อุบัติเหตุนักปั่นจักรยานถูกรถชนยังเกิดขึ้นรายวัน โดยรายล่าสุดเกิดขึ้นอีกเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 พฤษภาคม ร.ต.ท.คหัฐ บุตรเวียงพันธ์ ร้อยเวร สน.ประเวศ ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะชนรถจักรยาน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณถนน เลียบมอเตอร์ เป็นถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ ขาออก มุ่งหน้าบางกระปิ แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กทม.จึงรุดไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงบริเวณถนนเลียบมอเตอร์เวย์ไหล่ทางฝั่งซ้ายสุด พบรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นวีโก้ แชมป์ สีบอร์นเงิน หมายเลขทะเบียน ฒษ 2138 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ สภาพกันชนหน้าด้านซ้ายมีร่องรอยชนและยุบเข้าไป ใต้กันชนหน้า พบรถจักรยานเสือภูเขาพังยับเยินติดอยู่ เสียหายทั้งคัน ใกล้กันภายในร่องถนนพบนายสุทธิพันธ์ จันทนคูล อายุ 75 ปี คุณตาเจ้าของจักรยานได้รับบาดเจ็บ มีแผลถลอกบริเวณแขนและขา เจ้าหน้าที่ช่วยปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลวิภาราม

นายนวพล แก้วสวัสดิ์ อายุ 26 ปี โชเฟอร์รถกระบะ ซึ่งยืนรอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า เป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งย่านบางกระปิ ก่อนเกิดเหตุตนขับรถตามคันหน้ามากระชั้นชิด แต่รถคันหน้าเกิดเลี้ยวซ้ายกระทันหัน พอดีกับคุณตาปั่นจักรยานออกกำลังกายตอนเข้าผ่านมาพอดีทำให้พุ่งเฉี่ยวชนเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ โชคดีที่ไม่ได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต

เบื้องต้นตำรวจยังไม่แจ้งข้อหาอย่างใด ต้องสอบสวนพยานและคนขับรถกระบะอย่างละเอียดอีกครั้งถึงสาเหตุพบเกิดจากความประมาทก่อนจะแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับนายนวพลต่อไป

วันเดียวกัน นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญแจกันพระราชทานจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมงกุฎราชกุมาร โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้แก่ว่าที่ ร.ต.สุรพล ตาสิงห์ และนายพงษ์ศักดิ์ พลสิงห์ นักปั่นจักรยานที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกลุ่มปั่นจักรยานเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ที่ชั้น15 ตึกสุจิณโณ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

ทั้งนี้อาการของทั้งสองพ้นขีดวิกฤติแล้ว ซึ่งทั้งสองต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ที่ทรงเห็นความสำคัญของนักปั่นจักรยาน

ด้านนายสุริยะ กล่าวว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงห่วงใย พระองค์เคยมาปั่นจักรยานที่เชียงใหม่หลายครั้ง ขณะเดียวกัน ในทางกฎหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการ ส่วนสถานบริการ ต้องเข้มงวดกวดขันให้ปิดตรงเวลา อีกทั้ง จะมีการหยิบยกการเป็น Slow City บริเวณคูเมือง โดยจำกัดความเร็วยานพาหนะไม่เกิน40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ขณะที่ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างเต็มที่โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานดำเนินการอย่างเข้มงวดมากขึ้นโดยเฉพาะตั้งจุดตรวจ เพื่อตรวจสอบผู้ขับขี่ยานพาหนะ การวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดกรณีที่สงสัยว่ามึนเมาให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและการควบคุมการเปิดปิดสถานบริการที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ตรงตามเวลากฎหมายกำหนด

ด้านร.ศ.พิเชษฐ เมาลานนท์ คณบดีคณะนิติศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยญี่ปุ่นร่วมสมัย มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงกรณีเหตุนักศึกษาสาวเมาแล้วขับ พุ่งเข้าชนนักปั่นจักรยานเสียชีวิตที่เชียงใหม่ โดยเห็นด้วยกับมาตรการแก้ปัญหาเมาแล้วขับจะต้องใช้นโยบาย เพิ่มโทษและบังคับให้เข้มงวด เพื่อลดยอดผู้ตายจากเมาแล้วขับเหมือนกับประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้และจีน เชื่อว่าถ้าจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าจำต้องให้ยาแรงๆ