งานไหลเรือไฟหนึ่งเดียวในโลก เชื่อมสัมพันธ์ไทยลาว กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น 5-7 ตค.ขยายเวลาเปิดด่านท่าเรือถึงเที่ยงคืน
26 กันยายน 2568 งานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี 2568 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กันยายน – 8 ตุลาคม ตรงกับวันขึ้น 5 ค่ำ-แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ณ ศาลากลางจังหวัดนครพนม และริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม โดยในคืนวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันออกพรรษาขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 มีการไหลเรือไฟยักษ์ ชิงถ้วยพระราชทาน จำนวน 12 ลำจาก 12 อำเภอ ปีนี้แต่ละอำเภอทุ่มทุนสร้างเรือไฟขนาดความยาว 60-80 เมตร สูง 25-30 เมตร ถือเป็นประเพณีสำคัญของชาวนครพนม ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ทั้งมีความเชื่อมโยงถึงความเชื่อทางพระพุทธศาสนา และความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของคนลุ่มน้ำโขงอย่างลึกซึ้ง
ทั้งนี้ เทศบาลเมืองนครพนม (ทม.ฯ) ซึ่งเป็นผู้ดูแลท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยว หรือชาวบ้านเรียกว่าท่าด่าน เป็นจุดผ่านแดนถาวร จุดที่ 2 นอกจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) ปกติจะเปิดบริการเรือโดยสารข้ามฟากนครพนม-เมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว ตั้งแต่เวลา 08.00 น.-18.00 น.ทุกวัน
ช่วงเทศกาลประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟของทุกปี จังหวัดนครพนมจะมีหนังสือไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อขออนุญาตขยายเวลาเปิดทำการจุดผ่านแดนท่าเทียบเรือเสมอ เพื่อเป็นการส่งเสริมความร่วมมืออันดี ระหว่างจังหวัดนครพนมและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น และส่งเสริมการท่องเที่ยว
โดยในวันที่ 5-7 ตุลาคม ทม.นครพนม ได้ขยายเวลาเปิด-ปิด จากเดิม 08.00 -18.00 น. ในวันดังกล่าวขยายเป็น 08.00 - 24.00 น. หรือแปดโมงเช้าถึงเที่ยงคืนรวม 3 วัน พร้อมยกเว้นค่าธรรมเนียม หรือค่าเหยียบแผ่นดิน จำนวน 50 บาท เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวสองฟากฝั่งไทยลาว
นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม เปิดเผยว่าวันออกพรรษานอกจากเป็นงานประเพณีไหลเรือไฟที่ยิ่งใหญ่แล้ว ระหว่างวันที่ 3-6 ตุลาคม ก็มีการแข่งขันเรือยาวจ้าวลำน้ำโขง ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ก็จะมีชาวลาวข้ามมาจับจ่ายใช้สอยเยอะกว่าปกติ ซึ่งทาง ทม.ฯได้มีการขยายเวลาเปิดปิดด่านท่าเทียบเรือ ให้พี่น้องชาวลาวข้ามมาชมแข่งขันเรือยาวและไหลเรือไฟ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะกลับไม่ทันด่านเปิด รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างถิ่นที่มา จ.นครพนม ไม่เพียงได้ชมแข่งขันเรือยาวหรือเรือไฟเพียงอย่างเดียว มีบางส่วนก็ถือโอกาสข้ามไปเที่ยวประเทศลาวด้วย
ด้าน ร.ต.อ.หญิงธัญณิชา เดชโชติภัทรอุดม รองสารวัตรตรวจคนเข้าเมืองนครพนม (รอง สว.ตม.ฯ) เปิดเผยว่าเป็นประจำทุกปีที่ถึงงานประเพณีไหลเรือไฟ จะประชุมหารือร่วมกับทางจังหวัดและเทศบาลฯเสมอ เรื่องขยายเวลาเปิดปิดด่านท่าเทียบเรือ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนชาวลาว เดิมเปิดแปดโมงเช้าปิดหกโมงเย็น ช่วงวันที่ 5-7 ตุลาคม ก็ปิดในเวลาเที่ยงคืนรวม 3 วัน ในส่วนด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) ยังคงเปิดปิดเช่นเดิมคือ 08.00-22.00 น.
สำหรับค่าธรรมเนียมในวันปกติเก็บคนละ 50 บาท แต่สำหรับวันที่ 5-7 ตุลาคม นี้ ทาง ทม.จะไม่เก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าเหยียบแผ่นดิน เพื่อให้พี่น้องชาวลาวข้ามมาเที่ยวงานกัน ขณะเดียวกันนายเข็มเพชร เจาะจง อายุ 64 ปี คนขับเรือโดยสารข้ามฟาก เผยว่าช่วงประเพณีไหลเรือไฟ เรือจะแล่นบริการรับ-ส่งถึงเที่ยงคืนรวม 3 วันเช่นปีที่ผ่านมาเหมือนเดิม.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี