18 สิงหาคม 2568 เพจเฟซบุ๊ก “โบราณนานมา” โพสต์ถึงกรณีที่มีชาวกัมพูชา ได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทย บริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น โดยระบุข้อความว่า
[ สำนวนที่เหมาะสมที่สุด คือ “ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาป” และ “กินบนเรือนขี้บนหลังคา” ]
ย้อนกลับไปในระหว่างปี ๒๕๒๒ ชาวกัมพูชาจำนวนมากได้อพยพลี้ภัยสงครามออกมาจากประเทศตนเอง “ค่ายผู้อพยพหนองจาน” คือหนึ่งในสถานที่ที่ชาวกัมพูชา ๑๓,๐๐๐ คนได้มารวมตัวกัน เนื่องจากเกิดสงครามภายในกัมพูชาระหว่างกองกำลังเขมรแดงกับกลุ่มต่อต้านฝ่ายต่าง ๆ ยังรุนแรงอยู่มาก และเหตุที่ยังไล่ล่าฆ่ากันแหลกลาญในห้วงนั้นยาวนานจึงทำให้ราษฎรกัมพูชาก็ดี กำลังติดอาวุธของฝ่ายต่าง ๆ ในกัมพูชาก็ดี ล้วนแต่อดอยาก ลำบากไปทุกฝ่าย อาหารหยูกยาเป็นของหายากยิ่ง ผู้ลี้ภัยจำนวนมหาศาลจึงบ่ายโฉมเดินเท้าอพยพหลบหนีทั้งความยากแค้นและการไล่ล่าฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุมาสู่ชายแดนไทยแทบทุกจุด
“ค่ายผู้อพยพหนองจาน” หรือ “ศูนย์พักพิงหนองจาน” (Nong Chan Refugee Camp) หรือฝั่งไทยรู้จักกันในชื่อ “แคมป์ ๕๑๑” ตั้งอยู่ในบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เป็นหนึ่งในค่ายผู้อพยพที่จัดตั้งขึ้นเป็นแห่งแรก ๆ บนชายแดนไทย–กัมพูชา เคยเป็นทั้งค่ายผู้ลี้ภัย และศูนย์กลางการแจกจ่ายอาหาร เมล็ดพันธุ์ และโอกาสในการมีชีวิตรอด
“หนองจาน” ไม่ได้แค่ต้อนรับคนแปลกหน้า แต่มอบโอกาสให้เขา “ปลูกข้าว” เลี้ยงตัวเอง และ “กลับไปมีชีวิตใหม่” ได้อีกครั้ง
ปี ๒๕๒๓ มีการแจกอาหารและอุปกรณ์กว่า ๓๔๐,๐๐๐ รายการในที่เดียว ชื่อของ “Land Bridge” หรือ “สะพานชีวิตแห่งหนองจาน” ถูกจารึกไว้ในบันทึกของ UNHCR และ CARE จนทุกวันนี้และในบันทึกสำคัญ ยังระบุว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เคยเสด็จฯ ไปช่วยเหลือประชาชนที่นี่ด้วยพระองค์เอง
แต่เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ พบว่ามีราษฎรกัมพูชาบางส่วนไม่ยอมเดินทางกลับประเทศ ยังคงพักอาศัยในพื้นที่ของประเทศไทย
แต่วันนี้ “ราษฎรกัมพูชา” ที่ตั้งถิ่นฐานในเขตของประเทศไทย ที่ประเทศไทยเคยช่วยเหลือในยามสงคราม กลับได้อ้างว่า พื้นที่ที่ตั้งถิ่นฐานเป็นพื้นที่ของ “กัมพูชา” ไม่ใช่ไทย
ที่ผ่านมาฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ในบริเวณ “บ้านหนองจาน”ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย
ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี ๒๕๕๗ จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใด ๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด
โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง
เรื่องนี้จึงเหมาะสมกับสำนวนไทยที่ว่า “ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาป” และ “กินบนเรือนขี้บนหลังคา”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี