โยงบิ๊กเนม!‘ตัวแม่พันธุ์ใหม่’ปลุก‘กกต.-ดีเอสไอ’กล้าหาญทำ‘คดีฮั้ว สว.’ให้ถึงที่สุด เผย‘สว.เสียงข้างน้อย’เริ่มถูกคุกคาม ตัวเองโดนตั้งแต่ต้น อยู่มา 10 เดือนถูกขวาง ได้นั่ง‘กมธ.ประชามติ’เพียงชุดเดียว

16 มิถุนายน 2568 ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา(สว.) กล่าวถึงกรณีคดีฮั้ว สว. ที่ล่าสุดปรากฏข้อมูลคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 มีมติออกหมายเพื่อเรียกตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการล็อต 7 ประมาณ 20 คน ซึ่งระบุมีผู้นำพรรคการเมืองหนึ่ง 2 ราย ที่เรียกกัน “2 น.” ว่า ตนได้ทราบตามข่าวไม่มีข้อมูลวงในใดๆ แต่อยากจะเรียนกับผู้ที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รวมถึงคณะอนุฯ ที่ 26 ซึ่งดำเนินการเรื่องนี้อยู่ ว่าต้องใช้ความกล้าหาญ ในการดำเนินการเรื่องนี้เนื่องจากประชาชนรอดูอยู่ว่า การดำเนินการนี้ จะไปถึงผู้บงการได้หรือไม่ และจะสามารถนำผู้ทุจริตนั้น เข้าสู่กระบวนการรับโทษได้หรือไม่ ย้ำว่า ต้องกล้าหาญ

“ขอให้กำลังใจบรรดาผู้ที่กำลังทำคดีนี้อยู่ ว่าถ้าท่านทำได้สำเร็จ นั่นก็คือคดีประวัติศาสตร์ เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จากการที่ในบรรดา สว.ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเกินครึ่งสภาและมีผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นผู้บงการ เป็นผู้ที่มีอิทธิพล มีอำนาจมากมาย นี่คือประวัติศาสตร์ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้น ถ้าหน่วยงานที่ดำเนินการในเรื่องนี้ สามารถดำเนินการจนถึงที่สุด เอาผู้ที่ทุจริตมาลงโทษได้ ตนมองว่า ประชาชนจะชื่นชม และเห็นว่า กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย มีอยู่จริง” น.ส.นันทนา กล่าว

เมื่อถามถึงการตั้งข้อสังเกตว่า รายชื่อที่ปรากฏ เชื่อมโยงกับพรรคการเมืองหนึ่ง มองว่ามีข้อมูลเชื่อมโยง หรือเป็นการเพ่งเป้า น.ส.นันทนา กล่าวว่า เชื่อว่า วิญญูชนทราบได้ว่า ความเชื่อนี้ เชื่อมโยงตั้งแต่สี สัญลักษณ์ การกระทำพฤติกรรม รวมถึงการลงมติต่างๆ ที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันหมด ซึ่งประชาชนทั่วไปคงทราบดีอยู่แล้ว การดำเนินการพวกนี้ เพียงแต่รอความกล้าหาญของผู้ที่ทำคดี ให้สามารถทำไปจนถึงสุดท้ายได้ และมีการนำเอาผู้ที่เกี่ยวข้องมาลงโทษได้

“อย่าทำให้ประชาชนผิดหวัง เพราะตอนนี้มีหลายคนบอกว่า หรือจะเป็นมวยล้มต้มคนดู คิดว่า เมื่อมาถึงตรงจุดนี้แล้วประชาชนคงไม่ยอมให้กระบวนการนี้สิ้นสุดลง โดยที่ไม่มีผู้รับโทษเลย ซึ่งจะเป็นบาดแผลใหญ่ ของกระบวนการยุติธรรมประเทศไทย” น.ส.นันทนา กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่ สว.เสียงข้างน้อย ที่เคยโหวตให้ชะลอวาระการเลือกบุคคลในองค์กรอิสระ มีการถูกอาฆาตมาดร้ายเริ่มมีการถูกคุกคามเกิดขึ้นหรือยัง น.ส.นันทนา กล่าวว่า เราได้เห็นปรากฏการณ์ที่ทางกลุ่ม สว.เสียงข้างมาก พยายามดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นการลงมติเห็นชอบผู้ไปดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระ แม้ถูกเสียงทัดทาน ทั้งจาก สว.เสียงข้างน้อย และประชาชนที่ดูอยู่ แต่ยังฝืนจะทำต่อไป และเราก็ได้เห็นว่า ผู้ที่เหมือนเป็น สว.เสียงข้างน้อย อาจจะได้รับผลกระทบในเชิงการลงมติเรื่องใหญ่ แม้แต่การคัดเลือก สว.เข้าไปดำเนินในกรรมาธิการชุดต่างๆ ก็ดูเหมือนว่าจะได้รับผลกระทบด้วย เช่น หากใครออกมาขัดขวางไม่ให้มีการเห็นชอบบรรดาผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ก็ได้รับผลกระทบ

“ดิฉันได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ต้นแล้ว ตั้งแต่เข้ามาเป็น สว. ได้รับเลือกให้เป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ ...) พ.ศ. .... ซึ่งหลังจากที่ตนเองออกมาเปิดเผยว่า มีการกลับมติและมตินั้นไปสอดคล้องกับพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง หลังจากนั้น ดิฉันก็ไม่ได้รับเลือกให้เป็นกรรมาธิการพิจารณากฎหมายฉบับใดๆ เลย อยู่มาประมาณ 10 เดือน ได้เป็นฉบับเดียว และเป็นฉบับสุดท้าย ที่เขาบรรจุชื่อดิฉันเข้าไป” น.ส.นันทนา กล่าว

น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่า นั่นหมายความว่า ตนได้รับผลกระทบตั้งแต่ต้นแล้ว คือการกีดกันไม่ให้เข้าสู่กระบวนการใดๆ แต่ตนยังทำหน้าที่ เพื่อออกมาสื่อสาร และบอกกับประชาชนว่า เกิดอะไรขึ้นในวุฒิสภา แต่ก็ให้กำลังใจ สว.เสียงข้างน้อย ที่ได้รับผลกระทบตรงนี้ ว่าต้องอดทน จนกว่ากระบวนการตรวจสอบที่มาของ สว.เสียงข้างมากสิ้นสุด ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในวุฒิสภาได้

-005