อบต.กุตาไก้ เตรียมความพร้อมสำหรับการประกวดเมนูอาหารใน "เทศกาลกินต่อหัวเสือโลก" ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-31  สิงหาคมนี้ ที่อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม โดยมีเป้าหมายในการทวงแชมป์กลับมาให้ได้

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ณ ห้องประชุม อบต.กุตาไก้ อ.ปลาปาก จ.นครพนม นายกิตตินันท์ พรมด้วย นายก อบต.พร้อมด้วยคณะผู้บริหารและผู้นำชุมชน ได้ประชุมหารือเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประกวดเมนูอาหารใน เทศกาลกินต่อหัวเสือโลก ซึ่งเป็นงานประจำปีของชาวอำเภอปลาปาก โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29-31 สิงหาคม ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอปลาปาก

มติที่ประชุมเห็นชอบให้ส่งเมนูที่ทำจากตัวต่อหัวเสือ 3 เมนู ได้แก่ หลามต่อ, หมกต่อ และอ่อมต่อ โดยเมนูหลามต่อเป็นเมนูชูโรงที่เน้นภูมิปัญญาการนำกระบอกไม้ไผ่มาใช้เป็นภาชนะในการปรุงอาหารเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมตามธรรมชาติ โดยมีเป้าหมายเพื่อทวงตำแหน่งแชมป์กลับคืนมา หลังจากที่เคยคว้าแชมป์ในงานครั้งแรกเมื่อปี 2566 ด้วยเมนู “ยำตัวต่อ” แต่พลาดท่าเสียแชมป์ไปเมื่อปี 2567

ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังสวนของ นายคเชนทร์ แสนบุญศิริ เกษตรกรผู้เลี้ยงตัวต่อหัวเสือบ้านกุตาไก้ ซึ่งเลี้ยงไว้ถึง 13 รัง โดยนายคเชนทร์ได้สาธิตวิธีการเก็บรังต่อด้วยชุดป้องกันพิเศษที่คล้ายชุดนักบินอวกาศ เพื่อป้องกันอันตรายจากเหล็กในของตัวต่อ โดยอุปกรณ์หลักที่ใช้ในการเก็บมีเพียงมีดปอกผลไม้และกะละมัง

นายคเชนทร์เล่าว่า การเลี้ยงต่อหัวเสือเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้งาม โดยจะเริ่มเลี้ยงในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม และสามารถเก็บผลผลิตได้ในช่วงสิงหาคม-ตุลาคมของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงที่ตัวต่อเจริญเติบโตเต็มที่

"ปีที่แล้วผมเลี้ยงได้ 35 รัง แต่ละรังให้ตัวอ่อนต่อประมาณ 2-3 กิโลกรัม ขายได้กิโลกรัมละ 800-1,000 บาท สร้างรายได้กว่า 40,000-50,000 บาท" นายคเชนทร์กล่าว พร้อมเสริมว่า นอกจากตัวอ่อนต่อแล้ว รังต่อที่ทิ้งร้างยังสามารถนำมาขายได้ในราคาสูง โดยเฉพาะรังที่มีรูปร่างสวยงามหรือเกาะอยู่บนต้นไม้มงคล ซึ่งมีความเชื่อว่าเป็นของขลังนำโชคลาภ อาจมีราคาสูงถึง 10,000-20,000 บาทต่อรัง

นายกิตตินันท์ นายก อบต.กุตาไก้ ได้โชว์ฝีมือทำ ก้อยตัวต่อ ซึ่งเป็นเมนูขึ้นชื่อของที่นี่ โดยมีรสชาติเปรี้ยวนำเผ็ดตาม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการปรุงรสจากปลาร้าต้มสุกและเครื่องปรุงสมุนไพรท้องถิ่น นับเป็นเมนูที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมการกินของชาวอีสานได้อย่างชัดเจน

ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า ในพื้นที่ตำบลกุตาไก้มีชาวบ้านเลี้ยงต่อหัวเสือประมาณ 200 รัง สามารถสร้างรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 320,000 บาทในช่วง 3 เดือน ส่วนทั้งอำเภอปลาปากมี 8 ตำบล คาดว่ามีรังต่อกว่า 1,600 รัง สร้างรายได้รวมกว่า 1.28 ล้านบาท ถือเป็นอาชีพเสริมที่มีต้นทุนต่ำและสร้างรายได้หมุนเวียนในชุมชนได้เป็นอย่างดี

สำหรับเทศกาล "กินต่อหัวเสือโลก" ในปีนี้ นอกจากกิจกรรมประกวดอาหารจากตัวต่อหัวเสือ ยังมีการประกวดธิดาต่อหัวเสือ และรังต่อหัวเสือที่มีรูปร่างสวยงาม รวมถึงบูธนิทรรศการจากทั้ง 8 ตำบล ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์และผลิตภัณฑ์เด่นของแต่ละพื้นที่

เทศกาลนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2566 โดยพัฒนามาจากงานประเพณีกินต่อประจำปีที่จัดต่อเนื่องมานานกว่า 10 ปี เพื่อเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณี และกระตุ้นเศรษฐกิจของชุมชนให้เติบโตยิ่งขึ้น