“อภัยภูเบศร” ชูใบพลู สู้กลิ่นศพ ศาสตร์โบราณ สมุนไพรหาง่ายในท้องถิ่น พร้อมส่ง ยาหม่องสรรพบำบัดแก้วิงเวียน แมลงกัดต่อย ให้ทหารชายแดน
มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเปิดตำราโบราณ ใช้ศาสตร์แห่งอโรมาเทรปีส์ โดยการนำสมุนไพรหลากชนิด ช่วยบรรเทากลิ่นศพ ที่กำลังเป็นปัญหากับทหารและชาวบ้านบริเวณชายแดนหลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยเฉพาะที่ภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ ที่เผชิญปัญหารุนแรงที่สุด
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภุเบศร กล่าวว่า กลิ่นมีผลต่อระบบประสาทโดยตรงมากกว่ารูป รส หรือเสียงและ ส่งผลรวดเร็วที่สุด ด้วยกลไกเฉพาะที่เรียกว่า เส้นทางการประมวลผลกลิ่นที่ไม่ผ่านสมองส่วน thalamus (โดยสมองส่วนนี้จะเป็นตัวแปลงสัญญาณขออายาตนะไปสู่ระบบประสาทส่วนอื่น)ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของระบบประสาทรับกลิ่นกลิ่นเข้าสู่สมองส่วนลิมบิกโดยตรง (Limbic system) จึงมีพลังสูงต่ออารมณ์และความทรงจำ โดยกลิ่นไปมีผลต่อสมองส่วนควบคุมอารมณ์และความกลัว ส่วนที่เกี่ยวกับความทรงจำ ส่วนที่ควบคุมฮอร์โมน
“กลิ่นส่งผลรวดเร็วแบบสะท้อนอารมณ์ทันทีเช่น กลิ่นสามารถกระตุ้นอารมณ์ เช่น ความสุข ความเศร้า หรือความกลัวได้ โดยไม่ต้องใช้เหตุผล กลิ่นเชื่อมโยงความทรงจำ ซึ่งเป็นสมองส่วน hippocampus ที่ประมวลกลิ่น เป็นศูนย์กลางของ “ความทรงจำระยะยาว”กลิ่นบางกลิ่นสามารถกระตุ้นความทรงจำที่ฝังลึกในอดีต เช่น กลิ่นดินเปียกฝนทำให้นึกถึงวัยเด็ก และกลิ่นสามารถเปลี่ยนการหลั่งสารสื่อประสาทบางกลิ่นสามาร กระตุ้น dopamine ซึ่งเป็นสารความสุข เช่น กลิ่นวานิลลา, ลาเวนเดอร์” ดร.สุภาภรณ์ กล่าว
เลขาธิการมูลนิธิฯ กล่าวอีกว่า กลิ่นศพ (ซึ่งเกิดจากการเน่าเปื่อยของร่างกายมนุษย์หรือสัตว์) มีผลกระทบต่อ สุขภาพทั้งทางกายภาพและจิตใจ โดยเฉพาะในกรณีที่สัมผัสในระยะใกล้และต่อเนื่อง เช่น ทหารที่ประจำการอยู่ที่ภูมะเขือในขณะนี้ที่ต้องเผชิญกับ กลิ่นศพที่ร่างกายเริ่มสลายหลังความตาย จะเกิดกระบวนการการเน่าเปื่อย ซึ่งปล่อยก๊าซและสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย เช่น Putrescine & Cadaverine กลิ่นเหม็นฉุน คลื่นไส้ อาเจียน Hydrogen sulfide (H₂S) กลิ่นไข่เน่า วิงเวียน หายใจติดขัด Ammonia กลิ่นฉุนแสบจมูก ระคายเคืองตา กลิ่นศพผลกระทบทางจิตประสาท โดยจะกระตุ้น Amygdala (ศูนย์กลางความกลัว) และ Hippocampus (ความจำ)ทำให้เกิดอาการ ช็อก คลื่นไส้ สะเทือนใจ (psychological trauma) เกิด ความทรงจำติดตา-ติดจมูก (olfactory memory) ที่ฝังลึก นอกจากนี้กลิ่นศพยังมีผลภาวะทางจิตใจในระยะยาวอาจทำให้เกิด ภาวะวิตกกังวล
ดร.สุภาภรณ์ กล่าวอีกว่า สมัยก่อนมีการใช้สมุนไพรที่มีกลิ่นหอมเพื่อดับกลิ่นศพ ใบพลูเป็นชนิดหนึ่งที่นิยมใช้ ข้อมูลทางยุทธศาสตร์พบว่าใบพลูมี น้ำมันหอมระเหย เช่น Eugenol Chavicol, Safrole, Carvacrol ซึ่งมีกลิ่นหอมเฉพาะและยับยั้งเชื้อได้ ใบพลูจึงสามารถช่วยลดหรือกลบกลิ่นศพได้ในระดับหนึ่ง ที่สำคัญในแถบอิสานใต้ผู้คนยังมีมีการ เคี้ยวหมากเป็นวัฒนธรรมใบพลูหาได้ไม่ยาก และใบพลูยังเป็นพืชศักดิ์สิทธิ์ที่คนโบราณเชื่อว่าจะช่วยปัดเป่าสิ่งที่ อัปมงคลทั้งหลาย รวมถึงมนต์ดำ ดังนั้นการหาใบพลูไปทุกทุกขยี้หรือ ทุบใส่ หอผ้า แขวนไว้ใกล้ตัวหรือติดตัวก็จะช่วย บรรเทากลิ่นศพได้ในระดับหนึ่ง
นอกจากนี้ คนโบราณ ยังใข้ดอกพิกุล ดอกซ่อนกลิ่น ไปดับกลิ่นศพทำให้ดอกไม้เหล่านี้เป็นดอกไม้ไม่เป็นมงคลไปเลย เพราะใช้ในงานศพ เช่นเดียวกัน กับใบฝรั่ง จะทุบให้พอช้ำทำแล้วเอาไปวาง ส่วนใหญ่จะเป็นใบไม้ที่หาได้ในท้องถิ่น ปัจจุบันมีน้ำมันหอมระเหยภายใต้ศาสตร์อะโรมาเทอราปีส์สามารถใช้บรรเทาได้ส่วนหนึ่งเช่น เปปเปอร์มินต์ เมนทอล ซึ่งจะมีอยู่ใน ยาดมทั่วไป ช่วยบรรเทาความรู้สึกเวียงเวียน และกลิ่นระคายเคือง และตัวช่วยอีกอย่างคือหน้ากากอนามัย N95 ที่มีคาร์บอนอยู่ ซึ่งจะช่วยในการดักกลิ่นได้ เราจึงเร่งส่งยาดม 2,000 หลอด กับยาหม่องสรรพบำบัด (ยาหม่องเฉพาะกิจ ดมแก้วิงเวียน ทาแก้ฟกช้ำและกันยุงกันแมลง อีก 1,000 กระปุก ให้กับทหารชายแดนที่กำลังประสบปัญหาดังกล่าว และกำลังจะส่งเพิ่มเติมไปอีก อยู่ระหว่างผลิตเพิ่ม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี