กรมอุทยานฯ อายัดลูกเสือโคร่งจากเมียนมา หลังพบมูลนิธิรับมอบผิดขั้นตอน เร่งตรวงDNAหาที่มา

กรมอุทยานฯ อายัดลูกเสือโคร่งจากเมียนมา หลังพบมูลนิธิรับมอบผิดขั้นตอน เร่งตรวงDNAหาที่มา

วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 15.24 น.

กรมอุทยานฯนำเสือโคร่งไปดูแลที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (เขาประทับช้าง) จ.ราชบุรี หลัง KNU ส่งมอบให้มูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าเพชรบุรี ที่ชายแดน จ.กาญจน์

18 ธันวาคม 2568 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร คณะทำงานชุดเฉพาะกิจกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม (ฉก.ทส.) ออกมาโพสต์ตั้งคำถามผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า...เกิดอะไรขึ้น? ผมเพิ่งพบรายงานเหตุการณ์ ลักลอบนำเข้าเสือโคร่ง เพศเมีย อายุ 1 ปี ข้ามจากฝั่งพม่าบริเวณฐานปฏิบัติการหกพันไร่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี แต่กลับมีสิ่งที่ไม่สมควรเกิดขึ้นตามมาด้วย


พฤติกรรมของเหตุการณ์ มีรายงานว่า พบชาวต่างชาติรายหนึ่ง มีชื่อเป็นเจ้าของมูลนิธิเกี่ยวกับสัตว์ ในพื้นที่ จ.เพชรบุรี เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าสัตว์ครั้งนี้ ในที่เกิดเหตุมีรถยนต์มูลนิธิฯดังกล่าวจอดอยู่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจยึดเสือ เจ้าหน้าที่พบเสือโคร่ง เพศเมีย อายุ 1 ปี อยู่ในกรง โดยมีกลุ่มคนของมูลนิธิฯ เจรจาตกลงกันก่อน ก่อนที่จะมีการควบคุมของเจ้าหน้าที่

มีการอ้างว่า เสือโคร่งนำมาโดย กองกำลังติดอาวุธ ชัดเจนว่า มีผู้กระทำความผิดและกลุ่มคนที่สนับสนุนการกระทำความผิด เรื่องนี้คณะเจ้าหน้าที่ร่วมเหตุการณ์ อธิบดีกรมอุทยานฯและเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ มีการตรวจยึดพบการกระทำผิดและผู้ร่วมการกระทำผิด ชัดเจน แต่กลับทำคดีเสือโคร่ง เป็นส่งกระดาษเปล่า ?! “ทำแบบนี้ได้ไง” การปราบปรามกลุ่มขบวนการค้าสัตว์ป่า จะดำเนินการให้หมดได้อย่างไร ถ้ายังเป็นกันแบบนี้? ฝากไปถึงท่านรัฐมนตรีด้วยนะครับ เรื่องแบบนี้จะยังคงมีอยู่อีกไม่ได้”นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบที่มาพบข้อเท็จจริงว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2568 ที่ผ่านมา มีการส่งมอบเสือโคร่งตัวดังกล่าวกันที่บริเวณช่องทาง 6 พันไร่ บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่มีชายแดนติดกับอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา ระหว่างกองกำลังไม่ทราบฝ่ายกับมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าเพชรบุรี โดยมีการถ่ายภาพเอาไว้เป็นหลักฐานการรับมอบ

ต่อมาเวลา 19.42 น. นายองอาจ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ชาวตำบลบางยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน โดยนายองอาจ ผู้แจ้งมีตำแหน่งเป็นรองประธานมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าเพชรบุรี ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทสถานพยาบาลชื่อมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่า โดยในบันทึกแจ้งว่า เดินทางมารับเสือโคร่งเพศเมีย จำนวน 1 ตัวเพื่อนำไปดูแลที่ศูนย์พักพิงมูลนิธิเพื่อนสัตว์ป่าเพชรบุรี จึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเอาไว้เป็นหลักฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเสือโคร่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และเป็นสัตว์ป่าที่จะต้องได้รับการคุ้มครองอย่างเข้มงวด ในกรณีดังกล่าวจะต้องส่งมอบให้กับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นำไปดูแลเท่านั้น

ล่าสุด เพจกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระบุว่า เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับรายงานจาก นายราชันย์ บัวตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) เกี่ยวกับการรับมอบเสือโคร่งเพศเมียที่ถูกตรวจพบภายในฐานปฏิบัติการของกลุ่มแก๊งสแกมเมอร์ในพื้นที่ชายแดนประเทศเมียนมา โดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้แสดงความห่วงใยต่อสวัสดิภาพของเสือโคร่งตัวนี้เป็นอย่างมาก กำชับให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ดูแลอย่างเต็มที่ พร้อมสั่งการให้ยกระดับความเข้มงวดตามแนวชายแดนเพื่อสกัดกั้นการลักลอบค้าสัตว์ป่าที่อาจแฝงมากับธุรกิจผิดกฎหมายในพื้นที่รอยต่อระหว่างประเทศ จึงได้สั่งการให้สัตวแพทย์เก็บตัวอย่างเลือดเพื่อตรวจพิสูจน์ทางพันธุกรรม (DNA) อย่างละเอียด เพื่อระบุสายพันธุ์และที่มาว่ามีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติรายใหญ่หรือไม่

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 01.35 น. ของวันที่ 18 ธันวาคม 2568 ทหารเคเอ็นยู (KNU) ได้นำลูกเสือโคร่งที่ตรวจยึดได้ระหว่างภารกิจปราบปรามกลุ่มสแกมเมอร์ในฝั่งประเทศเมียนมา มาส่งมอบ ณ จุดตรวจ ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ (หกพันไร่) อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ ฉก.ลาดหญ้า เพื่อส่งมอบให้มูลนิธิแห่งหนึ่ง จึงได้ประสานงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบหลักฐานการครอบครอง นำเข้า หรือส่งออกที่ถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึด โดยมีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ฐานครอบครองและนำเข้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ฐานนำเข้าสัตว์ป่าโดยไม่ผ่านการตรวจโรค พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ฐานนำของเข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิผ่านพิธีการศุลกากร โดยหัวหน้าด่านตรวจสัตว์ป่าสังขละบุรีได้ดำเนินการแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี เรียบร้อยแล้ว

นายราชันย์ บัวตรี ผอ.สบอ.3 เปิดเผยว่า คณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ทั้งภาพถ่าย พยานบุคคล และพฤติการณ์ในที่เกิดเหตุ เพื่อจัดทำบันทึกกล่าวโทษและดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทุกคนอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นผู้ลักลอบนำเข้าจากฝั่งพม่า หรือบุคคลในมูลนิธิที่ทำหน้าที่ประสานงาน

โดยความผิดที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 17 (ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต) และมาตรา 23 (นำเข้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต) พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 มาตรา 31 (นำเข้าสัตว์โดยไม่ได้รับใบอนุญาต) และ พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 242 (นำของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักร)

ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นคดีที่มีความละเอียดอ่อนและมีองค์กรการกุศลเข้ามาเกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่จึงต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้รัดกุมที่สุด เพื่อส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ออกหมายเรียกผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

สำหรับเสือโคร่งหลังเจ้าหน้าที่รับมอบตามบันทึกประจำวันสถานีตำรวจภูธรสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ปจว.ข้อ 5 เวลา 21.00 น. ลงวันที่ 17 ธ.ค.2568 ส่งมอบศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (เขาประทับช้าง) จ.ราชบุรี และจากการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่าเป็นลูกเสือโคร่งเพศเมีย อายุประมาณ 4 เดือน น้ำหนัก 29 กิโลกรัม การตรวจสุขภาพภายนอก พบว่าเสือโคร่งมีสุขภาพแข็งแรง ร่าเริง สนใจสิ่งแวดล้อม มีความอยากอาหารตามปกติ จึงได้ทำการเก็บตัวอย่างขนบริเวณลำตัว เพื่อส่งตรวจหาชนิดย่อยของเสือโคร่ง ไปยังศูนย์นิติวิทยาศาสตร์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งจะใช้ระยะเวลาในการตรวจ 30-45 วัน จากนี้ประมาณ 3-5 วัน เมื่อเสือโคร่งมีความเครียดลดลง สัตวแพทย์จะเข้าทำการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อส่งตรวจโรคทางห้องปฏิบัติการต่อไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top