ด้วยพระเมตตา'พระพันปีหลวง' หนุ่มบุรีรัมย์คนไข้ในพระราชานุเคราะห์ได้ชีวิตใหม่ ตั้งใจกราบพระบรมศพสักครั้ง

ด้วยพระเมตตา'พระพันปีหลวง' หนุ่มบุรีรัมย์คนไข้ในพระราชานุเคราะห์ได้ชีวิตใหม่ ตั้งใจกราบพระบรมศพสักครั้ง

วันศุกร์ ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 13.17 น.

31 ตุลาคม 2568 หนุ่มบุรีรัมย์ อายุ 29 ปี ป่วยตั้งแต่แรกเกิด สมองและอวัยวะต่างๆถลนออกมานอกศีรษะ เผยความในใจ หากครั้งนั้น ‘สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง’ ไม่ทรงรับเข้ามาเป็นคนไข้พระบรมราชานุเคราะห์ คงไม่ได้มีชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ได้ โดยจะขอทำความดีตอบแทนพระองค์ หากมีโอกาสสักครั้งอยากจะไปกราบพระบรมศพ ยังมีผู้ป่วยในพระราชานุเคราะห์หลายคน ที่ยังคงมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน เช่นจูเนียร์ หรือนายณัฐพล ทะนวนรัมย์ อายุ 29 ปี ราษฎร์บ้านไทรทอง ต.ลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ที่ยังคงสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และรำลึกถึงการได้รับพระราชทานชีวิตใหม่


โดยเป็นความในใจของจูเนียร์ หลังได้ทราบข่าวการสวรรคต สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพราะเมื่อ 25 ปีก่อน จูเนียร์ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ท่าน ทรงรับเข้าเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ ซึ่งสำหรับตัวของจูเนียร์แล้ว เปรียบเสมือนกับการได้มีชีวิตใหม่ด้วยพระเมตตาอย่างแท้จริง

นางพิรญาณ์ ทะนวนรัมย์ อายุ 63 ปี มารดาของนายณัฐพล หรือจูเนียร์ ได้เล่าย้อนอดีตให้ฟังว่า จูเนียร์ป่วยตั้งแต่แรกเกิดเพราะทันทีคลอดออกมา ก็พบว่าสมองและอวัยวะต่างๆได้ถลนออกมาอยู่นอกกะโหลกศีรษะ ทำให้คณะแพทย์ที่ทำคลอด และแพทย์ที่รักษาต้องทำการผ่าตัด นำสมองและอวัยวะต่างๆ กลับเข้าสู่ในกะโหลกศีรษะ แต่อาการก็ไม่ได้ดีขึ้น ยังมีอาการเจ็บป่วยถึงขั้นช็อกหมดสติอยู่ตลอดเวลา และต้องรับการรักษาอย่างต่อเนื่อง

โดยทุกครั้งที่รับการรักษาต้องอยู่รักษานานเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือน ทำให้ครอบครัวที่มีอาชีพรับจ้างรายวัน ฐานะยากจน ต้องหอบจูเนียร์เดินทางกลับมาอยู่ที่บ้านเกิดใน จ.บุรีรัมย์ ซึ่งขณะนั้นทางครอบครัวไปทำงานรับจ้างรายวันอยู่ที่กรุงเทพมหานครฯ และด้วยความยากจนจึงทำให้ไม่มีเงินค่าใช้จ่าย ทั้งค่าเดินทางและค่ากินอยู่ ที่จะต้องเดินทางไปรับการรักษาต่อ จึงต้องหยุดไม่ได้รับการรักษาติดต่อกันถึง 2 ปี เต็ม ซึ่งขณะนั้นผลข้างเคียงจากอาการป่วย ทำให้จูเนียร์ชักหมดสติ และมีอาการข้างเคียงต่างๆ อยู่เป็นประจำ

ต่อมาในปี 2546 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำนเนินมาที่ โครงการศิลปาชีพอำเภอกระสัง มารดาของจูเนียร์ก็ได้เข้าเฝ้ารับเสด็จ และทางผู้ใหญ่บ้านได้ให้มารดาของจูเนียร์ ที่ขณะนั้นวัยเพียง 4 ขวบ นำมาให้คณะแพทย์ที่ติดตามเสด็จได้ทำการตรวจรักษา และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ก็ได้รับจูเนียร์ เป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ทำให้จูเนียร์ได้รับการดูแลรักษาพยาบาลมาอย่างต่อเนื่องด้วยดี และมีอาการดีขึ้น สามารถเดิน และช่วยเหลือตนเองได้บ้าง ตามลำดับเรื่อยมาจนถึงทุกวันนนี้

นางพิรญาณ์ เล่าให้ฟังว่า ตอนคลอดจูเนียร์ได้คลอดที่โรงพยาบาลศิริราช ขณะที่คลอดออกมาพบว่าบุตรชายของตนมีอาการผิดปกติ โดยพบว่าสมองและอวัยวะต่างๆ บริเวณศีรษะได้โผล่ออกมาอยู่ข้างนอกกะโหลกศีรษะ ตอนนั้นหมอได้บอกว่าคุณแม่จะเลี้ยงดูบุตรไว้เอง หรือจะมอบให้สถานสงเคราะห์เป็นผู้เลี้ยง ตนจึงตอบไปว่าจะขอเลี้ยงไว้เอง จากนั้นหมอจึงได้ทำการผ่าตัดและยัดสมองกับอวัยวะต่างๆเข้าไปในกะโหลกศีรษะ พร้อมกับบอกลักษณะอาการป่วยของบุตรชายตนเอง และได้ทำการรักษาดูแลเรื่อยมา ซึ่งขณะนั้นครอบครัวตนพร้อมก็ต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านที่บุรีรัมย์ กับโรงพยาบาลศิริราช

นางพิรญาณ์ เล่าให้ฟังต่อว่า พอบุตรชายอายุได้ 4 ขวบ ระหว่างนั้นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จพระราชดำเนินมาที่โครงการศิลปาชีพอำเภอกระสัง ซึ่งตนเองก็ได้ไปเข้าเฝ้ารับเสด็จ ครั้งนั้นผู้ใหญ่บ้านได้ให้ตนนำบุตรชายไปให้คณะแพทย์ตรวจรักษาด้วย ซึ่งพระองค์ท่านได้ทรงรับบุตรชายของตน ให้เป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ฯ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา และได้รับการรักษาดูแลจากทีมแพทย์พยาบาล จนทำให้บุตรชายของตนมีอาการดีขึ้นมาตามลำดับจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งขณะนั้นก่อนที่จะได้เข้าเป็นคนไข้ในพระราชนุเคราะห์ฯ บุตรชายของตนได้หยุดรักษาไปถึง 2 ปี ด้วยเพราะสถานะทางครอบครัวที่ยากจน และการเดินทางในยุคนั้นที่การคมนาคมค่อนข้างจะลำบาก

ด้าน นายณัฐพล หรือจูเนียร์ บอกว่า รู้สึกดีใจมากที่ตนได้เป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ฯ เพราะหากตนไม่ได้มาเป็นคนไข้ในพระราชานุเคราะห์ฯ ก็ไม่รู้ว่าตนจะได้มีชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้หรือไม่ ถ้าไม่มีพระองค์ท่านตนก็ไม่รู้ว้าจะเป็นตายร้ายดียังไง ตนรู้สึกทราบซึ้งใจในน้ำพระทัยของพระองค์ท่านที่มีต่อครอบครัวของตน และทันทีที่ทราบข่าวการเสด็จสวรรคตฯ ก็รู้สึกเสียใจมาก บอกอะไรไม่ถูกเลย เสียใจอย่างสุดซึ้ง จากนี้ไปจะขอเป็นคนดีและทำดีเพื่อพระองค์ท่าน และหากมีโอกาสสักครั้งก็อยากจะเดินทางไปกราบพระบรมศพ ‘สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง’ ขอน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยความอาลัยและสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้.

012

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top