จากข่าวพัวพันสู่การตัดสินใจยุติเส้นทางสมณเพศ "พระราชรัตนสุธี" อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ผู้ทรงภูมิความรู้และบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนกิจการคณะสงฆ์ ได้ลาสิกขาแล้วเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ ท่ามกลางความสนใจของสาธารณชนและคณะศิษยานุศิษย์

วันที่ 16 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้ติดตามความคืบหน้ากรณีพระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีข่าวปรากฏว่าพัวพันกับ "สีกากอล์ฟ" และมีกระแสข่าวลือว่าจะลาสิกขาในวันนี้ ส่งผลให้มีการเฝ้าจับตาตามวัดสำคัญต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก อาทิ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร (วัดใหญ่) และวัดโพธิญาณ ซึ่งที่วัดใหญ่มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบและเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

กระทั่งเวลาประมาณ 12.00 น. มีรายงานยืนยันว่า อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้เข้าพิธีลาสิกขาแล้ว และปรากฏตัวในชุดฆราวาสสีขาว ซึ่งคาดว่าพิธีดังกล่าวจัดขึ้นที่วัดสว่างอารมณ์ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก

สำหรับ พระราชรัตนสุธี เดิมมีนามว่า "ขวัญรัก" และได้รับฉายาทางธรรมว่า "มหาวายาโม" ท่านเกิดเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514 ปัจจุบันอายุ 54 ปี ท่านถือเป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่รูปหนึ่งของจังหวัดพิษณุโลกที่ได้รับความเคารพอย่างสูง มีบทบาทสำคัญและคุณูปการในการขับเคลื่อนงานคณะสงฆ์ให้เจริญรุ่งเรืองมาโดยตลอด

ประวัติการศึกษา อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกสอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก และในปี พ.ศ. 2537 สามารถสอบได้ เปรียญธรรม 9 ประโยค ซึ่งเป็นการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีขั้นสูงสุดของคณะสงฆ์ไทย นอกจากนี้ ยังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท 2 ใบ ได้แก่ รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (รป.ม.) ในปี พ.ศ. 2546 และศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ศศ.ม.) ในปี พ.ศ. 2547 ก่อนจะสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ปร.ด.) ปัจจุบันท่านยังเคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์พุทธชินราช มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ตำแหน่งทางปกครอง (ในอดีต)

พ.ศ. 2545 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก

พ.ศ. 2549 รองเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก

พ.ศ. 2560 ผู้รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก

พ.ศ. 2561 เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก

ลำดับสมณศักดิ์ (ในอดีต)

พ.ศ. 2537 เปรียญธรรม 9 ประโยค

5 ธันวาคม 2551 พระราชาคณะชั้นสามัญเปรียญ ที่ พระศรีรัตนมุนี

28 กรกฎาคม 2562 พระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชรัตนสุธี ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี

รางวัลเกียรติยศ (ในอดีต)

3 ธันวาคม 2566 เข้ารับพระราชทานรางวัล "เสมาธรรมจักร" ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา ประเภทส่งเสริมกิจการคณะสงฆ์