5 ส.ค. 58 เวลา 14.30 น. ร.ต.ท.พงศกร วิเศษพันธ์ ร้อยเวร สภ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต บริเวณข้างบ้าน บ.โพธิ์ทอง ต.ห้วยหิน อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.เชิดชัย เปรมปรีดิ์ ผกก.สภ.หนองหงส์ พ.ต.ท.ประเสริฐ กระจาย สว.สส.สภ.หนองหงส์ นำกำลังตำรวจชุดสอบสวน แพทย์ รพ.หนองหงส์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ รุดไปที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงบริเวณข้างบ้านดังกล่าว พบศพผู้ตายทราบชื่อคือ นายอุทัย สอนสิงห์ อายุ 54 ปี เป็นอดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน นอนหงายหน้าเสียชีวิตอยู่บนเบาะที่นั่งคนขับรถไถ สีส้ม สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าลำคอซ้าย 4 แผล และริมฝีปาก 1 แผล อยู่ในชุดเสื้อยืดแขนยาว สีเขียว นุ่งกางเกงขายาวสีลายพราง และอุปกรณ์ทำการเกษตรอยู่บนรถไถ ใกล้ศพบนรถไถ พบลูกกระสุนปืน ตกอยู่ 2 เม็ด และห่างจากรถไถที่พบศพเล็กน้อยบนพื้นที่ดินพบลูกกระสุนปืน ตกอยู่ 2 เม็ด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า นายอุทัย ผู้ตายมีอาชีพทำสวนอ้อย ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถไถออกจากบ้านจะไปไร่อ้อยที่อยู่ในหมู่บ้าน ซึ่งขณะที่กำลังขับรถไถออกจากบ้านอยู่นั้น ได้ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ร่างนายอุทัย จำนวน 1 นัด กระสุนเจาะที่ลำคอ และริมฝีปากนอนหงายหน้าเสียชีวิตคาที่บนรถไถ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบโดยรอบสถานที่เกิดเหตุ พร้อมสอบพยานแวดล้อม และบ้านที่อยู่ใกล้เคียง จนทราบว่า ผู้ต้องหาที่ยิงนายอุทัย เสียชีวิต คือ นายวิโรจน์ บุตรธรรม อายุ 20 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆ ของนายอุทัย ได้หลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นญาติพี่น้องตั้งอยู่ห่างกันไม่ถึง 10 เมตร
เบื้องต้น นายวิโรจน์ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า เป็นคนยิงนายอุทัยเสียชีวิตจริง ส่วนสาเหตุการยิงเกิดจากอะไรนั้น ไม่ยอมบอก เพราะยังมีอาการเบลอๆ พูดวกวนไปมา จึงนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยได้ก่อเหตุยิงจากชั้นสองของบ้านตัวเอง ซึ่งได้ใช้ปืนแก๊ปยาว ไทยประดิษฐ์ ที่ทำขึ้นเอง ส่องรอดฝาผนังบ้านลงไปที่รถไถของนายอุทัย ขณะขับรถไถออกจากบ้านจะไปไร่อ้อย จึงลั่นไกยิงใส่ 1 นัด กระสุนลูกปรายพุ่งใส่ร่างนายอุทัย เสียชีวิตคาที่บนเบาะที่นั่งคนขับรถไถ ก่อนจะนำที่ใช้ยิงไปซ่อนไว้ใต้ตู้ในบ้าน จนตำรวจมาพบแล้วสอบสวนและจับกุมตัวดังกล่าว
จากนั้น ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายวิโรจน์ ผู้ต้องหา ไปสอบสวนที่ สภ.หนองหงส์ ถึงสาเหตุการยิงนายอุทัย เสียชีวิต ที่แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง ท่ามกลางชาวบ้านจำนวนมากที่มามุงดูเหตุการณ์
ในเบื้องต้นแจ้งข้อหา “ฆ่าผู้คนโดยเจตนา และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนางพรทิวา สอนสิงห์ อายุ 47 ปี ภรรยาผู้ตาย ที่ยังอยู่ในอาการเศร้าโศก ตลอดเวลา เล่าว่า ปกติสามีไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร รวมทั้งนายวิโรจน์ ลูกของพี่สาว ที่เป็นหลานชายด้วย โดยสามีจะตั้งหน้าทำมาหากินอย่างเดียว และจะออกไปทำไร่อ้อยประจำ ในวันนี้ก็กำลังจะขับรถไถไปไร่อ้อย แต่ก็มาถูกยิงเสียชีวิตอยู่บนรถไถที่ใช้ทำมาหากินเสียก่อน
นางพรทิวา เล่าต่อว่า ส่วนนายวิโรจน์ หลานชายที่ก่อเหตุนั้น มีอาการทางประสาทตั้งแต่ช่วงบวชเมื่อปี 57 เคยจะพาไปหาหมอ แต่ก็ไม่ไป ทุกวันนี้อยู่บ้านก็ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้านทั่วไป ไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ซึ่งก่อนหน้านี้แต่นานมาก สามีเคยเตือนหลานชายให้ทำตัวดีๆ หน่อย เพราะห่วงอนาคตให้ช่วยพ่อแม่ทำงาน แต่ก็ไม่ได้มีปากเสียง หรือทะเลาะกันอย่างใด ซึ่งการก่อเหตุครั้งนี้หลานชายอาจจะเกิดจากอาการทางจิต แต่ไม่คิดว่าจะถึงขึ้นลงมือยิงน้าชายเสียชีวิตดังกล่าว รู้สึกเสียใจ เพราะไม่น่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับครอบครัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี