14 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดพร้อมคณะ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมสิบเอกธีรพล เพียขันที ทหารพรานได้รับบาดเจ็บสูญเสียขา 1 ข้าง ระหว่างเดินลาดตระเวนในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์
นอกจากนี้ยังได้เข้าเยี่ยมสิบเอกวีระพันธ์ จันสว่าง , จ่าสิบเอกเอกชัย สีมะณี และสิบเอกอภิวัฒน์ ชาญประโคน กำลังพลอีก 3 นาย ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุปะทะเมื่อวันที่ 24 - 28 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา และยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ ด้วย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการฟื้นฟูร่างกาย แต่ภารกิจของผู้บัญชาการทหารสูงสุดวันนี้ เป็นการเข้าเยี่ยมแบบส่วนตัว โดยให้ผู้สื่อข่าวอยู่ด้านนอก งดการถ่ายภาพการเข้าเยี่ยมและไม่ขอให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เนื่องจากมีภารกิจต่อ
ต่อมานายสำเนียง บุญมามอญ อายุ 64 ปี ลูกพี่ลูกน้องของสิบเอกธีรพล ได้นำกระเช้าผลไม้เข้าเยี่ยม สิบเอกธีรพล ทันทีที่เจอกัน นายสำเนียง ได้เข้าจับมือให้กำลังใจ ซึ่งสิบเอกธีรพล ถึงกับปาดน้ำตา ด้วยความซึ้งใจที่ญาติคนนี้ ซึ่งเคยเป็นทหารพรานเหมือนกัน เดินทางมาเยี่ยม โดยสิบเอกธีรพล ก็ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง บอกว่า “ผมพลาด ไม่คิดว่าฝ่ายตรงข้ามจะแอบมาวางระเบิด เพราะเส้นทางที่เดินลาดตระเวนทุกวัน แล้วภารกิจในวันนั้น ตัวเองก็เดินนำหน้า เพราะคุ้นชินกับพื้นที่ และกำลังพลที่เหลืออีก 6 คน มาจากต่างพื้นที่ ”
นายสำเนียง จึงได้จับมือบอกให้สิบเอกธีรพล “หายไวๆ หัวใจเอ็งกล้าหาญมาก ขอให้เอาชนะใจตัวเอง ทางครอบครัวภูมิใจในตัวสิบเอกธีรพล มาก” ซึ่งสิบเอกธีรพล น้ำตาอยู่ตลอด
ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายสำเนียง บุญมามอญ อายุ 64 ปี ญาติของสิบเอกธีรพล เปิดเผยว่า ตัวเองเป็นลูกพี่ลูกน้องกับสิบเอกธีรพล ไม่ได้เจอกันนานกว่า 5 ปี ตั้งแต่สมัยสิบเอกธีรพล ไปช่วยราชการอยู่ทราจังหวัดปัตตานี เมื่อปี 2563 จนกระทั่งเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม วันเกิดเหตุ ดูข่าวแล้วได้ยินชื่อ สิบเอกธีรพล ก็รู้สึกใจหายอย่างมาก เพราะน้องชายเป็นคนมีความกล้าหาญ และมีอุดมการณ์การเป็นทหารอย่างแน่วแน่ หวงแหนผืนแผ่นดินไทย
เนื่องจากเป็นทหารมาหลายปี สมัยมีสงครามไทย - กัมพูชา เมื่อปี 2554 สิบเอกธีรพล ก็ปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวหน้า และถูกสะเก็ดของกระสุนปืนใหญ่ฝ่ายตรงข้าม จนหมวกเหล็กแตก แต่ก็ไม่หวั่น ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์การเป็นทหาร และลาดตระเวนตลอด เพราะที่นี่คือบ้านของเขา ส่วนกัมพูชานั้น เชื่อใจไม่ได้ เหมือนหมาลอบกัด คบไม่ได้
นายสำเนียงบอกว่าตัวเองก็เป็นอดีตทหารพรานและเคยปฏิบัติหน้าที่อยู่แนวชายแดน ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งก็ยอมรับว่าสถานการณ์การสู้รบกันในครั้งนี้รุนแรงมาก
แต่ก็มั่นใจว่า “หากเกิดการสู้รบกันอีก ทหารไทยจะได้รับชัยชนะ เพราะทหารไทยเก่งและมีคสามสามารถ ดังนั้นถ้าจะรบกันจริงๆ ไทยชนะขาดลอย เขมรสู้เราไม่ได้สักอย่าง ขณะที่อยากให้กำลังใจพี่น้องทหารชายแดน อยากให้สู้ๆ เข้มแข็ง และขอให้ปลอดภัย”.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี