18 มี.ค.58 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5 บก.ป. , พ.ต.ท.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล สว.กก.5 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายชลิต บุญสา หรือเสี่ยหมง อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 1 ต.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน ตามหมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุย ที่ 33/2558 ลงวันที่ 17 มี.ค.58 ข้อหาร่วมกันใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานร่วมกันฆ่า และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และสมุดบันทึก 2 เล่ม จับกุมได้ที่หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศน์ เขตพระนคร กทม.

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายคนร้ายลอบยิง นายพนัส เค้าอุทัย หรือโกแท็ก อายุ 49 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ในเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ คือ นายชัยกมล เครืองภักดี อายุ 36 ปี และนายสุนทร ชุณสาย อายุ 38 ปี เหตุเกิดที่บริเวณร้านการ์มาสุททา ตลาดขายสินค้าถนนคนเดิน หมู่ 1 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ต่อมาตำรวจ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายไว้ได้ 2 ราย เจ้าหน้าที่จึงเร่งสืบสวนขยายผล

อย่างไรก็ดี หลังจากชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด ได้เร่งสืบสวนสอบสวน กระทั่งทราบว่าผู้ที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ ประกอบด้วย นายชลิต บุญสา อายุ 57 ปี , นายไฉน สุขสม อายุ 50 ปี ผู้ใช้จ้างวาน , นายชยุตม์ แก้วอร่าม หรือตอย มือปืน , นายสุวิทย์ ทองสุก หรืออู๊ด , นายตุ๊ก ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล และนายสามารถ บุญสิน หรือแดง ฉ.โดยเจ้าหน้าที่เชื่อว่าสาเหตุน่าเกิดจากปัญหาขัดแย้งเรื่องวินแท็กซี่บริเวณห้างเซ็นทรัล เกาะสมุย ระหว่างผู้เสียชีวิตกับนายชลิต จึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ

ต่อมาชุดสืบสวน กก.5 บก.ป.สืบทราบว่า นายชลิตหลบหนีคดีมาพักอยู่ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ จึงวางแผนเข้าจับกุมตัวไว้ได้ จากการสอบสวนเบื้องต้น นายชลิตให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่ารู้จักกับผู้เสียชีวิตเนื่องจากเคยเล่นการพนันด้วยกัน และไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งใดๆ โดยเรื่องสัมปทานการวิ่งบริการรถแท็กซี่ที่ห้างดังกล่าว เป็นของพี่ชายตนที่ได้ทำข้อตกลงกับทางห้างที่มาซื้อที่ของพี่ชาย โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องให้ตนได้รับสัมปทานเดินรถแท็กซี่บริการลูกค้า

นายชลิต ให้การอีกว่า สำหรับกรณีของความขัดแย้งเกี่ยวกับการจัดถนนคนเดิน ตนก็ไม่ทราบเรื่องด้วย เพราะเป็นหน้าที่ของกรรมการหมู่บ้านที่จะเป็นผู้ดูแลจัดการเกี่ยวกับการทำตลาด ซึ่งไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตไปมีความขัดแย้งผู้ใดหรือไม่ ส่วน นายสามารถ หรือแดง ฉ.ผู้ต้องหาในคดี ยอมรับว่ารู้จักกัน เนื่องจากเป็นเพื่อนนักเรียนรุ่นเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุยิงผู้เสียชีวิตในครั้งนี้ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจากตามแนวทางการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหายังมีธุรกิจค้าวัสดุก่อสร้าง ห้องแถวให้เช่าที่เกาะสมุย รวมทั้งธุรกิจอีกหลายอย่างที่อาจมีปัญหาขัดแย้งกับผู้เสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด รับไว้ดำเนินคดีต่อไป