14 มิ.ย. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันเอก จรูญ จาตุรงค์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยพันตำรวจเอก ชินรัตน์ ฤทธาคณานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และนายมานะ จรุงเกียรติขจร นายอำเภอเมืองกระบี่ สนธิกำลังทหารจากกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกระบี่ อาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดกระบี่ ที่ 1 และเจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามการกระทำความผิดว่าด้วยการป่าไม้ภาคใต้ กรมป่าไม้ ลงพื้นที่พบนายจตุพร กาฬรัตน์ นายชัยนิตย์ แสงทอง  นายสุมนตรี สุข ดำ นายชูวงศ์ มณีกุล และนายสมสุข เกาะกลาง แกนนำกลุ่มม็อบเกษตรกรผู้ยากจนไม่มีที่ดินทำกิน ที่นำสมาชิกกลุ่มม็อบเกษตรกรผู้ยากจนไม่มีที่ดินทำกิน จำนวน 80 ครัวเรือน รวม 180 คน เข้าไปบุกรุกยึดถือครอบครองเข้าทำประโยชน์ในสวนปาล์มน้ำมัน หมู่ที่ 4 บ้านห้วยโต้ ตำบลทับปริก อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นแปลงที่ดินสาธารณประโยชน์ประจำหมู่บ้าน ที่บริษัทเชียงแสนการเกษตรจำกัด ขอใช้ที่ดินจำนวน 700 ไร่ และบริษัทสหยูเนียนปาล์มจำกัด ขอใช้ที่ดินจำนวน 1,200 ไร่ แปลงที่ดิน สปก ของสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดกระบี่ ที่บริษัทสหอุตสาหกรรมน้ำมนปาล์มจำกัด ขอเช่าและใช้พื้นที่ทำสวนปาล์มน้ำมันจากราษฎรหมู่ที่ 4 บ้านหวางคลอง ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ และหมู่ที่ 4 บ้านห้วยยูง ตำบลห้วยยูง อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ จำนวน 12,000 กว่าไร่ 

 

โดยกลุ่มม็อบเกษตรกรผู้ยากจนไม่มีที่ดินทำกิน เข้าไปบุกรุกยึดถือครอบครองเข้าทำประโยชน์ จำนวน 80 ครัวเรือน รวม 180 คน ซึ่งกลุ่มม็อบดังกล่าวได้สร้างปัญหาให้กับทางเจ้าหน้าที่มาโดยตลอด ตั้งแต่กลางเดือนธ.ค.56 เป็นต้นมารวม 7 เดือนเศษ ทั้งมีการลักขโมยผลปาล์มน้ำมัน การทำร้ายร่างกาย และยิงกันตาย

 

 

พลตรี สนอง คงยั่งยืน ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกทุ่งสง ในฐานะหัวหน้ารับผิดชอบพื้นที่รักษาความสงบเรียบร้อย จึงสั่งการให้พันเอก จรูญ จตุรงค์ ผู้บังคับการกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 15 จังหวัดกระบี่ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ลงไปพบปะกับกลุ่มม็อบดังกล่าวเพื่อทำความเข้าใจว่า การรวมตัวกันเกินจำนวน 5 คนมีความผิด และการสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง ทั้งทำให้ไม่มีความสงบเรียบร้อยนอกพื้นที่ก็เป็นความผิดตามประกาศกฎอัยการศึก ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อเป็นการรักษาความสงบเรียบร้อยให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดกระบี่และพื้นที่ของประเทศไทย จึงขอให้แกนนำและกลุ่มม็อบเกษตรกรที่บุกรุกสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่ตำบลทับปริก อำเภอเมืองกระบี่ ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ และตำบลห้วยยูง อำเภอเหนือคลอง ออกจากพื้นที่ก่อนวันที่ 2 ส.ค. 57โดยไม่มีข้อต่อรองใดๆทั้งสิ้น หากฝ่าฝืนจำถูกจับกุมดำเนินคดีในชั้นศาลทหาร ซึ่งมีโทษปรับ 40,000 บาท จำคุก 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ