9 ม.ค. 58 สืบเนื่องจากกรณีที่แนวหน้าออนไลน์นำเสนอข่าว “ช็อค!!สาวโวยโรงพยาบาลชื่อดัง ก้างปลาติดคอฟันค่ารักษา6หมื่น” ลิงค์ข่าว http://www.naewna.com/local/138025 ล่าสุดทางโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน ได้ส่งหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นต่อสื่อมวลชน

ระบุข้อความดังนี้

เรื่องดังกล่าว ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม 2558 จนถึงวันที่ 5 มกราคม 2558 ทำให้เกิดความเสื่อมเสียด้านจรรยาบรรณการรักษาของสถานพยาบาลเป็นอย่างมาก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน และแพทย์เจ้าของไข้พร้อมที่จะให้คำชี้แจงในกระบวนการรักษา พร้อมดำเนินการส่งหนังสือชี้แจงการรักษาคนไข้ ยังสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ ดังรายละเอียดต่อไปนี้

นางง้อ แซ่ตั้ง อายุ 69 ปี มีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ผู้ป่วยรับประทานยาละลายลิ่มเลือดหรือต้านเกร็ดเลือด (Aspirin) ซึ่งอาจจะทำให้เลือดออกง่ายหากต้องทำหัตถการ ผู้ป่วยมีประวัติ หลังกินปลาช่อนตัวใหญ่ มีอาการเจ็บคอมาก กลืนติด ได้ไปพบแพทย์ที่คลินิกแล้ว แพทย์ได้ตรวจที่คอแต่มองไม่เห็นก้างปลา จึงแนะนำให้มาโรงพยาบาล ผู้ป่วยมาพบแพทย์ที่ รพ.เปาโล เมโมเรียล พหลโยธิน  ได้พบแพทย์เฉพาะทาง (ENT) ที่มาออกตรวจเป็น Part Time แพทย์ได้ทำการตรวจและสงสัยว่า ก้างปลาไม่ได้ติดที่คอ น่าจะติดลงไปที่หลอดอาหาร จึงปรึกษาแพทย์ ENT Full Time ร่วมรักษา

หลังตรวจประเมินพบไม่พบก้างปลาที่คอ จึงใช้เครื่องมือพิเศษส่องดูพบว่าก้างปลาอยู่ลึกลงไปเกินศักยภาพของเครื่องมือที่ห้องตรวจผู้ป่วยนอกจะเอาออกได้ จึงได้อธิบายกับผู้ป่วยและญาติว่า ควรทำการส่องกล้องในห้องผ่าตัด เพราะก้างมีขนาดใหญ่แหลมคม ติดอยู่ที่หลอดอาหารลึก จาก Chest Film พบอยู่ระดับ C6 ไม่สามารถคีบก้างปลาออกด้วยวิธีปกติ (หากไม่นำสิ่งแปลกปลอมออก ก้างปลาอาจทะลุออกนอกหลอดอาหารทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมา เช่น หลอดอาหารทะลุ ติดเชื้อในทรวงอก)

เนื่องจากผู้ป่วยมีโรคประจำตัวความดันโลหิตสูงที่คุมไม่ดี และ กินยาต้านเกร็ดเลือดซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อการทำหัตถการที่อาจทำให้เลือดออกมากได้ จึงปรึกษาอายุรแพทย์ประเมินความเสี่ยงก่อนผ่าตัด (Pre med-CBC, Electrolyte, Creatinine, EGFR, Glucose) อายุรแพทย์เห็นสมควรปรึกษาอายุรแพทย์หัวใจ ได้ทำการตรวจอย่างละเอียดผล EKG , Echo พบว่ามีความเสี่ยงแต่สามารถทำหัตถการได้

ภายในห้องผ่าตัดผู้ป่วยได้รับการดมยาสลบและทำการส่องกล้องที่หลอดอาหาร โดยพบก้างปลาขนาดใหญ่และคมมากอยู่ภายในหลอดอาหารที่บวมและมีเลือดซึมรอบๆ เนื่องจากผู้ป่วยกินยาละลายลิ่มเลือด ทำให้ยากในการนำสิ่งแปลกปลอมออกอย่างปลอดภัย จึง ได้ปรึกษาทีมแพทย์มาช่วยกันนำสิ่งแปลกปลอมออก ทีมแพทย์ประสบความสำเร็จในการนำสิ่งแปลกปลอม เวลาทำหัตถการรวม 2 ชั่วโมง แต่เนื่องจากหลอดอาหารบวมและมีจุดเลือดออกอยู่ก่อนแล้ว เมื่อนำก้างปลาออกได้ จึงจำเป็นต้องให้ผู้ป่วยงดอาหารสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดและให้ยาปฎิชีวนะ (Augmentin) ยาลดบวม (Serratiopeptidase) และยาห้ามเลือดทางหลอดเลือด (Transamin) แก่ผู้ป่วย โดยได้แจ้งผู้ป่วยและสามีผู้ป่วยถึงเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างละเอียด   

ค่าแพทย์ ENT ค่าแพทย์ทำหัตถการ คิด 7,000 บาท (ICD9 439-11-00) 90 percentile เท่ากับ 8,000 บาท ค่าศัลยแพทย์ผู้ช่วยผ่าตัด คิด 3,000 บาท

วันต่อมาอาการของผู้ป่วยดีขึ้น แพทย์ได้ตรวจติดตามและประเมินผลการรักษาพบว่าอาการดีขึ้นไม่มีภาวะแทรกซ้อน จึงเริ่มให้ผู้ป่วยกินอาหารเหลวใสในมื้อเช้า และเริ่มอาหารอ่อนในมื้อเที่ยง พบว่าสามารถกินได้ดีไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆจึงอนุญาติให้ผู้ป่วยกลับบ้านและให้ยาไปรับประทานต่อที่บ้าน

ในเรื่องการประเมินค่าใช้จ่ายเป็นไปตามอัตราแพทยสภากำหนด เนื่องจากความซับซ้อนของโรค ทำให้ค่าใช้จ่ายคลาดเคลื่อนไปจากการประเมินในครั้ง โดยมีการแจ้งผู้ป่วยรับทราบ