อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดหลายจังหวัดที่จบชีวิตราชการในวัย 60 ปีเลือกทำงานที่ตนเองชอบในชีวิตบั้นปลายโดยเลือกที่จะทำการเกษตร เปิดสวนเกษตรชื่อสวนตาลคู่ ในเขต ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ปลูกมะนาวกว่า 200 ต้นพร้อมจำหน่ายและไม้ขายได้อีกหลายชนิดหวังให้เป็นศูนย์เรียนรู้และสร้างรายได้ในชีวิตบั้นปลาย พร้อมให้ข้อคิดและคำแนะนำการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขหลังเกษียน

ชีวิตบั้นปลายของอาชีพราชการ หลังจากเกษียณอายุราชการไปแล้วในวัย 60 ปีต่างคนเลือกที่จะใช้ชีวิตไปตามแบบที่ตนเองเอง อย่างเช่นนายอำนาจ  ผการัตน์ อายุ 62 ปีอดีตผู้ว่าราชการหลายจังหวัดเช่น อดีตผู้ว่ากาญจนบุรี,ยโสธร,อุดรธานีและสกลนคร หลังจากจบชีวิตในวัยเกษียน ท่านอดีตผู้ว่าท่านนี้เลือกที่จะเป็นเกษตรกรอยู่เรือกสวนไร่นา โดยแปลงพื้นที่ที่ตนเองซื้อเอาไว้เป็นสวนเรียนรู้ ชื่อว่า “สวนตาลคู่” ตั้งอยู่เลขที่ 333 หมู่ 1 ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี  พื้นที่ 20 ไร่แห่งนี้เป็นสวนที่มีการปลูกพืชเศรษฐกิจหลากหลายชนิด อาทิเช่น มะนาวพันธุ์ต่างๆ อินทะผาลัม ลิ้นฟ้า และปลูกไม้ยืนต้น และก็สร้างรายได้ให้กับท่านอดีตผู้ว่าฯ อย่างเป็นกอบเป็นกำ

โดยเฉพาะมะนาวที่มีอยู่กว่า 200 ต้นที่ขายลูกได้ตลอดทั้งปีและยังขายพันธุ์มะนาวอีกด้วย โดยอดีตท่านผู้ว่าจะใช้เวลาว่างในช่วงวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์เดินทางมาพักผ่อนที่สวนได้สูดอากาศตามธรรมชาติที่ร่มรื่นเย็นสบายตลอดทั้งวัน แต่ก็ใช่ว่าท่านผู้ว่าฯ จะได้มาที่สวนแห่งนี้เพียงเสาร์อาทิตย์ เพราะแต่ละวันจะมีอบต.เทศบาลหรือนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเดินทางมาดูงานอยู่ประจำไม่เว้น แถมใจดีใครมาดูงานแจกมะนาวฟรีอีกด้วย

นายอำนาจ ผการัตน์ อดีตผู้ว่าฯ เปิดเผยว่า หลังชีวิตเกษียนเลือกที่ทำสวนไร่นาเพราะเป็นคนที่ชอบการเกษตรอยู่แล้ว แถมใจดีใครมาดูงานแจกมะนาวฟรีอีกด้วยนแห่งนี้เพียงเสาร์อาทิตย์ เพราะแต่ละวันจะมีอบต.เทศบาลหรือนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเดินทาง โดยทำการแปลงที่ดินที่มีอยู่ 20 ไร่แต่ก็ไม่ได้ใช้ทั้งหมด เลือกทำบ่อปลา 2 บ่อ ปลูกพืชนานาชนิดมีเกือบทุกอย่าง เช่น กล้วย ต้นไผ่ อินทะผาลัม หรือแม้กระทั่งไม้ยืนต้นเช่นประดู่ พะยูง แต่มะนาวถือเป็นจุดเด่นของสวนก็ว่าได้ มะนาวที่ปลูกไว้มีทุกพันธุ์ เช่นพันธุ์ลูกดก แป้นพิจิตรที่กำลังนิยมกัน ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 200 ต้นปีๆ หนึ่งทำรายได้เกือบ 200,000 บาท

นอกเหนือจากการขายลูกแล้วยังมีพันธุ์มะนาว นอกจากนี้ต้นอินทะผาลัมที่กำลังปลูกอีก และ หรือต้นลิ้นฟ้าภาษาอีสานเรียกกัน อย่างที่บอกในตอนแรกตนเองชอบงานเกษตรจึงเลือกที่จะทำสวนพืชเศรษฐกิจทำเท่าที่เราจะทำได้ในช่วงวันหลัง 60 ปีและก็มีความสุขด้วย แต่ก็แตกต่างกับในช่วงที่รับราชการพบปะคนมากมายมาทำสวนก็ใช่ว่าจะเหงาเลยทีเดียว เพราะยังมีคนรู้จักแวะมาเที่ยมชมสวนแห่งนี้อยู่เรื่อยๆ ทำให้ยังพบกับเพื่อนสนิทมิตรสหายอยู่ตลอดไม่เหงาครับ

ตอนท้ายอดีตผู้ว่าอำนาจ กล่าวให้ข้อคิดและคำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในวัยหลังเกษียนว่า เลือกในสิ่งที่ตนเองชอบ เพราะลำพังวัยเราตอนนี้แล้วคงไปทำงานไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว แล้วเราก็จะอยู่อย่างมีความสุขในชีวิตบั้นปลาย ทำอะไรก็ได้ที่เราเห็นว่ามีความสุข ไม่เดือดร้อนสำหรับตนเองทั้งเรื่องเงินทองและความสุขของตนเองและที่สำคัญไม่เบียดเบียนคนอื่น

อุดม ปิตาทานัง