10 พ.ย. 57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายทิโมธี จอห์น วาร์ด อายุ 49 ปี ชาวออสเตรเลีย เดินเข้ามาโวยวายร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ว่าเงินจำนวน 1 ล้านบาท และทองคำ 1 กิโลกรัมหายไป พร้อมกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจพัทยาว่าทำตัวเป็นมาเฟีย และลงมือทำร้ายนักข่าวท้องถิ่นจนได้รับบาดเจ็บ

โดยนายวาร์ด เดินเข้ามายังโรงพักด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว และด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างรุนแรง โดยมีเพื่อนชาวต่างชาติ 2 คน บันทึกภาพเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้พยายามเกลี้ยกล่อมนายวาร์ด แต่ก็ไม่สำเร็จ จนเหตุการณ์ผ่านไปสักระยะหนึ่งนายวาร์ด จึงเดินทางกลับท่ามกลางความงุนงงของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์

ทั้งนี้เมื่อเรื่องดังกล่าวผู้แชร์ไปในโลกโซเชียล ก็ต่างมีผู้เข้ามาเปิดเผยประวัติของนายทิโมธี จอห์น วาร์ด โดยสมาชิกแฟนเพจ "Drama-addict" เรียกนายวาร์ด ว่า "ลุงทิม" พร้อมระบุว่า เป็นชาวออสเตรเลีย ที่เดินทางมาอาศัยอยู่ในประเทศไทย และชื่นชอบเมืองพัทยาเป็นอย่างมาก

โดยลุงทิม มักมีพฤติกรรมชอบซื้อบริการหญิงสาวในเมืองพัทยา แล้วพาขึ้นมาบนคอนโด โดยจะถ่ายรูปคู่กับบรรดาหญิงสาว แล้วมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ทั้งนี้ ยังมีหลายความเห็นระบุว่า โดนพื้นฐานแล้วลุงทิม เป็นคนใจดีและใจบุญ เนื่องจากเขามักจะพาคนพิการ และเด็ก เข้าไปรับประทานอาหารในร้านอาหารหรู และยังชอบช่วยเหลือสุนัขจรจัดอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีผู้ออกมาระบุอีกว่าที่ ลุงทิม ต้องมาอยู่ประเทศไทย เนื่องจากโดยหมายหัวจากตำรวจออสเตรเลีย เกี่ยวกับเรื่องทรัพย์สิน เพราะลุงทิมนั้นมีธุรกิจปล่อยเงินกู้นอกระบบ และยังมีเรื่องพัวพันกับมาเฟียและพ่อค้ายาเสพติด จึงทำให้เขาร่ำรวยมหาศาล แต่ไม่สามารถอยู่ประเทศบ้านเกิดได้

ทั้งนี้ ลุงทิม ได้โพสต์คำชี้แจงและคลิปจากกล้องวงจรปิดในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยบุกมายังคอนโด โดยไม่มีหมายค้น และยัดข้อหายาเสพติดให้ ซึ่งเขาถูกกั้กตัวไว้นาน 2 ชั่วโมง ก่อนจะถูกปล่อยกลับบ้าน แต่ปรากฎว่าเงินและทองคำของเขากลับหายไป