6 ส.ค. 58 เวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) ผบช.น พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวช รองผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พ.ต.อ.นิธิศ บุญเจริญ ผกก.สน.อุดมสุข พ.ต.ท.เนติ วงษ์กุหลาบ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม สว.สส.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.อุดมสุข ได้ร่วมกันแถลงจับกุมนายนวพร หรือหน่อง สินมา อายุ 41 ปี ชาว จ.พิษณุโลก พร้อมของกลางโน๊ตบุ๊คจำนวน 3 เครื่องกระเป๋าสะพายลายทหารจำนวน 1 ใบ รถยนต์ ยี่ห้อ มาสด้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กฉ2732ราชบุรี จำนวน 1 คันและของกลางอื่นๆอีกหลายรายการ โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์หรือรับของโจร สามารถจับกุมได้บริเวณร้านซ่อมเครื่องไฟฟ้าไม่มีเลขที่ หมู่ 1 ถ.เพชรเกษม ต.วังละมุด อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
พ.ต.อ.นิธิศ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.อุดมสุขได้รับแจ้งเหตุจากนายพรรษวัส วารี อายุ 32 ปี ผู้เสียหาย ว่าได้มีคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ ภายในบ้านเลขที่ 52/96 หมู่บ้านศุภาลัย ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงและเขตประเวศ กทม. และยังมีผู้เสียหายที่อาศัยอยุ่ในหมู่บ้านศุภลัยอีกสองรายที่เข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา จนเมื่อวันที่ 4 ส.ค.58 นายพรรณธกร กิจธนไพศาล ผู้เสียหายอีกคนมาแจ้งว่าตนเองอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านดังกล่าว มีคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ภายในบ้านได้ทรัพย์สินไปหลายรายการเช่นกัน เชื่อว่าน่าจะเป็นคนร้ายคนเดียวกัน จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จึงได้ประชุมวางแผนสืบสวนหาข่าว จนทราบว่าโน๊ตบุ๊คของกลางได้วางขายอยู่ที่บริเวณ ร้านซ่อมเครื่องไฟฟ้าไม่มีเลขที่ใน จ.นครปฐม ฝ่ายสืบสวนไปเดินทางออกไปตรวจสอบพร้อมกับนายพรรษวัส เมื่อเดินทางไปถึงพบนายนวพร แจ้งว่าตนเองเป็นเจ้าของร้านจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบของกลางโน๊ตบุ๊คยี่ห้อคอมแฟค สีดำ- เทาและโน๊ตบุ๊ค ยี่ห้อ เดล สีบรอนซ์- เงิน และเครื่องประดับจำนวนหนึ่ง จากการตรวจสอบพบว่าเป็นทรัพย์สินหลายรายการที่ได้แจ้งความหายไว้ในพื้นที่ สน.อุดมสุข เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมพร้อมยึดของกลางทั้งหมดมาสอบสวนเพิ่มเติมที่สน.อุดมสุข
จากการสอบสวนนายนวพร ให้การรับสารภาพว่า ตนเองได้ขโมยทรัพย์สินมาจากหมู่บ้านศุภาลัยจริง โดยได้เข้าไปขโมยทรัพย์สินในบ้านจำนวน 5 หลัง แต่ได้ทรัพย์สินมาจำนวน 3 หลัง และเมื่อวันที่ 4 ส.ค.ได้ย้อนกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง ซึ่งทรัพย์สินที่ได้ส่วนมากจะนำไปทิ้งเอาแต่ทองคำ เพื่อนำไปขายเป็นเศษประมาณกิโลกรัมละ 200-300 บาท โดยเลือกที่จะลงมือก่อเหตุเวลาประมาณ02.00น. และเลือกบ้านที่ไม่สัญญาณกันขโมย หรือไม่มีเหล็กดัด เมื่อเข้าบ้านได้แล้ว ถ้าเจอผู้เสียหายที่เป็นผู้หญิงก็จะจับมัดแล้วลวนลาม บางรายจะข่มขืน เพราะเชื่อว่าตนเองหมดประสิทธิภาพแล้ว ปรากฎว่าจุดลับของตนเองก็ยังใช้งานไม่ได้ ซึ่งเคยข่มขืนมาแล้วกว่า 10 ครั้ง จึงบังคับให้บอกที่ซ่อนทรัพย์สินแทน
นายนวพร กล่าวต่อว่า ตนเองไม่ได้มีอาชีพเป็นหลักแหล่งและได้ออกลักทรัพย์ตามบ้านเรือนประชาชนมาแล้วกว่า 4 ปี โดยจะเข้าทำการลักทรัพย์ตามหมู่บ้านผู้คนที่มีฐานะดี เมื่อได้ทรัพย์สินมาแล้วตนเองจะนำมาวางขายบางส่วนเพื่อนำเงินมาใช้จ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าจากการตรวจสอบประวัติของนายนวพรพบว่าเคยเข้าไปก่อเหตุในพื้นที่ สน.อุดมสุข จำนวน 10 ครั้ง พื้นที่ สน.มีนบุรี จำนวน 7 ครั้ง และพื้นที่ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ จำนวน 8 ครั้ง และผู้ต้องหารายนี้เพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำเมื่อปี พ.ศ.2554 ก่อนมาก่อเหตุเดิมซ้ำอีก หลังแถลงข่าวเสร็จเจ้าหน้าที่นำตัวนาวนวพรส่งพนักงานสอบสวน สน.อุดมสุขดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี