28 กันยายน 2568 เมื่อค่ำคืน ​27กันยายนที่ผ่านมา นาย ปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม และ นางธนวัน อุ่นเพชรวรากร นายกเหล่ากาชาดนครพนม เป็นประธานเปิดงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี 2568 ณ เวทีกลาง บริเวณศาลากลางจังหวัดนครพนม ซึ่งพิธีเปิดสุดยิ่งใหญ่ตระการตา ทั้งไฟ แสง สี พลุนับร้อยดอกจุดหลากสีพุ่งสู่ท้องฟ้า เป็นการประกาศว่างานประเพณีไหลเรือไฟฯ เริ่มขึ้นแล้วอย่างสุดอลังการ พร้อมมอบโล่และใบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้สนับสนุน

การจัดงานในครั้งนี้ มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม หัวหน้าส่วนราชการ ศาล อัยการ ทหาร ตำรวจ นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม นายอำเภอทั้ง 12 อำเภอ  คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน แขกผู้มีเกียรติ สื่อมวลชน ประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมในพิธีเปิด

โดยเป็นวันแรกของการจัดงานประเพณีสุดยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นประเพณีเก่าแก่และงดงามของชาวอีสานลุ่มน้ำโขง จัดขึ้นในวันออกพรรษาของทุกปี เพื่อบูชารอยพระพุทธบาท และขอขมาต่อแม่น้ำ เชื่อกันว่าเป็นการเผาความทุกข์ให้ลอยไปกับสายน้ำ ทั้งเป็นการอนุรักษ์และสืบสานศิลปวัฒนธรรมโบราณ รวมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย กระตุ้นเศรษฐกิจ เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว และเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนชาวนครพนม

ในขณะเดียวกันที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร หลังพิธีเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว ประชาชน นักท่องเที่ยวยังได้รับชมความสวยงามของเรือไฟโชว์ลำแรกแห่งปี 2568  จากมหาวิทยาลัยนครพนม ขนาดความยาว 60 เมตร สูง 16 เมตร ใช้ตะเกียงจำนวน 5,999 ดวง โดยใช้น้ำมันตะเกียงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เรียกว่าโซล่าฮอล์ เป็นผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยนครพนม และยังให้ประชาชน นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วม โดยเชิญขึ้นไปจุดตะเกียงบนเรือ ด้วยมือของตนเองอีกด้วย

ทั้งนี้ งานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี 2568 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กันยายน-8 ตุลาคม 2568  รวม 12 วัน 12 คืน ภายในบริเวณศาลากลาง มีกิจกรรมมากมาย เช่น บูธจำหน่ายสินค้าโอทอป ซุ้มอาหารท้องถิ่น การแสดงวัฒนธรรมจาก 9 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติ การออกร้านมัจฉากาชาดจังหวัดนครพนม ตลาดมหาดไทยชวนชิม ถ่ายรูปเช็คอินสวนดอกไม้ ประติมากรรมโคมไฟ การแสดงศิลปวัฒนธรรมหมอลำ และคาราวานสินค้ามากมายให้ได้เลือกซื้อเลือกช้อปกัน

ส่วนที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง รับชมเรือไฟโชว์ เรือไฟโบราณถือเป็นต้นแบบเรือไฟยักษ์ในปัจจุบัน  กระทงสายวันละ 2,000 ดวง บริเวณ พิเศษสุดในวันที่ 7 ตุลาคม 2568 คืนวันออกพรรษาขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11  ตื่นตากับการไหลเรือไฟอันวิจิตรงดงามจาก 12 อำเภอ การแสดงบินโดรนแปลอักษร กระทงสายหรือไข่พญานาค 5,000 ดวง

นอกจากนี้ประชาชน นักท่องเที่ยว ยังได้ร่วมพิธีลอยเคราะห์รับโชค ด้วยการตัดผม ตัดเล็บใส่กระทงน้อยเพื่อล่องลอย ความทุกข์โศกเศร้า โรคภัยไข้เจ็บไปกับเรือไฟโบราณ จึงเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีสุดยิ่งใหญ่นี้.

012