เมื่อวันที่ 3 เมษายน นายอรรถพล เจริญชันษา ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการเข้าตรวจสอบสนามแข่งรถ โบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีด เวย์ โครงการโบนันซ่า หมู่ 11 ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และพื้นที่ปลูกบ้านพักในโครงการโบนันซ่า รีสอร์ตเขาใหญ่ ที่ได้รับการร้องเรียนว่า ก่อสร้างบุกรุกพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเสียดอ้า เขานกยูง เขาอ่างหิน ว่า ในส่วนที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์แสดงความเป็นเจ้าของจำนวน 103 ไร่ จากการครอบครองใช้ประโยชน์ทั้งหมด 151 ไร่ นั้น ได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.ปากช่องเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่กรมป่าไม้ ต้องดำเนินการคือ การประกาศใช้มาตรา 25 พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ให้มีการรื้อถอน และเตรียมฟื้นพื้นที่ให้กลับเป็นผืนป่าธรรมชาติต่อไป ใช้เวลาหลังจากนี้อีกไม่เกิน 2 เดือน ทั้งนี้ ทางเจ้าของก็ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการรื้อถอน
จ่อสอบสนามกอล์ฟ250ไร่
นายอรรถพล กล่าวว่า ส่วนที่เจ้าหน้าที่ทหารกำลังจะเข้าไปตรวจสอบ สนามกอล์ฟเนื้อที่ประมาณ 250 ไร่ ในพื้นที่ อ.ปากช่อง นั้น ทางกรมป่าไม้อยู่ระหว่างการรอประสานงาน เพื่อให้เข้าไปตรวจสอบอยู่ เบื้องต้นทราบว่า ทางเจ้าของขอเวลาในการรวบรวมเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ คาดว่าจะเป็นประมาณสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามหากได้รับการประสานมาจากทางทหารก็ต้องเข้าไป รังวัด และเปรียบเทียบภาพถ่ายทางอากาศ รวมทั้งตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่ทางเจ้าของนำมายืนยันความถูกต้อง
ยันไม่ใช่เรื่องการเมือง
เมื่อถามว่า การเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ของโบนันซ่าครั้งนี้ เป็นเรื่องของการเมือง เพราะก่อนหน้านี้ โบนันซ่าเคยเปิดสถานที่ให้เป็นที่ประชุมของคนเสื้อแดงใช่หรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่เรื่องการเข้าไปตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาตินั้น เป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้อยู่แล้ว ครั้งนี้ ได้รับการประสานมาจากกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ ที่จะต้องดำเนินการเรื่องนี้ ต้องเข้าไปดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ว่าในพื้นที่ไหน ก็ไม่มีการยกเว้นทั้งสิ้น
เดินหน้าทวงคืนผืนป่าทั่วปท.
นายอรรถพล กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้เป็นแผนระยะยาวที่เรียกว่า ยุทธการทวงคืนผืนป่า ที่ถูกบุกรุกทั่วประเทศ เวลานี้ชุดพยัคฆ์ไพร ที่นำทีมโดย นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.ส่วนยุทธการด้านการป้องกันและปราบปราม อยู่ระหว่างทำยุทธการป่าสักยั่งยืน พร้อมทีมงาน ความมั่นคง ทหารและตำรวจในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เข้าตรวจยึด กลุ่มนายทุนที่บุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำ ปลูกยางพาราในลุ่มน้ำป่าสักทั้งหมด ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะยึดคืนให้ได้ 20,000 ไร่ จากนั้นก็จะออกปฏิบัติการพื้นที่อื่นๆ ต่อไป โดยยืนยันว่า หากมีการบุกรุกพื้นที่ป่าจริง จะไม่มีการยกเว้นอย่างเด็ดขาด
ที่ดินโคราชสั่งจนท.ลุยตรวจ
ทางด้าน นายมนศักดิ์ อารักษ์ ที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า สำนักงานที่ดินจังหวัดฯ ได้มีหนังสือสั่งการลงไปให้ทางสำนักงานที่ดิน จ.นครราชสีมา สาขาปากช่อง ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์บริเวณสนามแข่งรถในโครงการโบนันซ่า เขาใหญ่รีสอร์ท ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ได้รายงานด้วยวาจาว่า มีบางส่วนของสนามแข่งรถ ซึ่งอยู่นอกเอกสารสิทธิ์ บางส่วนมี น.ส.3 ก. ซึ่งออกมาหลายปีแล้วประมาณปี พ.ศ.2503โดยการเดินสำรวจออกโฉนด ในส่วนที่อยู่นอกเขต น.ส.3 ก. เป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เป็นเจ้าของพื้นที่จะต้องเข้าไปดูแลรับผิดชอบว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากมีการสร้างสนามแข่งรถและบ้านพักตากอากาศบางส่วนอยู่ในพื้นที่ ตามที่ปรากฏเป็นข่าว
ขีดเส้น7เมย.รู้ผล-จ่อเพิกถอน
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้สำนักงานที่ดินจังหวัดฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตนได้สั่งการกำชับลงไปอีกครั้งว่าวันจันทร์ที่ 7 เมษายนนี้ จะต้องมีข้อเท็จจริงเบื้องต้น ส่วนหลักฐานเอกสารสิทธิ์บริเวณโครงการโบนันซ่า หากออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย สำนักงานที่ดินจังหวัดฯจะต้องรายงานให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และรายงานไปยังกรมที่ดิน เพื่อดำเนินการเพิกถอนแก้ไขตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินต่อไป
สั่งจนท.ตรวจทุกแปลง
นายมนศักดิ์ กล่าวอีกว่า เอกสารที่ดินที่ออกเป็น น.ส.3 ก. นั้น เนื่องจากสมัยก่อนเป็นการเดินสำรวจแล้วออกให้กับราษฎรผู้ถือครอง โดยเป็นชื่อของราษฎรและซื้อต่อกันจนมีการโอนมาเป็นกรรมสิทธิ์ของโบนันซ่า โดยเอกสารสิทธิ์ที่โบนันซ่านำมาแสดงนั้นเป็นชื่อของชาวบ้านที่ถือครองที่ดิน ซึ่งตนได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบทุกแปลงเพื่อดูให้ละเอียด เพราะที่ดินของโบนันซ่ามีเป็นจำนวนหลายพันไร่ และ จุดเกิดเหตุเป็นจุดที่อยู่ในซอกเขาเราก็ต้องตรวจเอกสาร เพราะอาจจะเกิดความผิดพลาดเสียหายได้
ตรวจสอบในรัศมี1กม.
นายมนศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการตรวจบริเวณรอบพื้นที่นั้น ได้สั่งการลงไปว่าให้มีการตรวจสอบในรัศมี 1 กม. จากจุดเกิดเหตุว่ามีส่วนไหนอีกที่มีปัญหา เบื้องต้นเราตรวจเอกสารก่อนแล้วตรวจจากแผนที่แสดงในเขตที่ดินของรัฐ เช่น แนวเขตป่าไม้ถาวร แนวเขตป่าสงวนแห่งชาติ ว่า บริเวณที่ออกโฉนดมีข้อผิดพลาดอะไรบ้าง ถ้าไม่มีก็จะได้ดูเฉพาะส่วนนี้ แต่ส่วนนี้ที่เราลงไปตรวจพบมีการสร้างสนามแข่งและที่พักออกมานอกเขตของ น.ส.3 ก ซึ่งทางเจ้าของเองยอมรับแล้วว่า เขาก่อสร้างออกมานอกเขต และยินดีที่จะส่งคืนพื้นที่ให้ แต่ในส่วนที่มีการส่งคืนแล้วก็เป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบ ส่วนที่ทางโบนันซ่านำมาแสดงมีจำนวน 47 ไร่ ทราบว่า ทางฝ่ายความมั่นคงเอาจีพีเอสลงไปจับ ซึ่งยังไม่ละเอียดพอ เพราะต้องดู น.ส.3 ก่อน ว่าอยู่ตรงไหน เราประสานไปยังฝ่ายความมั่นคงที่อยู่ในพื้นที่ ขอเรียนว่าที่ดินแปลงนี้อยู่คาบเกี่ยวกับเขตป่าสงวนแห่งชาติ ฉะนั้น การจะออกโฉนดจะต้องปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด
ไล่บี้นส.3ก.ถูกต้องหรือไม่
นายมลศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของทางที่ดิน เบื้องต้นจะตรวจสอบ น.ส.3 ก ก่อนตามที่ทางโบนันซ่านำมาอ้างว่าอยู่ตรงไหน และตรวจสอบที่ไปที่มาว่า เป็น น.ส.3 ก ที่ถูกต้องหรือเปล่า ถ้าไม่ถูกต้องเราจะดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง ให้เป็นไปตามระเบียบตามประมลกฎหมายที่ดิน ส่วนพื้นที่ดังกล่าวซึ่งสำรวจจากสายตาส่วนใหญ่เป็นภูเขาล้อมรอบสามารถออกเป็น น.ส.3 ก.หรือโฉนดได้หรือไม่นั้น ตนเรียนว่าหากอยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติก็สามารถออกได้ แต่หากแปลงไหนที่คาบเกี่ยวเขตป่า เราต้องให้ป่าไม้มาดูว่าเขตป่าไม้อยู่ตรงไหน เราจะออกเอกสารสิทธิ์ที่ดิน เฉพาะส่วนที่อยู่นอกเขตป่าเท่านั้น
ยันไม่หนักใจ ทำตามหน้าที่
“การดำเนินการเกี่ยวกับคดีของโบนันซ่า ซึ่งเป็นคนใหญ่โตในสังคม ขอเรียนว่าไม่หนักใจ อันนี้เรามองว่าเป็นเรื่องของความถูกต้องและเป็นนโยบายของรัฐบาลเรื่องการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต้องยอมรับว่า อ.ปากช่อง โดยเฉพาะฝั่งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นมรดกโลกการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การรักษาทรัพยากรธรรมชาติเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล เราต้องตอบสนองนโยบายของรัฐบาลและนโยบายของจังหวัด ซึ่งไม่มีนโยบายที่จะนำที่ดินที่เป็นเขตอุทยานแห่งชาติหรือป่าสงวนแห่งชาติมาออกอกสารสิทธิ์แจกให้กับใคร ฉะนั้นเราต้องปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด” นายมลศักดิ์ กล่าว
บิ๊กต๊อกวอนอย่าโยงการเมือง
ขณะเดียวกัน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ยังต้องให้เวลาในการสอบสวนเรื่องนี้ เพราะคดีเพิ่งดำเนินการ แต่ในทางพฤตินัยก็น่าจะชัดเจน ซึ่งเรื่องราวมันมีแนวทางอยู่แล้ว แต่ขอให้เราดำเนินการ โดยต้องมีคุณธรรม ไม่กลั่นแกล้งเขา ให้เขาได้รับความเป็นธรรม และอย่าพยายามผูกโยงเรื่องดังกล่าวไปเกี่ยวกับเรื่องขั้วการเมือง ต้องแยกประเด็น มิฉะนั้นจะแก้ปัญหาบ้านเมืองไม่ได้ ตนเดินหน้าแก้ปัญหาทุจริตอย่างเดียว
อย่าเพิ่งเร่งรัดขอเวลาสอบก่อน
“เรื่องโบนันซ่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ดำเนินการ ผมต้องเรียกให้เขารายงานรายละเอียดว่าไปปฏิบัติการบริเวณไหนบ้าง และต้องให้ความเป็นธรรมกับโบนันซ่า เพราะเรื่องมันยังไม่จบ ก็ต้องสอบถามทุกหน่วย ทั้งฝ่ายดูแลพื้นที่ เจ้าหน้าที่ และต้องใช้เวลา” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว และว่า อย่าเพิ่งไปเร่งรัดการสอบสวน เรามีระบบนี้ตรวจสอบแล้ว และจะได้ตอบได้ว่าทำไมจึงไม่ดำเนินการในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี