ศึกอสรพิษ!‘งูบู๊ตะขาบ’ สุดท้ายไม่พ้นมือกู้ภัยอุดรธานี

18 พฤศจิกายน 2568 เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี รับแจ้งจากประชาชนว่าพบงูอยู่บริเวณหลังบ้านหลังหนึ่ง ภายในซอยศรีสุข 3 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ขอให้เข้าตรวจสอบและนำงูออกไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้จัดทีมลงพื้นที่ทันที เมื่อไปถึงพบนายยศ อายุ 31 ปี ลูกจ้างเจ้าของบ้าน ยืนรอเพื่อพาไปชี้จุดเกิดเหตุบริเวณหลังบ้าน ซึ่งเป็นบ้านที่ไม่มีผู้อาศัย ใช้สำหรับเก็บของและจอดรถเท่านั้น

จากการตรวจสอบพบก็งูทางมะพร้าวขนาดใหญ่ นอนขดตายอยู่บนพื้นรกใบไม้ปิดคลุมหลังบ้านแล้ว ใกล้กันพบตะขาบขนาดใหญ่กำลังกัดแทะซากงู ก่อนหลบไปใต้แผ่นไม้ คาดว่าสัตว์ทั้งสองอาจต่อสู้กัน และงูสู้ไม่ไหวจึงถูกตะขาบกัดจนเสียชีวิต จากนั้นทีมกู้ภัยจึงใช้อุปกรณ์จับตะขาบนำใส่ถุงปุ๋ย เพื่อนำไปปล่อยในพื้นที่ธรรมชาติต่อไป

นายเพ็ญโภคัย แสนงาม พนักงานกู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรมฯ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่ามีสัตว์เลื้อยคลานอยู่ในบ้านเรือนประชาชน จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พบว่าเป็นงูทางมะพร้าวขนาดใหญ่ตายไปแล้ว ขณะที่ตะขาบขนาดใหญ่กำลังกัดกินซากงู ซึ่งสันนิษฐานว่างูเข้าไปในบ้านเพื่อหาอาหารและเผชิญหน้ากับตะขาบ ก่อนจะถูกตะขาบที่มีพิษรุนแรงกว่ากัดจนตาย พร้อมกันนี้อาสากู้ภัยฝากเตือนประชาชนในเขตชุมชนให้เพิ่มความระมัดระวัง หากพบสัตว์เลื้อยคลานหรือสัตว์มีพิษ ไม่ควรจับเองโดยเด็ดขาด หากไม่มั่นใจว่ามีพิษหรือไม่ ให้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ผ่านสายด่วน 191 เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอย่างปลอดภัย พร้อมให้ข้อมูลว่า แม้งูทางมะพร้าวจะไม่มีพิษ แต่มีเขี้ยวแหลมคม หากถูกกัดอาจติดเชื้อได้ ส่วนตะขาบนั้น หากผู้ได้รับบาดเจ็บมีอาการแพ้พิษ อาจเกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้

ด้านนายยศ ผู้แจ้งเหตุ กล่าวว่า เดินทางมาตรวจดูความเรียบร้อยของบ้านและนำรถที่จอดไว้กลับไปใช้งาน แต่เมื่อเดินตรวจรอบบ้านก็พบงูตัวใหญ่บริเวณด้านหลัง ผมก็ตกใจนึกว่างูยังไม่ตาย จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบทันทีเพื่อความปลอดภัย ตกใจเหมือนกันเพิ่งเคยเห็นงูกับตะขาบกัดกัน งูตัวใหญ่ตายแพ้ตะขาบตัวเล็กนิดเดียวแปลกมากเพิ่งเคยเจอ