nn มีชาวบ้านร้องเรียน สะพานลอยหน้าโรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์ ปากซอยลาดพร้าว 48 เขตห้วยขวาง ปัจจุบันมีสภาพมืดมาก เกิดจี้ปล้นกันบ่อยครั้ง ตีนสะพานลอยฝั่งตรงข้ามโรงเรียนเองกลางวันยังเป็นมุมอับ กลางคืนไร้แสงไฟเข้าไปอีก ยิ่งเป็นการส่งเสริมมิจฉาชีพให้ทำมาหากินสะดวกเข้าไปใหญ่ เป็นที่หวาดผวาของผู้คนที่ต้องใช้เส้นทางประจำ ยิ่งมีข่าวโจรฟันคนที่เดินอยู่ดีๆ เพื่อชิงโทรศัพท์ไอโฟน ยิ่งทำให้หวั่นวิตกในความไม่ปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ชาวบ้านฝากให้กทม.เข้ามาสำรวจ และแก้ไขให้ด้วย เพื่อความปลอดภัยของประชาชน โดยเฉพาะสุภาพสตรี และเด็กนักเรียนที่บางครั้งจำเป็นต้องกลับบ้านมืดค่ำ จะเป็นพระคุณเหลือล้น...

nn เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตต่างๆ ยังระส่ำระสาย กรณีปลัดกทม.มีคำสั่งให้สำรวจข้อมูล ที่พักอาศัยของข้าราชการชั้นผู้น้อย (ต่ำกว่าระดับหัวหน้าฝ่ายลงมา) ด้วยเกรงว่า จะมีการโยกย้าย ทำให้หลายคนตกอกตกใจ เพราะไม่อยากเดินทางไปทำงานไกลบ้าน หลายคนมีภาระต้องเลี้ยงดูพ่อ-แม่ที่แก่เฒ่า ดูแลลูกที่ยังเล็ก จริงอยู่การแต่งตั้งโยกย้ายเป็นระเบียบปฏิบัติของผู้ที่เป็นข้าราชการ ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด แต่การถูกปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตสมควรต้องอยู่บนเหตุผลที่รับฟังได้ด้วยเช่นกัน...

nn ข้อคิดสำคัญประการหนึ่งที่เจ้าหน้าที่เขตบอกกับ “มันแกว” คือ เรื่องการทำงานจะต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน เช่น ฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล ที่กว่าจะใช้เวลาคบหาดูใจกับบรรดาสถานประกอบการในพื้นที่ ต้องใช้เวลานานพอสมควร ไม่ใช่ว่าจะเข้าที่เข้าทางได้ง่ายๆ เสียเมื่อไหร่ หรือฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม เจ้าหน้าที่ก็ต้องใช้เวลาพบปะทำความสนิทสนมคุ้นเคยออกเดทกับประธานชุมชน หรือชาวบ้าน จึงจะได้รับความร่วมมือในการทำโครงการต่างๆ ของเขต ซึ่งเมื่อได้รับความร่วมมือก็เท่ากับนโยบายของผู้บริหารกทม.บรรลุเป้าหมาย...

nn การทำงานต้องทำอย่างมีความสุขสบายใจไม่กังวลเรื่องเดินทาง (ทุกวันนี้หลายคนยอมอุทิศตนจริงๆ อยู่ทำงานจนดึกดื่นแต่ก็ไม่กังวล เพราะบ้านอยู่ใกล้เขต เดินทางกลับสะดวก) ซึ่งบางคนมองการณ์ออก ถ้าถูกโยกย้ายไปไกลๆ ก็ต้องไปเช่าบ้าน เสียค่าใช้จ่าย ค่ากินอยู่ ค่าอะไรต่อมิอะไรอีกจิปาถะ อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่มองตรงจุดนี้ด้วย อย่าหน้ามืดแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นแต่เพียงอย่างเดียว ข้าราชการชั้นผู้น้อยเหล่านี้เขาไม่ได้มีประโยชน์ให้กับใครทั้งสิ้น ให้คุณให้โทษกับใครก็ไม่ได้ เรื่องนี้จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่งั้นองค์กรกทม.สั่นคลอนแน่ และท้ายที่สุด คนที่ได้รับผลกระทบนอกจากเป็นข้าราชการตัวน้อยๆ แล้ว ประชาชนอย่างเราท่านนี่แหละที่จะเจอแจ๊กพอตไปเต็มๆ เพราะหากข้าราชการจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขาดขวัญกำลังใจในจการทำงานแล้ว ย่อมทำให้งานและการให้บริการต่างๆ ประสิทธิภาพย่ำแย่ลงด้วย...nn

มันแกว