3 ก.ค.57 ที่ห้องพิจารณา 913 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 09.30 น.ศาลอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 2 เป็นโจทก์ ฟ้อง พ.ต.ชานนท์ หรือ เสธ.น็อต ชิณวงศ์ อายุ 49 ปี อดีตนายทหารประจำ กองบัญชาการทหารสูงสุด ช่วยราชการส่วนหน้า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ยะลา , นายสุขุม หรือ เบียร์ เจือแจ่มจันทร์ อายุ 37 ปี และนาย วิฑูรย์ นิยกิจ อายุ 50 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน เป็นจำเลยที่ 1 - 3 ในความผิดฐาน สมคบกันกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ร่วมกันมียาไอซ์ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เพื่อจำหน่ายและจำหน่าย จัดหาที่พำนัก หรือที่ซ่อนเร้นเพื่อช่วยเหลือแก่ผู้กระทำผิด เสพยาเสพติด มีเมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน (ยาอี) ไว้ในครอบครอง และปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมโจทก์

โจทก์ฟ้องว่าระหว่างวันที่ 20 ก.พ.50 ถึงวันที่ 11 เม.ย.50 จำเลยที่ 1 - 3 กับพวกที่ถึงแก่ความตาย ร่วมกันมียาไอซ์ 7 ถุง น้ำหนัก 12.7 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และร่วมกันจำหน่ายยาไอซ์ 2 ถุง หนัก 1.010 กรัม ให้แก่สายลับที่ล่อซื้อราคา 6,000 บาท และจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดหาห้องเลขที่ 305 เดอะลิฟวิ่งรูม อพาร์ตเม้นต์ แขวงและเขตดินแดง กทม.เพื่อใช้มั่วสุมเสพยาไอซ์ และใช้เป็นที่ประชุมตกลงการนำยาเสพติดไปจำหน่าย นอกจากนี้จำเลยที่ 1 ยังมียาอี 1 ซอง น้ำหนัก 0.250 กรัม และร่วมกันเสพ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมจำเลยทั้งสามพร้อมยาเสพติดของกลาง อุปกรณ์การเสพ และอื่น ๆ

คดีนี้ศาลชั้นต้น พิพากษาเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.52 ให้จำคุก พ.ต.ชานนท์ จำเลยที่ 1 และนาย วิฑูรย์ จำเลยที่ 3 คนละ 58 ปี ปรับคนละ 3.6 ล้านบาท ส่วนนายสุขุม จำเลยที่ 2 จำคุก 16 ปี 2 เดือน ปรับ 9 แสนบาท จำเลยอุทธรณ์ ต่อมาศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.54 ให้แก้โทษเป็นจำคุก จำเลยที่ 1 และ 3 คนละ 41 ปี ปรับคนละ 3 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่ 2 จำคุก 14 ปี 8 เดือน ปรับ 8 แสนบาท จำเลยทั้งสาม ยื่นฎีกา ต่อสู้คดี

ศาลฎีกาพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักรับฟังได้ตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา ที่จำเลยฎีกาขอให้ศาลฎีกา พิพากษายกฟ้องว่า ไม่ได้กระทำผิดนั้น ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย พิพากษายืน

หลังฟังคำพิพากษาบรรดาญาติของจำเลยทั้งสามต่างโผเข้ากอด ร่ำไห้ หอมแก้มจำเลยด้วยความคิดถึง หลังจากถูกจองจำมานานกว่า 7 ปี ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวไปคุมขังที่เรือนจำบางขวางตามเดิม

สำหรับ พ.ต.ชานนท์ หรือ เสธ.น็อต เป็นนักโทษเด็ดขาด คดีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุด หมายเลขดำ อ.2419/2550 เมื่อวันที่ 8 พ.ย.56 ให้ประหารชีวิต ฐานร่วมกันฆ่า และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน จากเหตุยิงปะทะขณะมีการเข้าจับกุมพวกจำเลยที่ เดอะลิฟวิ่งรูม อพาร์ตเมนต์ ในวันที่ 11 เม.ย.50 เป็นเหตุ ด.ต.มาโนช ศรีละคร และ ส.ต.ท.ไสว อาจหนองหว้า เสียชีวิต