คณะสงฆ์จังหวัดพิษณุโลกจัดพิธีสามีจิกรรมเนื่องในวันเข้าพรรษาอย่างพร้อมเพรียง ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร โดยมีเจ้าอาวาสวัดใหญ่เป็นประธาน ทว่ากลับไร้เงาพระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ด้านผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเผย ยังไม่ทราบสถานะการลาสิกขาที่ชัดเจนของท่าน
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 กรกฎาคม 25689 ที่ศาลาชินราชธำรงวิศิษฏ์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร (วัดใหญ่) อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก คณะสงฆ์จังหวัดพิษณุโลกได้ประกอบพิธีสามีจิกรรมเนื่องในวันเข้าพรรษา โดยมี พระเทพรัตนมุนี เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร เป็นประธานในพิธี
พิธีดังกล่าวมีคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ ทั้งรองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รวมถึงเจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ มาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก ทว่ากลับไม่ปรากฏเงาของ พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ที่ยังคงเก็บตัวเงียบและไร้ความชัดเจนเกี่ยวกับสถานะการลาสิกขา หลังจากมีกระแสข่าวที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอก
นางสุวลักษณ์ มูลหล้า ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า พิธีสามีจิกรรมที่จัดขึ้นในวันนี้เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคณะสงฆ์จังหวัดพิษณุโลกในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา ซึ่งเป็นการขอขมาซึ่งกันและกันของพระสงฆ์ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี สำหรับบรรยากาศในวันนี้ พระราชรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ไม่ได้เข้าร่วมพิธีแต่อย่างใด โดยมีพระสังฆาธิการทุกระดับของจังหวัดพิษณุโลกเข้าร่วมพิธีเพื่อขอขมาซึ่งกันและกันอย่างครบถ้วน
ในส่วนของกรณีที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปป.) อาจเกี่ยวข้องนั้น นางสุวลักษณ์กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการติดต่อขอข้อมูลจากสำนักงาน ปปป. เข้ามาแต่อย่างใด สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ ได้มีการประสานงานกับเลขานุการเจ้าคณะจังหวัด และเจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร ซึ่งเป็นวัดที่ท่านเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกสังกัดอยู่ เพื่อสอบถามว่ามีการติดต่อกลับมาจากพระราชรัตนสุธีบ้างหรือไม่ แต่ก็ยังคงได้รับคำตอบเช่นเดิม คือยังไม่มีการติดต่อใด ๆ ทั้งสิ้นจากท่าน
สำหรับความชัดเจนเรื่องการลาสิกขาอย่างที่เป็นข่าวในขณะนี้ นางสุวลักษณ์กล่าวว่า ทางสำนักงานฯ ยังไม่ทราบสถานะของท่านว่าได้ลาสิกขาแล้วหรือยัง เนื่องจากกระบวนการลาสิกขาที่ถูกต้องและชัดเจนนั้น จะต้องมีภาพถ่ายหรือเอกสารที่เป็นหนังสือแจ้งเข้ามายังทุกสังกัดว่าท่านได้ลาสิกขาเรียบร้อยแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานหรือหนังสือดังกล่าวเข้ามาที่สำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ในส่วนของเจ้าคณะภาคฯ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการแต่งตั้งถอดถอนเจ้าคณะจังหวัดนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการประสานงานใด ๆ อาจจะอยู่ในระหว่างกระบวนการรวบรวมข้อเท็จจริงต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ในกระบวนการทางคณะสงฆ์ต่อไป
เกี่ยวกับตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกนั้น เนื่องจากสถานะการลาสิกขายังไม่ชัดเจน ทางคณะสงฆ์จึงต้องดำเนินการกิจการของคณะสงฆ์ตามลำดับชั้น โดยยังไม่มีการก้าวก่ายในเรื่องตำแหน่งของท่านเจ้าคณะจังหวัด โดยหน้าที่ในปัจจุบันให้รองเจ้าคณะจังหวัดดูแลงานด้านนี้แทนไปก่อน
อนึ่ง การทำสามีจิกรรม เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของพระภิกษุสามเณรเพื่อสร้างความสามัคคีและอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข โดยหมายถึงการขอขมาโทษและให้อภัยซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะมีข้อขัดข้องหมองใจกันหรือไม่ก็ตาม โอกาสที่ควรทำสามีจิกรรม ได้แก่ วันวันเข้าพรรษา: ภิกษุสามเณรที่อยู่ร่วมวัดเดียวกันควรกระทำต่อกันเรียงรูป ตั้งแต่ผู้มีอาวุโสมากที่สุดถึงสามเณรรูปสุดท้ายในวัด เพื่อความสามัคคี, ในระยะเข้าพรรษา: ประมาณ 7 วัน นับจากวันเข้าพรรษา ควรทำสามีจิกรรมต่อท่านที่ตนนับถือซึ่งอยู่ต่างวัด, ในโอกาสจะจากกันไปอยู่วัดอื่นหรือถิ่นอื่น: นิยมทำต่อท่านผู้มีอาวุโสกว่าตนในวัดและต่อท่านที่เคารพนับถือทั่วไป,
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี