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้อดีตพระรูปนี้ย้ายไปพำนักในประเทศกัมพูชา ซึ่งขณะนั้นได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี
ต่อมา หลังสถานการณ์ความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนคลี่คลายลง ได้มีกระแสในสื่อสังคมออนไลน์ของไทยที่เชื่อมโยงอดีตพระสุจย์กับการเป็น "สายลับ" ให้กับประเทศไทย ซึ่งทำให้เกิดการพูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์
สถานการณ์ดังกล่าวได้นำไปสู่การตอบโต้จากชาวเน็ตชาวกัมพูชา โดยมีการนำภาพและข้อความจากฝั่งไทยไปโพสต์ในกลุ่ม "kun khmer" พร้อมข้อความที่ระบุว่า "พระท่านนี้ทำภารกิจให้โจรเสียม (คนไทย) ถึงขณะนี้ ข้อมูลนี้มาจากกลุ่มทหารไทยปลอมตัว เขมรต้องขับไล่พระเสียมคนนี้ออกจากแผ่นดินของเรา" ซึ่งแสดงถึงความไม่พอใจและความเข้าใจผิดว่าอดีตพระสุจย์เป็นสายลับให้กับประเทศไทยจริง
ปัจจุบันยังไม่มีการยืนยันข้อเท็จจริงว่าอดีตพระสุจย์ได้เดินทางออกจากประเทศกัมพูชาแล้วหรือไม่ เนื่องจากชาวกัมพูชาจำนวนมากยังคงเข้าใจว่าอดีตพระรูปนี้เป็นสายลับให้กับประเทศไทย แหล่งข่าวล่าสุดระบุว่า "บิ๊กสุจย์" ได้เดินทางไปประเทศแคนาดาแล้ว โดยอ้างเหตุผลว่าเพื่อจำพรรษา
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดป่าโคกคฤห์ (โคกครึ) ซึ่งเป็นวัดที่อดีตพระสุจย์เคยสร้างขึ้น บรรยากาศภายในวัดเงียบสงบ ไม่มีพระภิกษุจำพรรษาอยู่ จากการสอบถามนางพาย อายุ 60 ปี ต.ป่าขัน อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ชาวบ้านไม่ค่อยเข้าวัดแห่งนี้นานแล้ว นับตั้งแต่อดีตพระสุจย์มีประเด็นเรื่องการกล่าวถึงชาวสุรินทร์ในทางที่ไม่เหมาะสม ยอมรับว่าชาวบ้านยังคงรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
เมื่อถามว่าหากอดีตพระสุจย์จะกลับมาอยู่ที่วัดป่าโคกคฤห์ ชาวบ้านจะยอมรับหรือไม่ นางพายกล่าวว่า "ยินดีต้อนรับ" หากมาถึงชาวบ้านจะ "วิ่งเข้าไปหาทันที" แต่ไม่ใช่เพื่อกราบไหว้ ซึ่งสะท้อนความรู้สึกไม่พอใจที่อดีตพระรูปนี้เคยแสดงท่าทีที่ไม่เหมาะสม และรู้สึกสมควรแล้วที่ถูกเข้าใจผิดจากอีกฝ่าย
ขณะที่นายคาน อายุ 65 ปี อดีตคนสนิทของอดีตพระสุจย์ เล่าว่า ตนไม่พอใจอดีตพระสุจย์มานานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่ตนไปทำงานที่ชลบุรี อดีตพระสุจย์เคยชักชวนให้ตนหาผู้หญิงมาประกอบพิธีกรรมบางอย่าง โดยอ้างว่าจะแบ่งรายได้ให้ 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ตนไม่เห็นด้วย จึงได้นำเรื่องทั้งหมดไปแจ้งให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านทราบ เพื่อให้ระมัดระวังและยุติการให้การสนับสนุนทุกกรณี หากอดีตพระรูปนี้กลับมาที่วัดจริง ก็คาดว่าจะต้องเผชิญหน้ากับความไม่พอใจของชาวบ้านอย่างแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี