ปัญหาเกษตร : การปลูกปอเทือง เพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด

ปัญหาเกษตร : การปลูกปอเทือง เพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด

วันพฤหัสบดี ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557, 06.00 น.
Tag :

คำถาม ผมสนใจปลูกปอเทือง เห็นที่เขาปลูก
เป็นทุ่ง เวลาออกดอกเหลืองสวยงามมาก ทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ด้วย อยากขอความรู้วิธีปลูกและการนำไปใช้ประโยชน์นะครับ

 


คำตอบ ปอเทือง เป็นพืชตระกูลถั่วชนิดหนึ่งขึ้นได้ดีทั้งบนที่ดอน และในที่ลุ่มที่ไม่มีน้ำแช่ขัง ปอเทืองทนต่อความแห้งแล้ง ขึ้นได้ในดินเลว ปอเทืองสามารถสร้างธาตุอาหารขึ้นเองได้โดยเฉพาะไนโตรเจน จึงสามารถปลูกเป็นพืชเพื่อผลิตเมล็ด
พันธุ์พืชปุ๋ยสดเกษตรอินทรีย์ ไม่ใช้สารพิษ ปลอดภัยต่อชีวิต เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

การปลูกปอเทือง กรมพัฒนาที่ได้ให้คำแนะนำ 3 วิธี คือ

1.การปลูกแบบหว่าน ใช้เมล็ดพันธุ์ปอเทือง 5 กก.ต่อไร่ คลุกเชื้อไรโซเบียมหว่านให้ทั่วแปลง หลังจากนั้นหว่านปุ๋ยเคมีสูตร
15-15-15 หรือสูตร 12-24-12 จำนวน 10 กก.ต่อไร่ โดยหว่านให้สม่ำเสมอทั่วแปลงแล้วคราดกลบ

2.การปลูกแบบหยอดเป็นหลุมเป็นแถว ใช้เมล็ดพันธุ์ปอเทือง 3-5 กก.ต่อไร่ คลุกเชื้อ ไรโซเบียม ระยะปลูกประมาณ 80x50 ซม. (ระยะระหว่างแถว 80 ซม. ระหว่างต้นประมาณ 50 ซม.)โดยหยอดเป็นหลุมๆ ละ 5-7 เมล็ด ใส่ปุ๋ยเคมีแบบวิธีหว่าน

3.การปลูกแบบโดยวิธีการโรยเป็นแถวใช้เมล็ดพันธุ์ปอเทือง 3-5 กก./ไร่ คลุกเชื้อไรโซเบียมโรยเมล็ดเป็นแถว ระยะห่างระหว่างแถว 75-100 เซนติเมตร ใส่ปุ๋ยเคมีแบบวิธีหว่าน

การกำจัดวัชพืช และการถอนแยก หลังจากปลูกปอเทืองได้ประมาณ 1 เดือน ควรกำจัดวัชพืช ถอนแยกต้น โดยหนึ่งหลุมให้เหลือปอเทือง 1-2 ต้นต่อหลุม

การใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 12-24-12 อัตรา 20 กก.ต่อไร่ โรยรอบโคนต้น ให้ห่างจากโคนต้นพอประมาณ แล้วจึงพูนโคนกลบปุ๋ย

การเตรียมดิน ไถเตรียมดินครั้งแรก แล้วตากทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน เพื่อให้วัชพืชแห้งตาย และยังเป็นการกำจัดโรคแมลงต่างๆ ที่เป็นศัตรูพืช หลังจากนั้นทำการไถพรวน ครั้งที่ 2

การกำจัดโรคและแมลง พื้นที่ที่ไม่เคยปลูกปอเทืองมาก่อน มักจะไม่มีปัญหา เรื่องโรคแมลงศัตรูพืช ในระยะติดฝักอ่อน และระยะที่ฝนทิ้งช่วง ต้องหมั่นตรวจดูแปลงขยายพันธุ์ เพราะมักจะมีแมลงประเภทปากดูด เช่น เพลี้ยอ่อน แมลงหวี่ขาว ระบาด ให้พ่นสารเคมีประเภทดูดซึมผสมน้ำยาจับใบ เช่น อะโซดริน เซฟวิน เป็นต้น

เมื่อปอเทืองติดฝัก จะมีหนอนแมลงเจาะทำลายฝัก โดยให้พ่นสารเคมีประเภทถูกตัวตาย ผสมน้ำยาจับใบ เช่น ซูมินิคริม เป็นต้น

โรคและแมลง โรคที่สำคัญของปอเทืองอีกอย่างหนึ่ง คือ โรคโมเซค หรือชาวบ้านเรียกว่า โรคใบกระถิน ต้นและใบจะมีสีขาวอมเขียวนวล ใบหงิกงอ ไม่ออกดอก สามารถระบาดไปยังต้นอื่นได้ ให้รีบถอน และเผาทิ้งทันที

การเก็บเกี่ยว ปอเทืองมีอายุประมาณ 120-150 วัน ในช่วงแรกจะเก็บเกี่ยวเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ในช่วงที่ 2 จะเก็บเกี่ยวเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ต้นและฝักปอเทืองจะทยอยแห้ง ฝักที่แก่จัดจะเปลี่ยนจากสีเขียวอ่อนเป็นสีน้ำตาลอ่อน ถ้าเขย่าต้นจะมีเสียงดัง เมล็ดทั้งหมดจะนอนอยู่ที่ก้นฝัก มีจำนวนเมล็ดตั้งแต่ 5-10 เมล็ดต่อฝัก เมื่อแกะฝักเมล็ดที่มีคุณภาพดีจะมีสีม่วงปนดำ ผิวเป็นมันฝักของเมล็ดปอเทืองเมื่อแก่เต็มที่ จะไม่แตกและไม่ร่วงหล่นจากต้น การเก็บเกี่ยวจะเก็บเกี่ยวเพียงครั้งเดียว โดยใช้เคียวเกี่ยวโคนต้น ตากแดดทิ้งไว้ 3-4 แดด แล้วนำมานวด

การนวด อาจทำได้หลายวิธี เช่น ใช้รถยนต์เหยียบย่ำ หรือนำฝักบรรจุถุง แล้วใช้ไม้ทุบให้ฝักแตก จากนั้นคัดเอาสิ่งเจือปนและเมล็ดลีบออก แล้วบรรจุกระสอบ การฝัดและบรรจุกระสอบ หลังจากทำการนวดเสร็จ ทำความสะอาดเมล็ดพันธุ์ เพื่อเอาสิ่งเจือปนออก โดยใช้ลมเป่าหรือใช้เครื่องสีฝัด เมื่อเอาสิ่งเจือปนและเมล็ดลีบออกแล้วบรรจุกระสอบ

ที่สำคัญ จะต้องปลูกตามฤดูกาลที่เหมาะสม ฤดูกาลปลูกที่เหมาะสม ที่จะปลูกปอเทืองปลูกได้ 2 ช่วง คือ ช่วงแรกเริ่มปลูกตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม จนถึงปลายเดือนสิงหาคม และช่วงที่ 2 ปลูกหลังฤดูทำนาประมาณเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน

นาย รัตวิ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top