เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (รรท.ผบช.ก.) สั่งการให้ พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป. นำกำลังเข้าประสานงานกับ พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช ผบก.สส.ภ.จว.นครศรีฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม และบช.ก.รวม 200นาย ร่วมกับตำรวจภูธรภาค8 อีก 100นาย พร้อมด้วยหน่วยปฏิบัติการพิเศษคอมมานโด กองปราบปรามติดอาวุธหนักครบมือ เฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 ลำ นำโดย พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รรท.ผกก.ปพ.บก.ป.เข้าตรวจค้นเป้าหมายซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่รวมทั้งสิ้น 16จุด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในพื้นที่ จ.นครศรีฯ เกิดคดีอุจฉกรรจ์ขึ้นบ่อยครั้ง โดยมีสาเหตุมาจากการขัดผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มผู้มีอิทธิพลจำนวน 2 กลุ่ม ซึ่งล่าสุดได้เกิดเหตุสังหารโหด 4ศพ แต่ต่อมาตำรวจกองปราบฯ สามารถจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้
จากการตรวจค้นครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญประกอบด้วย 1.บ้านพักของ นายสมบูรณ์ ชุมทอง หรือกำนันบูรณ์ บ้านเลขที่40 ต.ขอนหาด อ.ชะอวด 2.นายคนึง อินทร์คีรี หรือกำนันคนึง บ้านเลขที่ 21 ต.แก้วแสน อ.นาบอน 3.นายป้อม หรือขวัญชัย รอดมณี ลูกชายของ นายเยื้อน รอดมณี หรือ สจ.เยื้อน ผู้มีอิทธิพลชื่อดังซึ่งกำลังหนีหมายจับของศาลหลังถูกตัดสินจำคุก 1 ปี 8 เดือน ในคดีอาวุธปืน โดยเข้าค้นที่บ้านเลขที่ 42 ต.บ้านเพิง อ.ปากพนัง 4.นายยุทธนา หรือปาน รอดมณี ที่อยู่เดียวกันกับ นายขวัญชัย 5.นายสหัส สุวรรณมณี หรือ สจ.ดิก บ้านเลขที่232 ต.นากะชะ อ.ฉวาง 6.นายเจริญ หรือยาว ชินวงศ์ หรือกำนันยาว บ้านเลขที่81 ต.ปากแพรก อ.ปากพนัง ซึ่งเป็นคู่ขัดแย้งกับ สจ.เยื้อน และ7.นายอิทธิชัย หรือเล็ก รอดมณี บ้านเลขที่25 ต.ท่าพยา อ.ปากพนัง
ผลการตรวจค้นผู้ต้องสงสัยแต่ละรายให้ความร่วมมือกันอย่างดี ไม่มีการต่อสู้ขัดขืน และสามารถยึดอาวุธปืนได้จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นปืนพก ปืนกลมือ ปืนลูกซอง มีทั้งมีทะเบียน และไม่มีทะเบียน จึงได้อายัดอาวุธทั้งหมดมาตรวจสอบและทำประวัติไว้ ส่วนใครที่พบว่ามีความผิดก็ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องสงสัยแต่ละคนยังไม่พบว่ามีหมายจับ แต่หากตรวจสอบพบว่า ปืนที่ครอบครองผิดกฎหมายก็จะเรียกตัวมาดำเนินคดีต่อไป นอกจากนี้ยังได้บอกกับ นายขวัญชัย ลูกชายของ สจ.เยื้อน ให้นำพ่อที่กำลังหลบหนีคดีมามอบตัวภายในสองสัปดาห์ หากยังไม่มามอบตัวกองปราบฯจะกดดันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจาก สจ.เยื้อน ต้องสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังคดีที่เกิดขึ้นในพื้นที่หลายคดี เป็นนโยบายของรัฐบาลและพล.ต.ต.ฐิติราช รรท.ผบช.ก. ที่ต้องการให้ปราบปรามผู้มีอิทธิพล ต่อไปนี้หากเสียงปืนดังขึ้นที่ไหน กองปราบฯ จะลงพื้นที่ไปกดดันทันที”
ด้าน พล.ต.ต.ปวีน พงศ์สิรินทร์ รอง ผบช.ภ.8 กล่าวว่า ปฎิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สั่งการให้ดำเนินการ เนื่องจาก จ.นครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่ที่มีการใช้อาวุธสงครามในการก่อเหตุอาชญากรรม และมีสถิติคดีฆาตกรรมสูงมาก จึงได้สนธิกำลังหลายส่วนทั้งตำรวจและทหารจู่โจมตรวจค้นบ้านเป้าหมาย จนยึดอาวุธปืนได้จำนวนมากดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี