ล็อกญาติขาใหญ่เกาะเต่า
เค้นฆ่าฝรั่ง
เค้าหน้าตรงภาพวงจรปิด
ผู้ใหญ่บ้านโดนด้วยตรวจDNA
พิรุธลูกเผ่นเข้ากรุง-ตร.เร่งล่า
โวรู้ตัวฆาตกรแล้ว-จับได้แน่
หนุ่มสกอตแฉถูกไล่ฆ่ายัดคดี
จากคดีคนร้ายก่อเหตุสังหารโหด นายเดวิด วิลเลียม และ น.ส.ฮันนาห์ วิคตอเรีย 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ ที่บริเวณ
ริมหาดทรายรี หมู่ 1 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากในช่วงกลางดึกวันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรายหนึ่งได้โพสต์รูปบุคคลที่ต้องสงสัย 2 คน โดยอ้างว่ามีความเกี่ยวโยงกับคดีฆาตกรรมดังกล่าว จากนั้น ทางตำรวจได้นำภาพชายต้องสงสัยไปเปรียบเทียบกับภาพวงจรปิดพบว่า เป็นชายไทยมีรูปร่างผอมสูงและมีส่วนสูงใกล้เคียงกัน สวมแว่นสายตาและสวมต่างหูข้างซ้าย คาดว่าน่าจะเป็นบุคคลเดียวกันและเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องสัยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามตัวอยู่
เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดี
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 8 ส่วนหน้า รพ.ส่งเสริมสุขภาพส่วนตำบลเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดี เพื่อนำผลการทำงานมาวิเคราะห์ร่วมกัน และตัดประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป ซึ่งสุดพบว่าแนวทางการสืบสวนได้แคบลงหลังจากมีหลักฐานชายไทยต้องสงสัยจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจค่อนข้างมั่นใจว่าอาจจะมาส่วนเชื่อมโยงกับคดีดังกล่าว
คาดได้ตัวผู้ต้องสงสัยใน1-2วัน
ด้าน พล.ต.ท.ปัญญา กล่าวหลังการประชุมว่า คดีมีความคืบหน้าไปมาก ล่าสุดทราบตัวผู้ต้องสงสัยที่ร่วมกันก่อเหตุทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงนำพยานหลักฐานที่เรามีมาเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน ขณะนี้ได้ควบคุมตัวชายต้องสงสัยที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิดได้แล้ว เป็นน้องชายของผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี และอยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังพบว่าหนึ่งในผู้ต้องสงสัยคือลูกชายของผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว ซึ่งขณะนี้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปกบดานอยู่ในกรุงเทพฯ จึงได้ประสานไปยังตำรวจนครบาลในการติดตามตัวมาสอบสวน และคาดว่าจะได้ตัวผู้ต้องสังสัยทั้งหมดภายใน1-2 วันนี้อย่างแน่นอน
ยันไม่มีจับแพะ-ไม่กลัวมาเฟีย
“ขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ เราจะไม่มีการจับแพะโดยเด็ดขาด ที่สำคัญคดีนี้อยู่ในความสนใจของทั่วโลก ตำรวจต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้พยานหลักฐานที่เรามีอยู่มัดตัวผู้ต้องหาให้แน่นหนารัดกุม ยิ่งตอนนี้สังคมมีความกังวลในเรื่องผู้มีอิทธิพลมากั้นขวางการทำคดีนั้น ขอให้ความมั่นใจว่า ผู้มีบารมี มีอิทธิพลในพื้นที่ที่กังวลกันนั้น ขอยืนยันว่าจะไม่มีใครสามารถมาขวางกั้นการสืบสวนหาพยานหลักฐาน และเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของตำรวจอย่างเด็ดขาด และหลังจากนี้จะเร่งดำเนินการกวาดล้างให้เร็วที่สุด” พล.ต.ท.ปัญญา กล่าว
เจ้าของอินทัชบังกะโลเข้าให้ปากคำ
ต่อมาเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผกก.สภ.เกาะพะงัน ได้พาตัว นายมนตรีวัฒน์ ตู้วิเชียร อายุ 45 ปี เจ้าของอินทัชบังกะโล ผู้ดูแล เอซีบาร์ ซึ่งเป็นชายที่อยู่ในภาพวงจรปิดวันเกิดเหตุและเป็นน้องชายของ นายวรพันธ์ ตู้วิเชียร อายุ 49 ปีหรือผู้ใหญ่วอ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน เจ้าของ เอซีบาร์ มาที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า โดยมี พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.8, พล.ต.ต.สมชาย อ่วมถนอม รอง ผบช.ภาค8, พล.ต.ต.เกียรติพงษ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เป็นผู้สอบปากคำด้วยตัวเอง โดยไม่ให้สื่อมวลชนเข้าทำข่าว
โวยลั่นบริสุทธิ์ไม่ต้องมาถ่ายภาพ
จากนั้นประมาณ 1 ชม. นายมนตรีวัฒน์ ได้เดินลงมาเข้าห้องน้ำด้านล่าง และขณะกำลังเดินกลับขึ้นไปได้มีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศพากันเข้ามาถ่ายภาพจำนวนมาก ทำให้นายมนตรีวัฒน์ พูดด้วยความไม่พอใจว่า “ผมบริสุทธิ์ เรื่องนี้ต้องกระจ่าง ไม่ต้องมาถ่ายผมหรอก” หลังจากนั้นได้ถูกสอบต่อจนถึงเวลา 13.50 น. จึงปล่อยตัวกลับไป
เชิญเจ้าของเอซีบาร์ตรวจดีเอ็นเอ
และเวลา 12.30 น. นายวรพันธ์ ตู้วิเชียร หรือผู้ใหญ่วอ ได้ขับรถจักรยานยนต์มาที่หน้ารพ.ส่งเสริมสุขภาพส่วน ต.เกาะเต่า และเดินขึ้นไปห้องประชุมด้านบน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการได้ตามขึ้นไปในห้องประชุม เพื่อจัดเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไว้ตรวจสอบ
เตรียมส่งทีมนิติเวช-พฐ.ร่วมสางคดี
ทางด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าที่ ผบ.ตร. กล่าวว่า การสืบสวนสอบสวนยังคงเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งทางตำรวจในพื้นที่ได้ขอให้ทีมแพทย์นิติเวช พร้อมทั้งกองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) ลงพื้นที่อีกครั้ง เพื่อร่วมประชุมกับชุดสืบสวนสอบสวนในพื้นที่เพื่อประเมินสถานการณ์ วางกรอบให้เป็นไปแนวทิศทางเดียวกัน โดยยอมรับว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ค่อยได้มีโอกาสพูดคุยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ซึ่งมีเพียงเฉพาะชุดสืบสวนสอบสวนเท่านั้นที่มีข้อมูล ซึ่งหลังจากนี้จะวางกรอบการทำงานให้เป็นไปในลักษณะและทิศทางเดียวกัน
“บิ๊กอ๊อด”เชื่อเกาะเต่าไม่มีมาเฟีย
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า สำหรับความคืบหน้าทางคดีมีความคืบหน้ามากในทางการสืบสวน ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า 2 นักท่องเที่ยวอังกฤษถูกฆาตกรรม เพราะเกิดเหตุทะเลาะกับมาเฟียในพื้นที่นั้น ยังไม่ได้รับรายงาน แต่เชื่อว่าไม่มีมาเฟียจริงตามที่เป็นข่าว ซึ่งหากมีมาเฟียจริง เชื่อว่าคนในพื้นที่รวมทั้งชุดสืบสวนจะต้องรายงานให้ตนทราบ เพราะที่ผ่านมาทุกหน่วยงาน รวมทั้งประชาชนบนเกาะให้ความร่วมมือในการติดตามตัวคนร้ายกับตำรวจมาโดยตลอด ซึ่งตำรวจก็จะเร่งจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร็วที่สุด ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัย 2 ราย ล่าสุดที่เป็นลูกเรือสปีดโบ๊ต ผลจากนิติเวชระบุว่าไม่ตรงกับดีเอ็นเอในช่องคลอดของผู้เสียชีวิตและวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ
หนุ่มสก็อตอ้างถูก2ชายไทยไล่ฆ่า
ทางด้านเว็บไซต์ของ นสพ.เดลี่ เมล์ รายงานว่า ได้รับเบาะแสใหม่จาก นายฌอน แมคแอนนา หนุ่มชาวสก็อตแลนด์ วัย 25 ปี ที่เดินทางมาถึงเกาะเต่าเมื่อสองสัปดาห์ก่อน โดยได้ทำงานและเล่นกีตาร์ร้องเพลงที่ผับแห่งหนึ่ง อีกทั้งยัง เคยพบกับนายเดวิด ที่เกาะเต่าสองสามครั้ง ได้เปิดเผยในเฟซบุ๊ก ว่า เขาถูกชายไทย 2 คนซึ่งน่าจะเป็นกลุ่มคนร้ายที่ลงมือฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษข่มขู่ ตามไล่ล่า และจะจับเขาไปแขวนคอ เพื่อป้ายความผิดให้เขากลายเป็นฆาตกรแทน ทำให้เขาต้องวิ่งหนี และเข้าไปหลบที่ด้านหลังเคาน์เตอร์เก็บเงินในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งบนเกาะ และโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือไปยังสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษในประเทศไทย
เชื่อหวังหาแพะรับบาปแทน
นายฌอนระบุด้วยว่า เขาได้ถ่ายรูปของชายทั้ง 2 คนเอาไว้ และโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊คระบุว่า ‘มาเฟียคนไทยกำลังพยายามจะฆ่าผม, โปรดช่วยผมด้วย’ ทั้งนี้ เขาเชื่อว่า ชายทั้งคู่ต้องการหา ชาวต่างชาติมาเป็นแพะรับบาป ซึ่งทั้งสองอาจจะรู้ว่าใครคือฆาตกร
ตร.ระบุคนในพื้นที่รู้ดีใครคือฆาตกร
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวจากตำรวจรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า ซึ่งความจริงแล้วคนในพื้นที่จำนวนหนึ่งรู้เห็นในสิ่งที่เกิดขึ้นว่าใครเป็นคนทำ แต่เป็นเพราะไม่อยากมีปัญหากับกลุ่มคนเหล่านั้น จนในที่สุดเรื่องราวทั้งหมดถูกเปิดเผยโดยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่รู้เห็นเรื่องราวในคืนเกิดเหตุ หลังออกนอกประเทศไปแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี