“วัดคันลัด” ตามประวัตินั้นวัดนี้ตั้งอยู่เลขที่ 4 บ้านทรงคนอง ตำบลทรงคนอง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นราว พ.ศ.2349 ในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อชาวรามัญได้อพยพ
มาจาก จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พ.ศ.2358 ผู้ที่เป็นหัวหน้านำชาวรามัญมาตั้งถิ่นฐานที่เมืองนครเขื่อนขันธ์ ท่านมีนามว่า “พระยานครเขื่อนขันธ์รามัญราชชาติเสนาบดีศรีสิทธิสงคราม” (ทอมา คชเสนี) เมื่อชาวรามัญแยกย้ายกันมาอยู่ ก็อยู่กันเป็นกลุ่มๆ เหมือนกับครั้งที่อยู่เมือง เตริน หรือที่จังหวัดปทุมธานี หรือที่จังหวัดนนทบุรี ส่วนผู้ที่มาอยู่ที่ตำบลทรงคนองแห่งนี้ ก็เลือกเอาวัดคันลัด ที่มีอยู่เดิมแล้ว เป็นวัดประจำหมู่บ้าน แล้วก็นิมนต์เอาพระชาวรามัญมาปกครองวัด เพื่อที่จะได้เอาบุตรหลานของตนบวช และศึกษาธรรมวินัย
ตามประวัติสำหรับเจ้าอาวาสที่มีเชื้อสายรามัญปกครองวัดเท่าที่ทราบมี 5 รูป รูปที่ 1 พระครูหนู รูปที่ 2 พระอาจารย์แกล้ง รูปที่ 3 พระอุปัชฌาย์ เชย ทองเจริญ พ.ศ.2416-2490 รูปที่ 4 พระครูบรรจง ทองเจริญ พ.ศ.2492-2511 รูปที่ 5 พระสมุทรพัฒนโสภณ เจ้าคณะอำเภอพระประแดง (เป็นเจ้าอาวาส พ.ศ.2512-2554) จนมาถึงล่าสุดคือ พระครูสุภัทรกิจาทร (พระอาจารย์หลาย) เจ้าอาวาสวัดคันลัดองค์ปัจจุบัน
ด้วยความมีลักษณะพื้นที่โดยทั่วไปเป็นที่ราบลุ่มทิศตะวันออกจดที่เอกชน ด้านทิศ ตะวันตกจดคลองลัดโพธิ์ (ขณะนี้เนื้อที่บางส่วนได้ถูกเวนคืนขยายคลองลัดโพธิ์ ตามโครงการพระราชดำริ) ด้านทิศเหนือจดที่เอกชน ด้านทิศใต้ติดถนนเพชรหึงส์-บางกอบัว รวมเนื้อที่ 4 แปลง หลังถูกเวนคืนเหลือประมาณ 10 ไร่เศษ
มีพระพุทธรูปประจำวัด ก็คือหลวงพ่อหินอ่อน (พระ มัณฑะเล) เป็นศิลปะแบบมอญสวยงาม เดิมอยู่ในตู้ลายไม้สักตั้งอยู่ที่หอสวดมนต์แต่ภายหลังมีโจรชอบมาโขมยพระ ปรากฏอยู่บ่อยๆ เลยต้องยกเก็บไว้ในกุฏิเจ้าอาวาส เมื่อถึงงานปี หรือเทศกาลสำคัญจึงจะยกมาให้ประชาชนสักการะกัน
พระอุโบสถหลังเดิมก่ออิฐถือปูน หน้าบันมีจานกระเบื้องประดับ หลังคาไม่มีช่อฟ้า ใบระกา กำแพงแก้ว สวยงามมาก ต่อมาภายหลังได้เกิดการชำรุดหักพังไปตามสภาพ (เคยได้รับการขึ้นทะเบียนจากกรมศิลปากร) มีพระประธานประจำพระอุโบสถ ที่จีวรมีลายดอกพิกุล (ปัจจุบันอยู่หน้าพระอุโบสถหลังใหม่) พระอุโบสถหลังใหม่สร้างเมื่อ พ.ศ.2512 แล้วเสร็จเมื่อ พ.ศ.2517 มีความกว้าง 8 เมตร ยาว 22 เมตร ลักษณะทั่วไปเป็นทรงไทย คอนกรีตเสริมเหล็ก ประตู หน้าต่าง ไม้แกะสลักลวดลายลงรักปิดทอง ภายในพื้น และผนังถึงขอบหน้าต่าง ปูหินแกรนิต ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมือวันที่ 15 มกราคม พ.ศ.2513 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 25 เมตร ยาว 50 เมตร ได้ทำการผูกพันธสีมา เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2518 ศาลาการเปรียญหลังเดิมเป็นศาลาไม้ 3 หลัง ติดต่อกัน แต่ปัจจุบันได้รื้อไปแล้ว
หน้าศาลาหลังเดิม มีเจดีย์ทรงไม้ย่อมุมสี่เหลี่ยม จำนวน 2 องค์ ขณะนี้ยังมีอยู่แต่ทรงได้เปลี่ยนไป เนื่องจากได้มีการถมที่หนีน้ำท่วม และเทพื้นเป็นลานจอดรถ ศาลาการเปรียญหลังใหม่ใหญ่กว่าหลังเดิม ก่ออิฐถือปูนทั้งหลัง ด้านหลังมีโรงครัว ห้องน้ำ ด้านหน้าอุโบสถมีเจดีย์สถูปบรรจุอัฐิอดีตเจ้าอาวาส และพระที่มรณภาพ ทรงยุโรป ด้านซ้ายมีหอระฆังโบราณทรงสวยมาก แต่ขณะนี้ชำรุด เสาหงษ์ประจำวัดรามัญเดิมนั้นตั้งอยู่ที่บริเวณเซเว่นอีเลฟเว่น อดีตท่านเจ้าอาวาสอุปัชฌาย์ เชย ทองเจริญ (พ.ศ.2410-2490) ท่านเล่าว่า สร้างแต่สมัยใดไม่ทราบ ท่านเกิดมาก็เห็นเสาหงษ์ต้นนี้แล้ว ต่อมาทางราชการได้ตัดถนนผ่านหน้าวัด จึงทำให้เสาหงษ์อยู่ฝั่งตรงข้ามกับทางวัด ซึ่งขณะนั้นวัดรามัญในอำเภอพระประแดงไม่มีเสาหงษ์ประจำวัดเลย และท่านยังได้ทำนายอีกว่า ต่อไปวัดรามัญในอำเภอพระประแดงจะมีเสาหงษ์แทบทุกวัด ซึ่งก็เป็นจริงดังที่ท่านทำนายไว้ แต่เสาหงษ์ต้นเดิมนั้น ได้ถูกย้ายไปอยู่ฝั่งวัด และชำรุดไปในที่สุด ส่วนเสาหงษ์ต้นใหม่ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2546 ฝั่งเดียวกันกับเสาหงษ์ต้นเดิมก็ยังมีศาลา 2 แท่น
ทรงไทย ทางเข้าหมู่บ้านทรงคนอง ชาวบ้านเรียก ศาลาราหูอมจันทร์ และข้างศาลามีต้นประดู่ต้นใหญ่มากขณะนี้ตายไปแล้ว กุฏิสงฆ์ไม้ทรงไทย 2 ชั้น ด้านล่างก่ออิฐถือปูน หอสวดมนต์-หอฉัน ทรงไทยก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น ชั้นล่างใช้สวดมนต์และฉันภัตตาหาร ชั้นบน ใช้เป็นที่เรียนนักธรรม เมรุเผาศพ อยู่ด้านทิศตะวันตก ประกอบด้วยศาลาบำเพ็ญกุศลศพ 5 หลังศาลาทรงไทยหลังสูง 2 ชั้น นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนประชาบาล สถานีอนามัย อาศัยพื้นที่ของวัด
พระครูสุภัทรกิจาทร (พระอาจารย์หลาย) เจ้าอาวาสวัดคันลัดองค์ปัจจุบันนั้น เดิมที่ท่านเป็นคนบ้านคลองด่าน ใกล้วัด
บางเหี้ย หรือวัดมงคลโคธาวาส ท่านเกิดวันที่ 31 พฤษภาคม 2492 ปีฉลู นามสกุลเดิม กิมยงค์ ท่านมีพี่น้อง 13 คน เป็นคนสุดท้อง พระอาจารย์หลาย ได้บรรพชาเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2504 ที่วัดมงคลโคธาวาส หรือวัดหลวงพ่อปาน คลองด่าน ท่านย้ายมาอยู่วัดคันลัด เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2504 ท่านก็จำพรรษาอยู่วัดคันลัดเรื่อยมา
จนอายุครบบวชท่านก็บวชเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2513 โดยมี พระศรีสมุทรคุณ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรปราการ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูมงคลสาธุวัตร วัดมงคลโคธาวาส เป็นพระกรรมวาจารย์ พระอธิการทองหล่อ วัดคันลัด เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายา สุวัฒโน ซึ่งเหรียญพระอาจารย์หลายรุ่นฉลองโบสถ์ รุ่นนี้นับว่าเป็นเหรียญที่พระอาจารย์หลายเป็นผู้จัดสร้างเองทั้งหมดเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการจัดสร้างวัตถุมงคลของอาจารย์หลายมา เป็นเหรียญที่ท่านมีความตั้งใจจัดทำให้สวยงาม ให้ดีจริงๆ วัตถุประสงค์เพื่อเป็นที่ระลึกในการฉลองโบสถ์ที่ท่านได้ยกโบสถ์ขึ้นมา ใช้เงินบริจาคจากชาวมอญทรงคนอง
สำหรับในวันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม 2558 ที่จะมาถึงนี้ช่วงตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป วัดคันลัดของเชิญร่วมงานแสดงมุฑิตาจิต ทำบุญอายุวัฒนมงคล ครบรอบ 66 ปี พระครูสุภัทรกิจาทร (พระอาจารย์หลาย) เจ้าอาวาสวัดคันลัด ตำบลทรงคนอง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งประชาชนที่มาร่วมงานครั้งนี้ทางพระอาจารย์หลาย แห่งวัดคันลัดเตรียมมอบองค์พ่อพิฆเนศ รุ่น มหาสมปรารถนา เนื้อทองทิพย์ แก่ผู้ที่เดินทางมาร่วมงานทุกท่านโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี