ปปง.สั่งยึด-อายัดทรัพย์

‘ศุภชัย’กับพวก7พันล้าน

ยักยอกจากเครดิตยูเนี่ยน

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการปปง.แถลงความคืบหน้าการดำเนินคดี นายศุภชัย ศรีศุภอักษรอดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่นจำกัด กับพวก สืบเนื่องจาก นายศุภชัย นำเงินที่ได้จากการยักยอกทรัพย์ของสหกรณ์ฯไปซื้อทรัพย์สินต่างๆโดยใส่ชื่อตนเองเป็นผู้ครอบครองทรัพย์สิน เพื่อเจตนาซุกซ่อนปกปิดเเหล่งที่มาทรัพย์สิน

โดย พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมจากรายงานธุรกรรมทางการเงินของนายศุภชัย พบว่านายสถาพร วัฒนาศิริกุล, นางรินนา วัฒนาศิริกุล, นายกิตติธัช วัฒนาศิริกุล ,นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์, น.ส.อิสรา นวอิสรารักษ์ ,นายอภิชัย ศรีม่วงงามและนายธวัช ฮ่วนสกุล ทั้งหมดเป็นผู้เกี่ยวข้องกับ นายศุภชัย โดยเป็นบุคคลที่ได้รับโอนเงินและทรัพย์สินต่างๆโดยปรากฎพยานหลักฐานพบทรัพย์ที่ ปปง. ยึดเพิ่มเติมได้ 192 รายการ อาทิ หุ้นในบริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้งกรุ๊ป(ประเทศไทย)จำกัด , บริษัท เอส.ดับบลิว.ภูเก็ต กรุ๊ป(ประเทศไทย)จำกัด และ บริษัท เอส.ดับบลิว.ลันตากรุ๊ป(ประเทศไทย) จำนวน 11รายการ เป็นเงินกว่า 6,600 ล้านบาท,ที่ดินตามโฉนดที่ดิน 24รายการ,ทองรูปพรรณ พระเครื่อง รถยนต์ที่นั่งส่วนบุคคล อาวุธปืน และวัตถุมงคล

“คณะกรรมการธุรกรรม พิจารณาแล้วมีมติให้ยึด อายัดทรัพย์ที่เกี่ยวกับการกระทำผิดไว้ชั่วคราว(เพิ่มเติม) รวม 192 รายการ พร้อมดอกผล รวมมูลค่าครั้งนี้ ประมาณ 7,000ล้านบาท และหากรวมกับก่อนหน้านี้ ก็สามารถยึดอายัดได้แล้วกว่า 10,000ล้านบาท”

พ.ต.อ.สีหนาท ยังกล่าวยืนยันว่า ปปง.ไม่ได้หยุด หรือ ล่าช้าในการทำคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น แต่ที่ไม่สามารถเป็นข่าวได้ทุกวัน เนื่องจากต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินให้ชัดเจน เมื่อตรวจสอบชัดเจนแล้วจึงจะแถลงได้ โดยคดีนี้ ปปง.เดินหน้าทำงานร่วมกับดีเอสไออย่างใกล้ชิด

“แม้ล่าสุดทางวัดพระธรรมกายได้นำเงินมาคืนสหกรณ์ฯแล้วแต่ในเรื่องคดี การฟื้นฟูกิจการก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของดีเอสไอ ในส่วน ปปง.จะยังเดินหน้าตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ผิดกฎหมายต่อไป”เลขาธิการ ป.ป.ง. ย้ำทิ้งท้าย