วันจันทร์ ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2568
วันที่ 8 ธันวาคม 2568 ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญกระดูกและข้อ โพสต์ข้อความบนเพจเฟซบุ๊ก ‘หมอเก่งกระดูกและข้อ’ ระบุว่า ปวดหัวข้างเดียว... เป็น "ไมเกรน" หรือ "คอเสื่อม"? แยกให้ออกก่อนกินยาฟรีมาเป็นปี!
"หมอคะ ปวดหัวข้างเดียวตุบๆ กินยาไมเกรนมา 3 ปีแล้ว ไม่หายขาดสักที ยิ่งวันไหนงานยุ่งๆ ยิ่งปวดร้าวขึ้นกระบอกตาเลยค่ะ จะอ้วกก็ไม่อ้วก แต่มันทรมานจนทำงานไม่ได้"
ถ้าคุณกำลังพยักหน้าหงึกๆ เพราะอาการนี้ตรงกับชีวิตจริง... หมออยากขอให้หยุดอ่านบทความนี้สัก 2 นาทีครับ
เพราะคุณอาจจะเป็นหนึ่งในคนจำนวนมากที่ "รักษาผิดโรค" อยู่ก็ได้!
อาการปวดหัวข้างเดียว ไม่ได้มีแค่ไมเกรนเสมอไปครับ แต่มีศัตรูตัวฉกาจที่ชื่อว่า "โรคปวดศีรษะจากลำคอ" (Cervicogenic Headache) ที่ชอบปลอมตัวมาเนียนเป็นไมเกรน จนคนไข้หลงทางไป
กินยาแก้ปวดกันจนตับไตพัง
วันนี้จะพามาจับผิด "โรคเลียนแบบ" นี้กันครับ ว่ามันต่างกับไมเกรนตัวจริงยังไง?
เรื่องเล่าจากห้องตรวจ: คุณแอน สาวออฟฟิศผู้พกยาแก้ปวดติดตัว
คุณแอน (นามสมมติ) อายุ 35 ปี พนักงานบัญชี มาหาหมอเพราะ "ปวดต้นคอ" แต่พอซักประวัติลึกๆ เธอบอกว่าเธอเป็นไมเกรนมานาน กินยาแก้ปวดเกือบทุกวัน
"ปวดแบบไหนครับ?" ผมถาม
"ปวดเริ่มจากท้ายทอยค่ะหมอ แล้วมันวิ่งจี๊ดขึ้นมาข้ามหัว มาตุบๆ ที่เบ้าตาขวา บางทีก็ปวดขมับด้วยค่ะ"
ประโยคนี้แหละครับ คือ "กุญแจสำคัญ"
ไมเกรนแท้ๆ มักจะไม่เริ่มจากท้ายทอยแบบชัดเจนขนาดนี้... พอหมอลองกดจุดที่ "ข้อต่อกระดูกคอข้อที่ 2" ของคุณแอน เธอก็ร้องโอ๊ย แล้วบอกว่า "ใช่เลยหมอ! มันร้าวไปที่ตาเลย!"
สรุปเคสนี้ไม่ใช่ไมเกรนครับ แต่เป็น "คอเสื่อมจากการก้มทำงาน" พอรักษาที่คอ อาการปวดหัวที่เบ้าตาก็หายไปเองโดยไม่ต้องกินยาไมเกรนอีกเลย
ทำไม "คอ" ถึงทำให้ "ปวดหัว" ได้?
งงไหมครับ? คออยู่ข้างล่าง แต่ทำไมไปปวดที่หัวหรือกระบอกตา?
สาเหตุก็เพราะ "เส้นประสาทมันคุยกัน" ครับ
เส้นประสาทที่รับความรู้สึกจาก "คอส่วนบน" (C1-C3) มันส่งสัญญาณเข้าไปที่ก้านสมอง ซึ่งดันไปเป็นจุดเดียวกับที่รับสัญญาณจาก "ใบหน้าและศีรษะ" (Trigeminal nerve)
พอกระดูกคอเสื่อม หรือกล้ามเนื้อคอเกร็งมากๆ มันส่งสัญญาณเจ็บปวดไปที่ก้านสมอง... สมองเกิดความสับสนครับ นึกว่าความเจ็บนั้นมาจาก "หัว" หรือ "ตา" ก็เลยแปลผลออกมาเป็นอาการปวด
หัวตุบๆ นั่นเอง
เทียบอาการ: แยกให้ขาดใน 1 นาที
ลองสังเกตอาการตัวเองดูนะครับ ว่าเอียงไปทางไหนมากกว่ากัน
1. จุดเริ่มต้นของความปวด
- ไมเกรน: มักปวดที่ "ขมับ" หรือ "รอบกระบอกตา" ทันที อาจปวดข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้
- คอเสื่อม: มักเริ่มปวดตื้อๆ ที่ "ท้ายทอย" หรือ "บ่า" ก่อน แล้วค่อยๆ "ร้าว" ข้ามศีรษะมาที่หน้าผากหรือกระบอกตา (เหมือนตะขอเกี่ยว)
2. ลักษณะการปวด
- ไมเกรน: ปวดแบบ "ตุบ... ตุบ..." ตามจังหวะชีพจร (เหมือนมีหัวใจเต้นในหัว) รุนแรงมากจนต้องนอนพัก
- คอเสื่อม: ปวดแบบ "ตื้อๆ หนักๆ บีบๆ" (เหมือนมีอะไรมารัดหัว) ความรุนแรงปานกลาง ยังพอฝืนทำงานต่อได้ แต่รำคาญ
3. ตัวกระตุ้น (Triggers)
- ไมเกรน: แสงจ้า, เสียงดัง, กลิ่นฉุน, อดนอน, ช่วงมีประจำเดือน, หรืออาหารบางชนิด (ช็อคโกแลต, ชีส)
- คอเสื่อม: "ท่าทาง" ครับ... เช่น นั่งทำงานหน้าคอมนานๆ, ก้มเล่นมือถือ, หันคอเร็วๆ, หรือนอนหมอนสูงเกินไป
4. อาการร่วม
- ไมเกรน: มักมี "คลื่นไส้ อาเจียน" ตาพร่าเห็นแสงวิบวับ (Aura) แพ้แสง แพ้เสียง
- คอเสื่อม: มักมี "ปวดคอ บ่า ไหล่" ร่วมด้วยเสมอ บางคนอาจมึนหัว ขยับคอแล้วมีเสียงกรอบแกรบ หรือปวดร้าวลงแขน (แต่จะไม่ค่อยมีคลื่นไส้อาเจียนรุนแรงเท่าไมเกรน)
การรักษา: คนละทางกันเลย!
ถ้าวินิจฉัยผิด ชีวิตเปลี่ยนครับ
- ถ้าเป็น "ไมเกรน": ต้องใช้ยาแก้ปวดกลุ่มเฉพาะ (Triptan/Ergot), ยาป้องกันไมเกรน, นอนพักในห้องมืด
- ถ้าเป็น "คอเสื่อม": กินยาไมเกรนให้ตายก็ไม่หายครับ! ต้องรักษาที่ต้นเหตุ:
1. ปรับพฤติกรรม: เลิกก้มคอ (Text Neck), ปรับระดับจอคอม
2. กายภาพบำบัด: ยืดกล้ามเนื้อคอ, ดึงคอ, อัลตราซาวด์
3. ยา: ใช้ยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาแก้ปวดปลายประสาท
บทส่งท้ายจากใจหมอ
ใครที่ปวดหัวเรื้อรัง รักษาไมเกรนมานานแล้วไม่ดีขึ้น ลองก้มหน้าจับที่ "ท้ายทอย" หรือ "ก้านคอ" ตัวเองดูครับ
ถ้ากดแล้วเจ็บจี๊ด... หรือกดแล้วความปวดมันแล่นขึ้นหัว... ยินดีด้วยครับ (ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี) เพราะคุณอาจจะไม่ได้เป็นโรคทางสมองที่น่ากลัว แต่เป็นแค่โรคทางกล้ามเนื้อและ
กระดูกที่รักษาให้หายได้ครับ
แวะมาให้หมอเช็คสักนิดนะครับ บางทีแค่ "ยืดคอ" ถูกวิธี ยาแก้ปวดหัวก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปครับ
บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไป หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี