'เสธ.เบิร์ด'ย้ำชัด! 'ไทย'มีความชอบธรรม ต่อปฏิบัติการกรณีขัดแย้งไทย-กัมพูชา

'เสธ.เบิร์ด'ย้ำชัด! 'ไทย'มีความชอบธรรม ต่อปฏิบัติการกรณีขัดแย้งไทย-กัมพูชา

วันพุธ ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 19.52 น.

เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2568 พล.ท.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Wanchana Sawasdee ระบุว่า วันใดพ่ายแพ้แก่ไพรี จะได้แต่ปฐพีไม่มีกู

นับถือน้ำใจทหารหน้าแนวทุกนาย ถามว่า กลัวไหม ตอบได้ว่ากลัวแต่เขาเหล่านั้น หักความกลัวด้วยความกล้า


แน่นอน ไทยมีความชอบธรรมอย่างสูงสุดต่อการปฏิบัติการครั้งนี้ ชอบธรรมด้านการตัดสินใจ ด้านการเลือกวิธีการ และหลังการปะทะ

สรุป กรอบ “Just War Theory (สงครามที่ชอบธรรม)” สำหรับกรณีความขัดแย้งไทย–กัมพูชา ในเชิง หลักการสากล โดย ไม่สนับสนุนความรุนแรง และอยู่บนฐานกฎหมายระหว่างประเทศนะครับ

Just War คืออะไร

Just War Theory = กรอบจริยธรรมและกฎหมาย เพื่อประเมินว่า
“การใช้กำลังทางทหาร ชอบธรรม หรือ ไม่ชอบธรรม”

แบ่งเป็น 3 หลัก

1. Jus ad Bellum – ความชอบธรรมในการ “ตัดสินใจใช้กำลัง”
2. Jus in Bello – ความชอบธรรมในการ “วิธีการทำสงคราม”
3. Jus Post Bellum – ความชอบธรรม “หลังการสู้รบ”

อธิบายแยกทั้ง 3 หลัก

1.Jus ad Bellum ไทยชอบธรรมในการตัดสินใจด้วยเงื่อนไขต่อไปนี้

1. Just Cause – มีเหตุจำเป็นที่ยุติธรรม
ใช้กำลังได้เฉพาะกรณี
• ป้องกันตนเองจากการรุกราน
• ปกป้องอธิปไตย
• ปกป้องชีวิตพลเรือน

สำหรับกรณีไทย–กัมพูชา
ไทยต้องย้ำว่า “ไม่ได้เริ่มก่อน” และเป็น การป้องกันตนเองตามกฎหมายระหว่างประเทศ

2. Legitimate Authority – สั่งการโดยรัฐบาลที่ชอบธรรม
• การใช้กำลังต้องมาจาก
• รัฐบาล
• กลไกรัฐตามรัฐธรรมนูญ
• ไม่ใช่การตัดสินใจโดยบุคคลหรือกองกำลังนอกระบบ

3. Right Intention – เจตนาบริสุทธิ์
ใช้กำลังเพื่อ:
• หยุดยั้งภัยคุกคาม
• รักษาสันติภาพ
• ไม่ใช่เพื่อแก้แค้น ไม่ใช่เพื่อยึดดินแดน

4. Last Resort – เป็น “ทางเลือกสุดท้าย” จริง
ก่อนใช้กำลังต้อง:
• เจรจาแล้ว
• ใช้กลไกการทูตแล้ว
• ใช้แรงกดดันระหว่างประเทศแล้ว

ถึงจะบอกได้ว่า
“ทางทหารคือ ทางเลือกสุดท้าย”

5. Proportionality – ใช้กำลังอย่างได้สัดส่วน
• ภัยคุกคามระดับใด → ตอบโต้ระดับนั้น
• ไม่ตอบโต้เกินกว่าเหตุ

6. Reasonable Chance of Success – ไม่ใช่การทำลายแบบไร้ทางออก
• ต้องมีเป้าหมายชัดเจนว่า
“ใช้กำลังแล้วจะหยุดความรุนแรงได้จริง“

————————————————————————-

2.Jus in Bello ไทยชอบธรรมในการเลือกใช้วิธีการ

ถ้า “จำเป็นต้องใช้กำลัง” ต้องรบอย่างชอบธรรมอย่างไรแม้จะ ชอบธรรมในการเริ่มต้น แต่ถ้า วิธีการผิด ก็ยังผิดกฎหมาย

1. Distinction – แยกทหารกับพลเรือน
• โจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหาร
• ห้ามทำร้ายพลเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล วัด
2. Proportionality – ไม่สร้างความเสียหายเกินจำเป็น
• ประโยชน์ทางทหารต้อง มากกว่า ความเสียหายต่อพลเรือน
3. Military Necessity – โจมตีเฉพาะที่ “จำเป็นทางทหาร”
• ห้ามลงโทษเชิงตอบโต้
• ห้ามใช้ความรุนแรงเพื่อข่มขวัญประชาชน
4. Humanity – เมตตาธรรมในสนามรบ
• ปฏิบัติต่อเชลยศึกอย่างมนุษย์
• ให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย

—————————————————————————

3. Jus Post Bellum (รอหลังจากนี้)

“หลังการสู้รบ” ก็ต้องชอบธรรม
• ฟื้นฟูพลเรือน
• ชดเชยความเสียหาย
• กลับเข้าสู่การเจรจา
• ไม่เอาความพ่ายแพ้ศัตรูไปซ้ำเติม

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top