สุดโหดวางบึ้มยามเช้า

ทหารพระดับ2

ขณะคุ้มกันบิณฑบาต

ใจกลางอำเภอสายบุรี

สุไหงโกลกพิทักษ์เมือง

ประชาชนจับมือสู้โจร

ร.ต.ท.เชาวลิต อาตเต้ง พนักงานสอบสวนสภ.สายบุรี จ.ปัตตานี รับแจ้งเมื่อเช้าวันที่26 กรกฎาคม เหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลเมืองตะลุบัน บริเวณถนนด้านหลัง สภ.สายบุรี เบื้องต้นเป็นชุดพัฒนาสันติ 106 ทำหน้าที่ รปภ.พระ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร 3 นาย และพระ 2 รูป ชาวบ้าน 3 คน   โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารชุดดังกล่าวกำลังปฎิบัติหน้าที่คุ้มครองพระออกบิณบาตร ปรากฏว่าได้เกิดระเบิดขึ้น โดยคนร้ายได้วางระเบิดแสวงเครื่องซุกไว้ในถังขยะ 

สำหรับรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 9 ราย ดังนี้ 1.จ.ส.ท.ชนันท์  พุ่มพิพัฒน์  อายุ40 ปี  2.ส.ท.วรรณใหม่  ราคะโน  อายุ 28 ปี 3.ส.ท.พูนศักดิ์ วรรณวีระ 25 ปี 4.พระภิกษุ พยอม สุขตรี  อายุ 54 ปี 6.พระเอกพล ศรีโอสถ อายุ 39 ปี  7.นางสมใจ วิเศษสุวรรณภูมิ  8.นายนิวัฒน์ นิมะ 9.นายสุวาท คงอินทร์ ได้นำตัวส่ง รพ.ยุพราชสายบุรี

ล่าสุดพบมีทหารเสียชีวิต 1 นาย ทราบชื่อ.ส.ท.วรรณใหม่  ราคะโน  อายุ28 ปี  และพระอีก 1 รูป ทราบชื่อ .พระเอกพล ศรีโอสถ อายุ39 ปี  ที่โรงพยาบาลปัตตานี

เหตุการที่เกิดขึ้นดังกล่าว นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเรื่องน่าเศร้าใจและน่าเสียใจอย่างยิ่ง ขณะนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ส่งผู้บริหารระดับสูงลงไปดูแลและให้การช่วยเหลือในทุกทางแล้ว

“เหตุที่เกิด พระสงฆ์กำลังปฏิบัติกิจของสงฆ์ เพื่อให้เกิดสิ่งดีงามของชีวิต แก่ประชาชนทุกหมู่เหล่า โดยไม่ได้เบียดเบียนผู้ใดแม้แต่น้อย ผู้กระทำการในเรื่องนี้เป็นคนมีจิตใจหยาบช้า ไม่รู้จักจำแนกสิ่งใดดี สิ่งใดชั่ว กำลังสร้างความเกลียดชังให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน เพียงเพื่อให้วิธีการใช้ความรุนแรงของตัวเองได้ผล ขัดขวางการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ในฐานะที่ทำงานอยู่กับคณะสงฆ์ไทย จึงอยากขอร้องทุกฝ่าย เข้ามามีบทบาทแก้ไขปัญหามาก กว่านี้ โดยเฉพาะผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชนในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องช่วยยุติความรุนแรงลักษณะนี้”นายสุวพันธุ์ กล่าว

รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวต่อว่า เมื่อเวลาพี่น้องศาสนาอื่นที่ไม่ใช่ชาวพุทธ รู้สึกว่าได้รับการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม ผู้นำทั้งหลายต่างออกมาตำหนิ ออกมาเรียกร้อง ขอให้ได้รับการปฏิบัติที่ถูกต้องตามหลักศาสนา เหตุลักษณะนี้ในหลายครั้งที่ผ่านมาพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้รับอันตราย คณะสงฆ์ได้ใช้หลักขันติธรรม หลักเมตตาธรรม มาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ ณ เวลานี้ที่บ้านเมืองต้องการสันติสุข ท่านทั้งหลายที่เป็นผู้นำศาสนาหลักในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องช่วยหาทางป้องกัน ยุติเหตุ ต้องแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง พระสงฆ์หรือนักบวชของศาสนาอื่น ต้องได้รับการปฏิบัติที่ถูกต้อง รวมทั้งต้องหยุดยั้ง ไม่ให้มีการปฏิบัติต่อพระสงฆ์ด้วยวิธีการรุนแรงทั้งทางตรงและทางอ้อม

ด้านพ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ว่าเหตุการที่เกิดขึ้น เป็นกระทำดังกล่าวน่าจะเป็นการกระทำของพวกสุดโต่งส่วนน้อยที่ยังหลงเหลืออยู่อย่างโดดเดี่ยวจากกระแสสันติสุขในปัจจุบัน เพื่อหวังสร้างความแตกแยกให้เกิดความหวาดระแวงระหว่างศาสนา โดยใช้วิธีการก่อการร้ายตามแนวทางของคนไร้ศาสนา แม้ว่าเหตุทำนองเดียวกันนี้จะเว้นช่วงมานานหลายปี ซึ่งขอวอนสังคมอย่าให้น้ำหนักกับข่าวนี้และขออย่าเผยแพร่รูปภาพของผู้สูญเสียเพราะเกรงว่าจะกลับกลายเป็นการประชาสัมพันธ์ผลงานตามความประสงค์ของผู้ก่อเหตุรุนแรงในที่สุด

วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมวัดโก-ลกเทพวิมล (วัดท่านเอียด) เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายวรเชษฐ พรมโอภาษ นายอำเภอสุไหงโก-ลก /ผอ.ศปก.อ.สุไหงโก-ลก พ.อ.สมจิตร คำประพันธ์ รอง ผบ.ฉก.นราธิวาส พ.ท.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 พ.ต.อ.กองอรรถ สุวรรณขำ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก ร่วม ทหาร ฉก.36 ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก สมาชิก อส.อ.สุไหงโก-ลกที่ 6 ทสปช.สมาชิกกลุ่มพายุ เครือข่ายหมากแดง มูลนิธิเซิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก ผู้ประกอบการร้านค้า นักธุรกิจ ตัวแทนประชาชนในพื้นที่อ.สุไหงโก-ลก ร่วมประชุม

โดยในที่ประชุมได้มีการหารือเตรียมความพร้อมดูแลรักษาความปลอดภัยเมืองสุไหงโก-ลก หลังได้มีการถอดบทเรียนจากเหตุความไม่สงบเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา เพื่อนำมาปรับใช้ ป้องกันการก่อเหตุ แก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ โดยได้มีการแบ่งเขตรับผิดชอบเขตเซฟตี้โซน แบ่งเขตเมือง 7 เขตพื้นที่รับผิดชอบให้ประชาชนมีส่วนร่วม การจัดระเบียบจราจรแบ่งฝั่งวันคู่วันคี่ ในเขตชุมชนแออัดและชุมชนสุ่มเสี่ยง จัดระเบียบการจัดวางถังขยะในเขตเมืองเขตชุมชน หารือความร่วมมือในการติดตั้งกล้องวงจรปิดในร้านหรือหน้าบ้านของตนเอง เพื่อป้องปรามการก่อเหตุ เฝ้าดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยและใช้เป็นเครื่องมือตรวจสอบเมื่อเกิดเหตุขึ้น การติดตั้งอุปกรณ์ไฟฉุกเฉิน ไฟฉาย กรณีไฟฟ้าดับขณะเกิดเหตุกลางคืน เพิ่มเครือข่ายเฝ้าระวังในการติดตามการแจ้งเหตุและรับฟังสถานการณ์ต่างๆ กรณีเกิดเหตุไฟฟ้าดับและมีการตัดสัญญาณขึ้นเมื่อเกิดเหตุ

นอกจากนี้ยังได้มีการหารือการติดตั้งชุดดับเพลิงฉีดน้ำแรงดันสูง ถังเคมีดับเพลิง ลูกบอลดับเพลิง ติดตั้งภายในตัวอาคาร เพื่อดับเพลิงในเบื้องต้นและประชาสัมพันธ์ การจัดการฝึกอบรมประชาชนทั่วไปที่สนใจในการช่วยเหลือป้องกันบรรเทาสาธารณะภัย โดยเฉพาะในเรื่องของการควบคุมเพลิงในเบื้องต้น สำหรับผู้ที่สนใจสามารถประสานทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกได้