ที่อ.หนองหาน จ.อุดรธานี หนุ่มป่วยจิตเวชใช้เชือกผูกนิ้วเท้าลั่นไกปืนใส่หน้าผาตัวเองดับคาเล้าไก่ ญาติเศร้าเผยเรื่องราวป่วยมานานกว่า 2 ปี เครียดเป็นหนี้สินหลังไปต่างประเทศถูกจับหนีแท็ค เคยคิดสั้นจะผูกคอตัวเองแต่ญาติมาเห็นก่อนสุดท้ายครั้งนี้ไม่รอด
วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น.วานนี้ (13 พ.ค.68) กู้ชีพ อบต.หนองไผ่ ต.หนองไผ่ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี รับแจ้งมีคนถูกอาวุปืนยิงหน้าผากตัวเองได้รับบาดเจ็บ ที่เล้าไก่ หลังบ้านแห่งหนึ่ง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งได้รีบออกไปรับผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลหนองหาน จ.อุดรธานีทันที เพื่อทำการรักษาอย่างเร่งด่วน ในที่และเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ฯ พบอาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก หลังนำส่งผู้บาดเจ็บทราบว่าได้เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลหนองหาน ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมา คือนายเมธี อายุ 39 ปี
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้งและพบว่าญาติได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพผู้เสียชีวิตไว้ที่บ้าน โดยมีชาวบ้านต่างพากันมาช่วยงานศพกันจำนวนมาก ขณะที่จุดเกิดเหตุบริเวณเล้าไก่พบว่าญาติได้ใช้เผากองเลือดของผู้เสียชีวิตและมีการเชิญดวงวิญาณผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลแล้วก่อนที่นักข่าวไปถึง และมีชาวบ้านที่รู้ชาวต่างพาทยอยเดินทางมาตามข่าวร้ายของหนุ่มรายนี้ตลอดทั้งวัน
น้าผู้เสียชีวิต เล่าว่า หลังเกิดเหตุรู้ข่าวก็รีบมาดูมาถึงก็เห็นหลานนอนไม่ได้สติเลือกกระจายเต็มเล้าไก่ ต่อมากู้ชีพ อบต.มาถึงก็รีบพาไปส่งโรงพยาบาลตอนนั้นหลานยังมีชีวิตอยู่ เจ้าหน้าที่แจ้งว่ากระสุนเข้าสมองซึ่งเป็นจุดสำคัญ สำหรับปืนนั้นก็เป็นปืนเก่าของผู้เสียชีวิต โดยหลานใช้เชือกผู้ไว้ที่ปลายนิ้วเพื่อลั่นไกแล้วหันปลายกระบอกปืนใสหน้าผาก
หลานคนนี้มีอาการป่วยจิตเวชมานานกว่า 2 ปี พ่อแม่พาไปรักษาพบแพทย์และรับยาเป็นประจำทุกเดือน ก่อนจะเกิดสัปดาห์ที่ผ่านมาหลานก็คิดสั้นกำลังจะใช้เชือกผูกคอตัวเอง แต่แม่กลับมาเห็นก่อนจึงไม่ผูก และ 2 วันก่อนเกิดเหตุหลานก็พูดไปเรื่อยบอกว่าอยากตายซึ่งแม่เขาก็ได้แค่ปลอบใจไม่ต้องคิดมาก สุดท้ายก็จบชีวิตได้ในที่สุด
เท่าที่รู้สาเหตุที่หลานป่วยจิตเวชก็เพราะหลานเคลียร์ปัญหาหนี้สินที่ก่อไว้ตอนไปต่างประเทศและก่อนกลับมาก็ถูกจับติดคุกที่นั้นเพราะหนีแท็ค พ่อแม่ต้องขายวัวควายใช้หนี้ให้แทน นี่อาจเป็นสาเหตุที่หลานคิดมากจนป่วย ส่วนตัวแล้วในฐานะน้าของผู้เสียชีวิตก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากเป็นไปได้ก็อยากให้หลานฟื้นคืนมา ส่วนศพของหลานพรุ่งนี้ (15พ.ค.) จะมีพิธีฌาปนกิจต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี